นิสิตจุฬาฯ คว้ารางวัลแผนการตลาด

เวทีนานาชาติ ประเทศสิงคโปร์

คอลัมน์ ไอคิวทะลุฟ้า

นิสิตจุฬาฯ คว้ารางวัลแผนการตลาด – นิสิตภาควิชาการตลาด คณะพาณิชย ศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หรือ Chulalongkorn Business School (CBS) คว้าชัยชนะจากการประกวดแผนการตลาดและการสร้างแบรนด์ “Global Brand Planning Competition 2019” จัดโดยสมาพันธ์การตลาดโลก ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีนันยาง ประเทศสิงคโปร์

แผนการตลาดที่เตรียมไปอย่างรัดกุมเมื่อผสานเข้ากับบิ๊กเพอร์ฟอร์แมนซ์ของทีม One Two Tea จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในที่สุดชนะใจกรรมการและผู้เข้าร่วมการประกวด คว้ารางวัล Best Global Brand Plan หรือแผนการตลาดที่ดีที่สุดมาครอง

ทีม “One Two Tea” คือส่วนหนึ่งของทีมที่สร้างชื่อจากการ ชนะเลิศบนเวทีการแข่งขัน J-MAT ของสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทยปีนี้ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งที่ผ่านมาครองแชมป์การแข่งขันแผนการตลาดต่อเนื่องกันมากว่า 10 ปี ประกอบด้วย ไข่มุก–พุทธสุดา วานิชดี, หมอก–นภสร ตั้งเศรษฐพานิช, ปาล์ม– ฉลองรัฐ รัตนคงสุข และ บีม–ศศิภัทร บุญมี

ไข่มุก พุทธสุดา ในฐานะหัวหน้าทีม อธิบายว่าจริงๆ แล้ว ทีม One Two Tea มีด้วยกัน 10 คน รวมทีมขึ้นเพื่อเข้าร่วมการแข่งขัน J-MAT และถือเป็นโปรเจ็กต์จบการศึกษาที่นิสิตปีสุดท้ายภาคการตลาดทุกคนจะต้องเข้าร่วมการแข่งขัน ปีนี้มีทีมเข้าร่วมทั้งสิ้น 323 ทีม จาก 32 สถาบัน หลังการประกาศผลชนะเลิศ มีเวลาเตรียมตัวเพียง 1 เดือนเท่านั้นเพื่อเป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าแข่งขันที่สิงคโปร์

“เราต้องปรับแผนแทบจะร้อยเปอร์เซ็นต์ เหลือแค่ชื่อทีม One Two Tea เนื่องจากตอนแข่ง J-MAT เราเสนอแผนการตลาดสำหรับตลาดในเมืองไทย แต่พอไปแข่งที่สิงคโปร์บนเงื่อนไขที่แตกต่าง ประการแรกคือความที่เป็น Global มีกรรมการที่แตกต่างเป็นสิบประเทศ บางคนไม่รู้จักแบรนด์ของเราเลยก็ต้องทำให้รู้จักก่อน แม้แต่บิ๊กไอเดีย ‘Infinite You ปลดปล่อยตน จะสายไหนก็ไปให้สุด’ คำว่า Infinite อาจจะเข้าใจว่าวกไปวนมาไม่มีที่สิ้นสุด เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้นจึงเปลี่ยนเป็น Unexpected Experience สื่อถึงประสบการณ์ที่ผู้บริโภคจะได้รับอย่างคาดไม่ถึง” ไข่มุกอธิบาย

ขณะที่ บีม ศศิภัทร กล่าวว่าประสบการณ์ที่ได้จากการแข่งบนเวทีนานาชาติทำให้เห็นโลกที่กว้างขึ้น เห็นวิธีคิดและมุมมองท่ามกลางความต่างของวัฒนธรรม ไม่มีใครบอกได้ว่าอะไรดีกว่าอะไร เราก็แค่ดึงเสน่ห์ของเราออกมาให้สุด ได้เรียนรู้ว่าในโลกของความเป็นจริงแม้จะมีการแข่งขันกับคนอื่น แต่สุดท้ายเราก็แค่แข่งกับตัวเอง ดึงความเป็นตัวของเราเองออกมาและทำให้ดีที่สุด เวทีนี้ทำให้เราเติบโตขึ้นมาก

ด้าน ปาล์ม ฉลองรัฐ เสริมว่า “ที่สิงคโปร์ผมและไข่มุกรับหน้าที่ พรีเซนต์บนเวที ต้องเปลี่ยนบทกันตลอดเวลาจนกระทั่ง 6 ชั่วโมงสุดท้าย เป็นความท้าทาย ต้องสร้างความเชื่อมั่นให้ตัวเองมากๆ บทพูดต้องเป็นภาษาอังกฤษ เราต้องเข้าใจจริงๆ จึงจะพรีเซนต์ออกไปได้ การเดินทางไปประเทศสิงคโปร์ได้ไปเยี่ยมชมมหาวิทยาลัยนันยาง ฯลฯ ทำให้รู้สึกว่ายังมีคนที่เก่งกว่าเราอีกมากมาย เรายังต้องเติบโตและพัฒนาตนเองอีกมากเพื่อก้าวไปสู่ระดับโลก”

เช่นเดียวกับ หมอก นภสร บอกว่า “การได้เข้าร่วมทีมครั้งนี้เป็นการเปิดโลก การได้แลกเปลี่ยนมุมมองทำให้แผนของเรากลมกล่อมมากขึ้น โดยมีอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นที่ปรึกษา เป็นกำลังใจให้เราก้าวขึ้นมาอยู่ตรงนี้ ทุกคนต้องเสียสละมาก เหนืออื่นใดคือมิตรภาพระหว่างทางที่ทำให้ทุกคนเรียนรู้ร่วมกัน รู้จักการเปิดใจ ยอมรับความต่าง เคารพการตัดสินใจของกันและกันบนฐานของการใช้เหตุและผล”