ศิลปะเยาวชน สืบสานวรรณกรรม

คอลัมน์ สดจากเยาวชน

สืบสานวรรณกรรม – โครงการจินตนาการ สืบสานวรรณกรรมไทยกับอินทัช ปีที่ 13 โดยบริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) จัดขึ้นในหัวข้อ “บวร (บ้าน วัด โรงเรียน) ความสุข ความผูกพัน ของสังคมไทย” พร้อมถ่ายทอดแรงบันดาลใจที่ได้จากการอ่านนำเสนอเป็นภาพวาดจากจินตนาการ ประกาศผลรางวัลชนะเลิศ เมื่อไม่นานนี้ที่ห้องออดิทอเรียม ชั้น 5 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร

บรรยากาศนิทรรศการ

บรรยากาศภายในงานอบอุ่น เรียบง่าย โดยเปิดโอกาสให้น้องๆ ที่เข้ารอบชิงชนะเลิศพูดถึงแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานบนเวที เพื่อให้คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพิจารณาอย่างลึกซึ้งอีกครั้ง

หนึ่งในนั้นคือ น.ส.มนทกานติ ฤทธิ์จำนงค์ จากโรงเรียนศรียาภัย ผู้คว้ารางวัลชนะเลิศระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย เจ้าของผลงาน “ความรู้สึกข้างใน” ได้แรงบันดาลใจจากวรรณกรรมเรื่อง “เสียงเดือนในเสียงหวูดรถไฟ” กล่าวว่า เหตุผลที่เลือกวรรณกรรมเล่มนี้เพราะบ้านอยู่ใกล้รางรถไฟ ตัวเอกก็ใกล้เคียงกับชีวิตมาก จึงเข้าใจความรู้สึกของตัวละครอย่างดี

มนทกานติ ชนะเลิศ ม.ปลาย

“ดิฉันอ่านหนังสือเล่มนี้มานานแล้วค่ะ บวกกับชอบวาดรูปอยู่แล้ว เลยตัดสินใจส่งผลงานเข้าประกวด ในยุคดิจิตอลที่ทุกคนเล่นโซเชี่ยลกันหมด ดิฉันมองว่าโครงการนี้ทำให้เด็กไทยมองเห็นคุณค่าที่อยู่ในตัวอักษร ทำให้เราได้สัมผัสเสน่ห์ของการพลิกหน้ากระดาษและกลิ่นหอมของกระดาษ รางวัลนี้จะเป็นแรงผลักดันให้สร้างสรรค์ผลงานศิลปะชิ้นต่อๆ ไป” มนทกานติกล่าว

ผจงภักดิ์ เอาเจริญภักดิ์ ชนะเลิศระดับอุดมศึกษา

ด้านนายผจงภักดิ์ เอาเจริญภักดิ์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ (เพาะช่าง) ผู้ชนะเลิศระดับอุดมศึกษา เจ้าของผลงาน “โฮปเฟล” ที่ได้แรงบันดาลใจจากวรรณกรรมเรื่อง “ไผ่แดง” เผยว่า “รางวัลนี้เป็นเหมือนกำลังใจสำคัญให้เรารับรู้ว่าศิลปะสามารถส่องทางกันและสื่อสารสิ่งที่อยู่ในความคิดของเราออกไปให้คนรับรู้ได้”

ปัญญา วิจินธนสาร ศิลปินแห่งชาติประจำปี พ.ศ.2557 สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) กล่าวชื่นชมผลงานของเยาวชนและยอมรับว่าปีนี้หลายคนมีพัฒนาการที่โดดเด่นและ ถือเป็นอีกหนึ่งปีแห่งความสำเร็จของโครงการ เห็นความก้าวหน้าของเด็กรุ่นใหม่ที่มีประสบการณ์ กล้าคิดกล้าแสดงออก รุ่นผมยังเน้นด้านทักษะและเทคนิค แต่ปัจจุบันน้องๆ สามารถถ่ายทอดความคิดและจินตนาการได้กว้างไกล

ธนกร แสนทวีสุข แชมป์ประถมศึกษา

“ส่วนหนึ่งเพราะดิจิตอลช่วยให้เด็กๆ ค้นคว้า หาข้อมูลและชื่นชมผลงานศิลปะได้ทั่วโลก ทำให้พวกเขาค้นพบความชอบและสไตล์การทำงานของตัวเอง และช่วยให้ค้นหาอัตลักษณ์ของตัวเองได้เร็วขึ้นเช่นกัน ผมอยากให้น้องๆ ทุกคนเล็งเห็นความสำคัญของการอ่าน พอเราได้อ่านหนังสือหรือศึกษาหาข้อมูลมากขึ้นจะช่วยให้เรามีจินตนาการและสร้างสรรค์ผลงานได้ดี ทุกวันนี้วงการศิลปะเริ่มเข้าไปมีบทบาทและเชื่อมโยงสังคมไทยในแง่มุมที่หลากหลาย การประกวดอินทัชพิสูจน์ให้เห็นถึงความสำคัญของศิลปะและวรรณกรรมที่มีคุณค่าของไทย”

ไม่เพียงส่งเสริมให้เยาวชนไทยรักการอ่านและสร้างจินตนาการ ในรูปแบบของ “ศิลปะส่องทางกัน” อีกหนึ่งความพิเศษของการประกวดในครั้งนี้คือรายได้ ทั้งหมดโดยไม่หักค่าใช้จ่ายสมทบทุนให้แก่มูลนิธิสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา

โดยมี ศาสตราจารย์เกียรติคุณ คุณหญิงไขศรี ศรีอรุณ กรรมการและเลขานุการมูลนิธิสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ขึ้นกล่าวขอบคุณบนเวทีและย้ำถึงความสำเร็จของโครงการนี้ในฐานะ “ผู้ให้” โอกาส ที่ยิ่งใหญ่แก่อนาคตของเยาวชนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ในการศึกษา ที่ผ่านมา อินทัชทูลเกล้าฯ ถวายเงินไปแล้วกว่า 7 ล้านบาท เพื่อนำไปมอบเป็นทุนการศึกษาในโครงการ “บัณฑิตคืนถิ่น” อีกทั้งยังมอบทุนให้สถาบันการศึกษาที่ลูกศิษย์ได้รับรางวัลด้วย

พู่กัน สร่องศรี ชนะเลิศ ม.ต้น

ผู้สนใจร่วมสนับสนุนผลงานเยาวชนผ่านการจำหน่ายภาพการกุศลสมทบทุนมูลนิธิสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา รายได้ทั้งหมด (โดยไม่หักค่าใช้จ่าย) เพื่อเป็นทุนการศึกษาของนักเรียนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ได้ที่ www.intouchcompany.com สอบถามโทร.08-2796-1670-1, 0-2934-6767