รักที่ไร้เงื่อนไข อุ่นไอหัวใจตูบ

คอลัมน์ สดจากเยาวชน

อุ่นไอหัวใจตูบมิตรภาพของคนกับสุนัข งดงามเสมอ ทั้งในชีวิตจริงและในจอภาพยนตร์ที่มักหยิบเรื่องราวสายสัมพันธ์ของคนกับสุนัขมาบอกเล่า ล้วนสร้างความประทับใจให้ผู้ชมมาทุกยุค ทุกสมัย รวมถึงภาพยนตร์เรื่องล่าสุดThe Art of Racing in the Rain” ในชื่อไทยว่าอุ่นไอหัวใจตูบรับประกันว่าดูไปต้องมีทั้งรอยยิ้มและน้ำตาแห่งความซาบซึ้งใจ

“The Art of Racing in the Rain” สร้างขึ้นจากนิยายที่รักของการ์ธ สไตน์ติดอันดับเบสต์เซลเลอร์นาน 3 ปีครึ่ง แปลไป ทั่วโลกรวม 38 ภาษา

เอ็นโซเป็นหมาธรรมดาๆนักเขียน การ์ธ สไตน์ กล่าวเราใช้หมาที่แตกต่างกันไปสำหรับหน้าปกหนังสือ สำหรับฉบับปกแข็งและปกอ่อน และในการแปล 38 ภาษา ทุกภาษาต่างใช้หมาแตกต่างกันไปบนหน้าปก ทุกวัฒนธรรมต่างมีตัวแทนเอ็นโซในแบบของตัวเอง ในหนังสือเป็นการพูดคุยระหว่างผมกับผู้อ่าน และผู้อ่านก็จะได้วาดภาพหมาของเขาหรือเธอไปกับมัน

สไตน์กล่าวว่าความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับสุนัขเป็นเรื่องเกี่ยวกับความรักที่ไร้เงื่อนไข พวกเขาไม่ได้เรียกร้องอะไรจากเรามากมาย และเราก็ไม่ได้เรียกร้องอะไรมากมายจากพวกเขา ยกเว้นความรัก และนั่นก็เป็นความสัมพันธ์ที่จริงแท้และวิเศษสุด ผมคิดว่าคงเป็นเรื่องเยี่ยมถ้าพวกเราที่เป็นมนุษย์สามารถปฏิบัติต่อกันและกันได้เหมือนสุนัขมากกว่านี้ ผมหมายถึงในทางดีนะ มันมีแต่ความรัก ไม่มีการตัดสิน ไม่มีการคาดหวัง มีแต่ความรัก

หนังนำแสดงโดยไมโล เวนทิมิเกลียและอแมนดา ไซฟรี้ดและยังได้เควิน คอสต์เนอร์มาพากย์เสียงเอ็นโซสุนัขผู้ปลงตกกับชีวิตผู้ทำหน้าที่บรรยายเรื่อง

สายสัมพันธ์ระหว่างเจ้าสุนัขเอ็นโซกับเจ้าของเดนนี สวิตฟ์นักแข่งรถฟอร์มูลา วัน ทำให้เอ็นโซเข้าใจทะลุปรุโปร่งเกี่ยวกับความเป็นมนุษย์และเข้าใจดีว่าเทคนิคที่จำเป็นต่อการแข่งรถสามารถใช้ในการเดินทางบนเส้นทางชีวิตได้ประสบความสำเร็จเช่นกัน

ภาพยนตร์เรื่องนี้เล่าเรื่องของเดนนีและสิ่งที่เขารักในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นอีฟภรรยาของเขา, “โซอี้ลูกสาวตัวน้อย และเอ็นโซเพื่อนแท้ที่เขารักที่สุด

เอ็นโซเคยดูสารคดีเกี่ยวกับมองโกเลียที่ซึ่งมีความเชื่อว่าเมื่อสุนัขสิ้นอายุขัยแล้ว ในโลกหน้าเขาจะได้เกิดมาเป็นมนุษย์ เอ็นโซใฝ่ฝันจะเกิดใหม่เป็นมนุษย์ที่สามารถไขว้นิ้วเท้าได้และมีลิ้นที่ทำให้พูดจารู้เรื่องแค่ฟังเรื่องราวของหนังก็น่าสนุกแล้ว

ผู้กำกับฯไซมอน เคอร์ติสบอก เล่าถึงการทำงานภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยความประทับใจว่าสิ่งหนึ่งที่ผมชื่นชอบมากที่สุดเกี่ยวกับการถ่ายทำหนังเรื่องนี้คือมีหลายฉากในหนังเรื่องนี้ที่เราเคยเห็นมา เป็นร้อยๆ ครั้งแล้ว ทั้งการเกิดของเด็ก ตัวละครนำถูกใส่กุญแจมือ งานแต่งงานและอีกมากมาย แต่การได้เห็นฉากพวกนั้นจากมุมมองของสุนัขทำให้ฉากพวกนั้นแปลกใหม่และออริจินอลมากๆ

นักแสดงชื่อดังรุ่นใหญ่ เควิน คอสต์เนอร์ ให้เสียงพากย์เอ็นโซโดยเอ็นโซบนหน้าจอรับบทโดยปาร์กเกอร์สุนัขพันธุ์โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ วัยสองขวบ และบัตเลอร์วัยแปดขวบ รับบทเป็นเขาที่โตเป็นผู้ใหญ่

สุนัขเหล่านี้ทำได้เกินความคาดหมาย ผู้กำกับฯ กล่าวว่าแปลกใจที่พวกมันพิเศษสุดแค่ไหนทุกครั้งที่ผมได้ร่วมงานกับสัตว์มาก่อนหน้านี้ ในบทที่เล็กกว่านี้ มันเป็นหายนะ ผมมาทำงานหนังเรื่องนี้ด้วยความหวั่นใจ เพราะโดยคำนิยามแล้วสุนัขจะอยู่ในทุกฉากในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง เราเลือกสุนัขที่เหมาะสมและพวกมันก็ได้รับการฝึกฝนอย่างดี เหตุผลหนึ่งที่การถ่ายทำดำเนินไปได้ด้วยดีเพราะสุนัขแสดงได้ดีมากๆ ทั้งหมดนี้ต้องให้เครดิตผู้ดูแลพวกมัน

กุญแจสำคัญของการฝึกฝนคือการทำให้สุนัขคุ้นเคยกับการทำงานร่วมกับคนอื่นนอกเหนือจากครูฝึกเทเรซา แอน มิลเลอร์ผู้ประสานงานฝ่ายสัตว์และหัวหน้าครูฝึก กล่าวว่าเป็นเรื่องสำคัญมากที่พวกเขาจะไม่แสดงพฤติกรรมหรือลูกเล่นพวกนี้สำหรับฉันเท่านั้น พวกเขาต้องออกไปแสดงเหมือนกับว่าพวกเขาเป็นของคนอื่นๆ ในกองถ่าย และพัฒนาความสัมพันธ์กับพวกเขา

มิลเลอร์ชำนาญเป็นพิเศษในการทำให้สัตว์สวมบทเป็นตัวละครและทำท่าเหมือนไม่ได้ผ่านการฝึกฝนมา เป็นการทำงานในลักษณะที่เป็นธรรมชาติ

ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเราในหนังเรื่องนี้คือการทำให้เขาดูเหมือนสุนัขของเดนนีและดูว่าเขารักครอบครัวของเขา เราใช้เวลาสักพักกับเขาและหาวิธีดีที่สุดที่จะทำงานกับเขา โดยไม่ทำให้เขา ไขว้เขวหรือดึงดูดความสนใจเขาจากการแสดงของนักแสดงที่แสดงประกบ มันเป็นการรักษาสมดุลที่ละเอียดอ่อน หนังทั้งเรื่องบอกเล่าผ่านสายตาและเสียงของเขา และเราต้องทำให้มันเข้าคู่กัน เราต้องพยายามจับคู่มันกับเควิน คอสต์เนอร์ให้ได้ มีความท้าทายเล็กๆ อยู่ตรงนั้น แต่เขาก็ทำได้ และเราต้องทำให้เสียงนั้นเข้ากับปฏิกิริยาและการเคลื่อนไหวของสุนัขตัวนั้นระหว่างที่เขาพูดบทมิลเลอร์กล่าว

พิสูจน์มิตรภาพระหว่างคนกับสุนัขที่ซาบซึ้งกินใจใน “The Art of Racing in the Rain – อุ่นไอหัวใจตูบได้แล้วในโรงภาพยนตร์

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน