ไส้แน่นฉ่ำอร่อย มอสเบอร์เกอร์ กินสวยๆแบบญี่ปุ่น กัดคำโตไม่ต้องอาย

ไส้แน่นฉ่ำอร่อย มอสเบอร์เกอร์ – ข้อดีของร้านฟาสต์ฟู้ดคือ สั่งเร็ว เสิร์ฟเร็ว และกินเร็ว ขณะเดียวกัน เวลากินก็ไม่ต้องรักษาอาการให้ดูหล่อสวยไฮโซ

เพราะคนที่มากินส่วนใหญ่มักให้ความสำคัญกับอาหารบนโต๊ะมากกว่าเรื่องอื่น

ดังนั้นจะกัดจะกิน-ฉีกจิ้ม อย่างไร ก็ได้หมดถ้าสดชื่น เพราะอาหารแนวนี้ต้องรีบๆ หายร้อนไม่อร่อย

ฟังดูมีเหตุผลใช่มั้ย สำหรับพวกกินเร็วคำโตๆ (555)

แต่นั่นอาจดูตะหงิดๆ เกร็งๆ สำหรับคนเพิ่งรู้จัก หรือคู่รักเพิ่งออกเดต

จะกินเร็วให้อร่อยคำโตก็จะกลัวเสียจริต แต่ถ้ามัวแต่ละเมียดละไม อาหารก็จะเย็นชืด หมดความอร่อยกันพอดี

แต่เรื่องเหล่านี้จะไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป ถ้าเป็นที่ร้านมอสเบอร์เกอร์

เพราะเขามีวิธีให้ลูกค้าได้กินของอร่อย กัดคำโตๆ ได้แบบอร่อยเต็มคำ

ด้วยการออกแบบกระดาษห่อเบอร์เกอร์ให้ใหญ่กว่าปกติ

เพื่ออะไร? ก็เพื่อปิดปากระหว่างหม่ำเบอร์เกอร์ชิ้นใหญ่ๆ ดังนั้นต่อให้คำโตแค่ไหน ก็ไม่ใครเห็นปากเรา

เซฟสุดๆ หล่อสวยดูดีได้แม้ในยามกัดเบอร์เกอร์

ทราบมาว่า แบรนด์นี้สัญชาติญี่ปุ่นที่เข้ามาขายในไทย บริหารโดย คุณพิธาน องค์โฆษิต ประธานบริษัท มอส ฟูดส์ เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด

ขายดีมีสาขาหลายประเทศ ไม่ว่า จีน เกาหลี ไต้หวัน ฮ่องกง สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย และไทย
โดยที่ประเทศไทยนั้น เข้ามาปักธงดีเดย์สาขาแรกที่เซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 6 โซนบีคอน เมื่อปี 2550

ปัจจุบันมี 6 สาขา ได้แก่ เซ็นทรัลเวิลด์, แฟชั่นไอส์แลนด์, เซ็นจูรี่, เดอะมูฟวี่ พลาซ่า สุขุมวิท, เซ็นทรัลบางนา, เซ็นทรัลพระราม 3, เอ็มโพเรียม, ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต, และเทอร์มินอล 21 อโศก

อย่างที่บอกแบรนด์นี้เขามาจากญี่ปุ่น ดังนั้นเรื่องคุณภาพ รสชาติ ความสะอาด และคุณค่าโภชนาการ ต้องมาเป็นอันดับแรกๆ

กลายเป็นจุดแข็ง ข้อแตกต่างจากร้านฟาสต์ฟู้ดทั่วไป

จะเห็นได้จากเนื้อที่ใช้เกรดพรีเมี่ยมและนำเข้า น้ำซอสก็สั่งตรงจากญี่ปุ่น ขณะที่ผักสดต่างๆ กว่าจะเสิร์ฟได้ ผ่านกระบวนการล้างเป็นชั่วโมงๆ ทั้งล้างน้ำสะอาด แช่น้ำแข็ง ฯลฯ เรียกว่าขั้นตอนเยอะกว่าปรุงเป็นเบอร์เกอร์แต่ละชิ้น

แต่คนกินคุ้ม อร่อยฟินลืมแคลอรี่ เพราะกัดทีได้รสชาติเนื้อฉ่ำๆ หอมซอส ผัดสดกรอบ มะเขือเทศหนึบ หัวหอมอร่อยไม่ฉุนเผ็ด

ขณะเดียวกันก็ใส่ใจรายละเอียดเรื่องการกินด้วย ซึ่งเท่าที่รู้ๆมาสาวญี่ปุ่นค่อนข้างขี้อาย ดังนั้นการจะกินเบอร์เกอร์ชิ้นใหญ่ ก็ค่อนข้างเขิน ไม่สะดวกนัก

แบรนด์นี้จึงออกแบบกระดาษห่อให้เป็นทรงข้าวหลามตัด แล้วตอนเสิร์ฟจะไม่พับกระดาษเท่าชิ้นเบอร์เกอร์ แต่จะเอาเบอร์เกอร์ใส่ข้างใน ให้กระดาษคลุมไว้ พร้อมปล่อยขอบกระดาษให้ยาวๆ ซึ่งนอกจากดูมุ้งมิ้งน่ารักแล้ว กระดาษยังช่วยปิดปากขณะกัดเบอร์เกอร์ด้วย

เป็นการกินสไตล์ญี่ปุ่นเขาเลย เก๋ไก๋ทีเดียว

สำหรับเมนูแนะนำและขายดี ห้ามพลาดอย่างยิ่ง ต้องนี่เลย..

มอส ชีส เบอร์เกอร์ ราคา 99 บาท

มีทั้งเนื้อและหมู จุดเด่นคือน้ำซอสนำเข้าจากญี่ปุ่นราดบนเนื้อรสกลมกล่อม รองด้วยชีสชิ้นโต โปะมะเขือเทศพันธุ์ลูกโต ‘โมโมทาโร่’ เนื้อแน่น อร่อยจริง แต่ไม่แนะนำสำหรับพวกไม่กินเนื้อ เพราะแม้จะมีให้เลือกทั้งเนื้อและหมู แต่ซอสที่เขาใช้เป็นซอสเนื้อ ดังนั้น เมนูนี้ยังไงก็เนื้อ

ยากินิขุ ไรซ์เบอร์เกอร์ ราคา 109 บาท

ความแปลกคือใช้ข้าวญี่ปุ่นแทนเบอร์เกอร์ขนมปัง ส่วนไส้นั้น ใช้เนื้อสไลด์ย่างคลุกซอส อร่อยอีกแบบ

เบอร์เกอร์กุ้ง ราคา 89 บาท

เป็นเมนูของคนรักสุขภาพและขายดีมาก ทีเด็ดคือใช้กุ้งเป็นตัวๆ ไม่บดให้เสียรส กินกับกระหล่ำปลีญี่ปุ่นหั่นฝอย ราดด้วยทาร์ทาร์ซอสที่มีส่วนผสมหลักของมายองเนส รสหวานมันเปรี้ยว ซึ่งถ้าใครไม่อยากกินกุ้ง สามารถเปลี่ยนเป็นเนื้อ ปลา ไก่ ได้

เบอร์เกอร์ปลาหมึกยักษ์ ราคา 89 บาท

เป็นเบอร์เกอร์ตระกูลซีฟู้ด รูปลักษณ์เหมือนเบอร์เกอร์กุ้ง แต่ไส้ข้างในเป็นปลาหมึกยักษ์ รสชาติประมาณทาโกะยากิ หอมกลมกล่อมเข้มข้น ด้านบนโรยด้วยกระหล่ำปลีฝอย ราดทาร์ทาร์ซอสเข้ากันมากๆ

แซลมอนเบอร์เกอร์ ราคา 83 บาท

หน้าตาเหมือนเบอร์เกอร์กุ้ง และปลาหมึกยักษ์ แต่เปลี่ยนเป็นแซลมอน โดยใช้แซลมอนบดผสมเกล็ดขนมปังแล้วทอด แล้วบีบมะนาวหน่อยให้เข้าถึงความซีฟู้ด

วากิวชีสเบอร์เกอร์ ราคา 153 บาท

แพงสุดแล้วของร้าน การปรุงก็จะเยอะๆหน่อย ใช้เนื้อวากิวย่างแล้วอบด้วยชีส โปะมัสตาร์ด เห็ดฟาง ซอสเห็ด ใครที่เป็นสายเนื้อแนะนำเลย

ฟูจิยามะ เบอร์เกอร์ ราคา 109 บาท

มีทั้งเนื้อและหมู ใช้หมูหรือเนื้อสไลด์เป็นชิ้นๆย่างคลุกซอสยากินิคุ วางบนผักกรีนโอ๊ค ท็อปปิ้งด้วยไข่ออนเซ็นทอด ราดชีสซี่ครีมอีกที อร่อยกำลังอิ่ม

นอกจากเบอร์เกอร์แล้ว ทางร้านยังมีอีกหลากหลายเมนูอร่อยเหาะ ไม่ว่า ฮอทดอก ที่บอกเลยว่าเด็ดมาก เขาใช้หมูและไก่ผสมกันแล้วกรอกใส่ไส้แกะ ซึ่งพอนำไปกริลล์แล้วมันจะเด้งกรุบกรอบไม่เหมือนใคร ราดซอสพริกเผ็ดหน่อย กินอร่อยต้องขอเบิ้ล

เฟรนช์ฟรายส์ทอด ชิ้นใหญ่มาก เสิร์ฟร้อนเพราะทอดตามออร์เดอร์เท่านั้น ดังนั้นอาจรอนานนิด

ซุปหอยลาย 73 บาท ไม่ใช่แค่น้ำข้นๆ กลิ่นหอยลาย แต่ตักมาก็เห็นชิ้นมันฝรั่งหั่นหนาๆ และหอยเป็นตัวๆ รสเข้มข้มมันอร่อย

ขณะที่ของหวาน แนะนำ ไอศกรีมชาเขียวที่ราดขนมหวานบัวลอย ราคา 59 บาท

ทางร้านให้ความรู้ว่า อาหารแต่ละเมนูหลังเสิร์ฟจะมีระยะเวลาในการกิน เช่น เบอร์เกอร์เนื้อ ให้อร่อยควรกินภายใน 5 นาที หรือฮอทดอก อยู่ได้นานหน่อย 30 นาที ดังนั้นมีเวลาถ่ายรูปโชว์ หรือเซลฟี่ได้หลายเฟรม

นี่แหละสไตล์อาหารญี่ปุ่น อร่อยมีคุณค่า และดูดีขณะกิน