เพื่อระลึกถึงความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-เวียดนามในโอกาสครบรอบ 40 ปี สถานกงสุลใหญ่ไทย ที่นครโฮจิมินห์ จัดงานนิทรรศการตราไปรษณียากรที่ระลึกร่วมสองประเทศ ในหัวข้อ “หุ่นกระบอก” ซึ่งแต่ละชาติต่างมีเอกลักษณ์ของตนเอง โดยความร่วมมือของบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท.) กับไปรษณีย์เวียดนาม โดยนำภาพ “หุ่นกระบอก” ในเรื่องพระมหาชนก บทพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ “หุ่นกระบอกน้ำ” ของเวียดนาม ในเรื่องทะเลสาปคืนดาบ ตำนานของจักรพรรดิเลเหล่ยวีรกษัตริย์ผู้กอบกู้ชาติของเวียดนาม ในสมัยศตวรรษที่ 15 มาถ่ายทอดความสัมพันธ์ที่มีความเชื่อมโยงกันระหว่างคนสองประเทศ
โอกาสนี้ นางอุรีรัชต์ รัตนพฤกษ์ สถานกงสุลใหญ่ ที่นครโฮจิมินห์ ร่วมกับ ไปรษณีย์ไทย และ นายเล ฮึง ก๊วก ประธานสหพันธ์องค์กรมิตรภาพนครโฮจิมินห์ จัดงานเปิดนิทรรศการแสดงตราไปรษณียากรที่ระลึกดังกล่าว เมื่อเร็วๆ นี้ ที่ โรงแรมเร็กซ์ นครโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม
ภายในงานได้มีการแสดงหุ่นกระบอกจากสองประเทศ และการเวิร์กช็อปการทำหุ่นกระบอกจิ๋วจากบ้านตุ๊กตุ่น หุ่นกระบอกไทย สร้างความสนุกสนานที่แฝงไว้ด้วยความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ
นางอุรีรัชต์ รัตนพฤกษ์ กงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์ กล่าวว่า ในโอกาสปี 2559 ไทยกับเวียดนามครบรอบ 40 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน โดยความสัมพันธ์ระหว่างประเทศได้พัฒนาอย่างมีพลวัตรที่ต่อเนื่อง ในโอกาสที่ครบรอบ 40 ปี ทางฝ่ายไทยและเวียดนามได้จัดกิจกรรมอย่างหลากหลายในการเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ โดยส่วนหนึ่งทางไปรษณีย์ไทยและไปรษณีย์เวียดนามได้ร่วมมือกันก็คือการออกดวงตราไปรษณียกรที่ระลึกนี้
“ที่เลือกใช้การแสดงหุ่นกระบอกในการเชื่อมความสัมพันธ์ เนื่องจากเห็นว่าเป็นการเชื่อมโยงทางด้านวัฒนธรรมที่เรามีคล้ายกัน โดยของไทยจะเป็นหุ่นกระบอกคณะบ้านตุ๊กตุ่น ส่วนของเวียดนามจะเป็นหุ่นกระบอกน้ำที่มีชื่อเสียง เป็นศิลปะประจำชาติที่ทั้ง 2 ประเทศมีชื่อเสียงอยู่แล้ว รวมถึงการที่นครโฮจิมินห์เป็นเมืองรองอยู่ทางใต้ของเวียดนาม อยากจะนำโอกาสพิเศษนี้มาเผยแพร่ในนครโฮจิมินห์ และจังหวัดใกล้เคียงได้รับรู้รับทราบถึงความสัมพันธ์อันใกล้ชิดของไทยและเวียดนามด้วย” นางอุรีรัชต์ เผย
นายนิเวศ แววสมณะ ผู้ก่อตั้งบ้านตุ๊กตุ่น หุ่นกระบอกไทย กล่าวว่า โอกาสสำคัญนี้ได้นำการแสดงเรื่องพระมหาชนก ผู้ทรงบำเพ็ญพระวิริยบารมี ในรูปแบบย่อ เพื่อให้ผู้ชมเข้าถึงและเข้าใจง่ายขึ้น นำเสนอแบบคอนเทมโพลารี่เพื่อสื่อสารให้คนต่างชาติเข้าใจได้ง่ายขึ้น และเรื่องพระสุธน-มโนราห์ เป็นวรรณคดีพื้นบ้าน เราอยากให้เห็นความสวยงามของการร่ายรำของหุ่น ซึ่งไม่เคยทำในรูปแบบหุ่นกระบอกไทย ที่นี่เป็นที่แรก สำหรับการนำศิลปะเหล่านี้จัดพิมพ์ในรูปแสตมป์ รู้สึกชื่นใจที่องค์กรต่างๆ เล็งเห็นถึงศิลปะที่หลายคนมองว่าเชยและล้าสมัย ให้กลับมามีพื้นที่เล็กๆ ที่จะสื่อสารกับประชาชน โดยเฉพาะคนไทยได้มีความภาคภูมิใจในความเป็นไทย ซึ่งแสตมป์สามารถส่งไปทั่วโลกได้ นับว่าเป็นการเผยแพร่วัฒนธรรมของทั้งสองประเทศ
สำหรับชุดแสตมป์ดังกล่าวมี 2 ดวง ได้รับการออกแบบโดยนักวาดภาพจากไทยและเวียดนาม ไปรษณีย์ไทย จำกัด จำหน่ายชนิดราคา 3 บาททั้งสองแบบ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
