คอลัมน์ สดจากเยาวชน
“หนูชอบเจ้าหญิงเบลล์ค่ะ” เสียงน้องปูรณ์ ด.ญ.แก้วเจ้าจอม วิเชียรรัตน์ อายุ 4 ขวบ จากโรงเรียนราชินีบน เล่าให้พี่ๆ ฟังพร้อมนั่งระบายสีว่า “หนูชอบสีเหลือง หนูมีชุดเจ้าหญิงเบลล์ด้วย นะคะ หนูว่าเจ้าหญิงเบลล์ก็ชอบสีเหลืองเหมือนหนู เพราะเจ้าหญิงเบลล์ชอบใส่ชุดสีเหลืองค่ะ”
หนึ่งในบรรยากาศภายในร้านหนังสือเอเชียบุ๊คส สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ จุดนัดพบของเด็กๆ และคุณพ่อคุณแม่ในช่วงปิดเทอมกับกิจกรรม “Things to do for Kids” ที่เอเชียบุ๊คสจัดขึ้น โดยวันเสาร์ที่ผ่านมามีพี่ๆ กลุ่มต้นฝัน นักเล่านิทาน บัณฑิตจากรั้ว มศว มาร่วมจัดกิจกรรม
เมื่อพี่ๆ จากทีมต้นฝันเริ่มเตรียมตัว น้องๆ ที่ระบายสีอยู่ก็เริ่มทยอยเข้ามานั่งจับจองที่นั่ง รอฟังนิทานแสนสนุกจากพี่ๆ
พี่ๆ ทีมต้นฝันเล่านิทานแสนสนุก จนน้องๆ หลายคนนั่งนิ่งและใจจดจ่อไปกับเสียงพากย์และตัวละครที่พี่ๆ กำลังแสดง
“สนุกมากเลยค่ะ หนูไม่เคยดูพี่ๆ แสดงมาก่อนเลย พอคุณแม่พามาดูพี่ๆ เล่านิทานหนูยิ่งชอบ หนูจะบอกให้คุณแม่เล่าแบบนี้ให้ฟังที่บ้านค่ะ” น้องปูรณ์บอกเล่าเมื่อนิทานจากพี่ๆ ทีมต้นฝันจบลง
คุณแม่จอมแก้ว วิเศษชลหาร เล่าว่า “ส่วนใหญ่จะพาน้องปูรณ์ไปปั่นจักร ยาน ดูนิทรรศการสำหรับเด็ก วันนี้ พาน้องปูรณ์มาร้านหนังสือ พอรู้ว่ามีกิจกรรมเล่านิทานสำหรับน้องๆ ด้วย ก็เลยรู้สึกดีที่ร้านหนังสือมองเห็นความสำคัญของเด็กๆ และจัดกิจกรรมดีๆ แบบนี้ ทำให้เด็กๆ สนใจ เพราะบางครั้งเวลาเราเล่านิทานให้เด็กฟังที่บ้าน เราอาจไม่ได้ใส่ใจอะไร ก็เป็นแค่นิทานก่อนนอนธรรมดา แต่มาฟังนิทานที่เอเชียบุ๊คสซึ่งมีทั้งเสียงดนตรี พี่ๆ ทั้ง 3 คนมาเล่านิทานเป็นตัวละครแล้วมีเสียงขึ้นๆ ลงๆ เด็กๆ ก็จะสนุกมากขึ้น”
คุณแม่จอมแก้วกล่าวต่อว่า หนังสือนิทานสำหรับเด็กจะไม่ยาวหรือสั้นจนเกินไป เพราะเด็กๆ จะสนใจได้ไม่นาน หลังจากนั้นเราอาจจะชวนเขาทำอย่างอื่นที่ไม่ใช่ฟังนิทานบ้าง เช่น พาไประบายสีหรือปลูกดอกไม้ ความสนใจของเด็กแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน อย่างน้องปูรณ์ชอบฟังนิทานก็จะสนใจนั่งฟัง ขณะที่เด็กบางคนชอบลงมือทำมากกว่า เราในฐานะคุณพ่อคุณแม่ต้องคอยสังเกตลูกว่าเขาชอบกิจกรรมอะไร แบบไหน เพื่อให้เขามีพัฒนาการต่อไป
“ทุกวันนี้เราสามารถหาอะไรก็ได้ในอินเตอร์เน็ต แต่เรายังชอบความรู้สึกที่ต้องเปิดหนังสืออ่าน เด็กก็ยังชอบอยู่ การ์ตูนในยูทูบไม่เท่ากับการที่พ่อแม่มีเวลาอ่านหนังสือหรือนิทานให้ลูกฟังแน่นอน” คุณแม่จอมแก้วทิ้งท้าย
ด้านพี่ๆ ทีมต้นฝันขวัญใจคนใหม่ของน้องๆ บอกเล่าว่าเริ่มต้นรวมกลุ่มจากการเรียนที่เดียวกันมาก่อน พอเรียนจบก็มาเริ่มจับงานนิตยสารสำหรับเด็กแล้วทำนิทานสัญจร ทางผู้ใหญ่ใจดีของเบอร์ลี่ ยุคเกอร์ เห็นความสามารถในตัวพวกเราก็ให้โอกาสมาทำนิตยสารต้นฝันสำหรับเด็กๆ ซึ่งเป็นงานที่เรารักและเป็นต้นกำเนิดของกลุ่มต้นฝัน
“เรามีโอกาสไปจัดกิจกรรมเล่านิทานให้น้องๆ ในหลายๆ ที่ รวมถึงมีโอกาสจัดห้องสมุดให้โรงเรียนที่ขาดแคลน จะใช้การเล่านิทานเป็นตัวเชื่อมน้องๆ ให้รู้สึกว่าห้องสมุดหรือหนังสือไม่น่ากลัวอย่างที่คิด และถึงแม้ตอนนี้เรายังเป็นทีมต้นฝัน เป็นทีมกลุ่มเล็กๆ แต่ความฝันของพวกเราคือหวังให้การอ่านไปถึงเด็กๆ ทั่วประเทศ โดยอาศัยนิตยสารต้นฝันและกิจกรรมที่เราทำเป็นตัวช่วยให้การอ่านเป็นรากฐานกับเด็กๆ เพื่อเติบโตเป็นต้นไม้ใหญ่ที่สวยงามต่อไป”
สำหรับเทคนิคการเล่านิทานให้สนุก ทีมต้นฝันเผยว่า “วันนี้เราเลือกนิทานกับเสียงดนตรีมาเล่นให้น้องๆ ฟังกัน เมื่อเสียงดนตรีมารวมกับการเล่านิทานจะทำให้ทุกเรื่องกลายเป็นเรื่องสนุกสำหรับเด็กๆ นอกจากการรวมนิทานเข้ากับเสียงดนตรีแล้ว นิทานสามารถรวมเข้ากับการประดิษฐ์ ร้องเพลง เล่น และการทำกิจกรรม หนังสือหนึ่งเล่มเล่าได้เป็นร้อยวิธี ที่สำคัญนิทานเป็นการ ตอบคำถามให้เด็กๆ ได้ง่ายๆ เช่น ทำไมเราต้องอาบน้ำ กินข้าว รวมถึงสามารถต่อยอดจินตนา การให้เด็กๆ ได้ด้วย อย่างเรื่องที่นำมาเล่าพ่อมดซึ่งชอบทำสิ่งไม่ดีมาตลอด ตอนจบพ่อมดก็จะต้องได้รับสิ่งไม่ดีตอบแทน เป็นการสอนเด็กอย่างง่ายๆ โดยที่เด็กไม่รู้สึกว่าโดนสอนอยู่”
กิจกรรม “Things to do for kids” ที่ร้านหนังสือเอเชียบุ๊คส ชั้น 6 เซ็นทรัลเวิลด์ ยังรอต้อนรับน้องๆ ตลอดโปรโมชั่น Children “s Festival อาทิ กิจกรรม Magic Workshop : เด็กๆ จะได้ตื่นตาตื่นใจกับการแสดงมายากล และเรียนรู้เทคนิคการแสดงโดยกลุ่ม Curtain Up Drama & Magic ในวันเสาร์ที่ 25 มี.ค. เวลา 13.30-15.30 น. เข้าร่วมกิจกรรมฟรี สอบถามเพิ่มเติมโทร. 0-2251-8571
