สัมผัสอารยธรรมซามูไร ชมงานประดับไฟยิ่งใหญ่ : ข่าวสด หลาก&หลาย

สัมผัสอารยธรรมซามูไร ชมงานประดับไฟยิ่งใหญ่ : ข่าวสด หลาก&หลาย – เกียวโต โอซาก้า นาโกย่า เป็น 3 เมืองใหญ่ในญี่ปุ่น ที่เต็มไปอารยธรรมเก่าแก่มากมายและยังคงความเป็นเมืองสำคัญที่ครบรสไปด้วยสีสัน ทั้งแหล่งช็อปปิ้งและอาหารอร่อยประจำถิ่น

งานประดับไฟที่ยิ่งใหญ่

ในโอกาสร่วมคณะดูงานกับ บริษัท สยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด จึงได้สัมผัสกับแหล่งอารยธรรมในเมืองดังกล่าวด้วยความตื่นตาตื่นใจ

จุดหมายแรกไปที่ศาลเจ้าเฮอันหรือศาลเจ้าเฮอันจิงงุ สร้างในปีค.ศ.1895 เนื่องในโอกาสที่นครเกียวโต มีอายุครบ 1,100 ปี โดยอุทิศถวายแด่จักรพรรดิองค์แรกและองค์สุดท้ายของเกียวโต

เจดีย์ในศาลเจ้าศาลเฮอันจิงงุ

เมื่อก้าวผ่านประตูศาลเจ้าเข้าไป จะพบภาพจำลองของพระราชวังโบราณที่ย่อส่วนลงมาเหลือสองในสาม มีลานหินกรวดสีขาวอันกว้างขวางทอดตรงไปยัง วิหารใหญ่ไดโงะคุเด็ง ซึ่งมีเจดีย์พยัคฆ์ขาวขนาบอยู่ทางตะวันออกและตะวันตก ประตูด้านซ้ายของวิหารจะเปิดออกสู่สวนแบบเฮอันที่ออกแบบมาให้ใช้ล่องเรือและ เดินเล่นได้ด้วยสะพานแบบจีน บึงน้ำใสและบันไดมังกรหิน

บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ในศาลเจ้าเฮอันจิงงุ

ไหว้ศาลเจ้าขอพรเสร็จแล้ว ก็แวะรับประทานอาหารที่ร้านยูบะเซน ซึ่งอยู่ห่างจากศาลเจ้าเฮอันไม่กี่ร้อยเมตร อาหารขึ้นชื่อของร้านคือ ฟองเต้าหู้ เป็นอาหารเพื่อสุขภาพมีกลิ่นหอมของถั่วเหลือง รสชาติกลมกล่อม

ฟองเต้าหู้

จากนั้นเดินทางต่อไปยังเมืองโอซาก้า เป็นเมืองสำคัญด้านเศรษฐกิจ การค้า ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม จนได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งชาติ และเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในด้านการท่องเที่ยวที่มีสถานที่ท่องเที่ยว มากมายหลายแห่ง ทั้งการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และเชิงธรรมชาติ

ภายในศาลเจ้าเฮอันจิงงุ

อีกทั้งยังเป็นเมืองที่มีแหล่งช็อปปิ้งที่มีชื่อเสียงมากมายกระจายอยู่ทั่วเมือง แหล่งช็อปปิ้งที่สำคัญคือ ชินไซบาชิ ที่สาวกนักช็อปทั้งหลายพลาดไม่ได้แน่นอน

จุดถ่ายรูปยอดฮิต

ชินไซบาชิ ตั้งอยู่ใกล้กับนัมบะและโดทงโบริ ที่นี่มี ย่านร้านค้า ชินไซบาชิซุจิ เป็นศูนย์กลาง มีระยะทางการเดินช็อปปิ้งถึง 580 เมตร ถ้ารวมกับย่านร้านค้าอื่นๆ ที่อยู่ทั้งหัวและท้ายด้วยก็จะมีความยาวถึง 2 กิโลเมตร ไม่ว่าจะเป็นร้านขายเครื่องสำอาง ขายยา ร้านปลอดภาษี ร้าน 100 เยน ร้านคาแร็กเตอร์ต่างๆ ไปจนถึงร้านอาหารและคาเฟ่มากมาย เรียกได้ว่าอยากได้อะไรก็มีให้ครบ

ร้านค้ามากมายบริเวณวัดโอสึคันนง

ชินไซบาชิซุจิ มีจุดเริ่มต้นที่สะพานเอบิสึ ที่อยู่ตรงกลางโดทงโบริ ฝั่งตรงข้ามเป็นป้ายกูลิโกะขนาดใหญ่ เป็นจุดถ่ายรูปยอดฮิตของนักท่องเที่ยว

วัดโอสึคันนง

เดินเข้าไปในย่านชินไซบาชิซุจิ จะเห็นร้านค้ามากมาย ทั้งร้านเครื่องสำอาง ร้านขายยา ร้านปลอดภาษี แต่ละร้านจะมีพนักงานที่พูดไทยได้คอยบริการนักท่องเที่ยวไทยด้วย

ช็อปปิ้งจนหนำใจแล้ว เดินทางด้วยรถบัส 2 ชั่วโมง เข้าสู่เมืองนาโกย่า ไปชมปราสาทนาโกย่า แลนด์มาร์กสำคัญที่มานาโกย่าต้องปักหมุดให้ได้

ปราสาทแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในยุคเริ่มต้น สมัยเอโดะ อาคารปราสาทส่วนใหญ่ถูกทำลายในการโจมตีทางอากาศในปี ค.ศ.1945 ต่อมาได้รับการฟื้นฟูสร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็กในปี ค.ศ.1959 มีลักษณะเป็นป้อมปราการขนาดใหญ่และเล็กเชื่อมต่อกัน 5 ป้อม มีหลังคาสีเขียวประดับด้วย shachihoko ซึ่งมีสีทอง (สัตว์ในตำนาน มีตัวเป็นปลาคาร์พ มีหัวเป็นสิงห์) ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมืองนาโกย่า

ปราสาทนาโกย่า

ปราสาทสูง 7 ชั้น ชั้นที่ 7 เป็นห้องชมทิวทัศน์ ภายในมีพิพิธภัณฑ์ที่ทันสมัย จัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของปราสาทมากมาย

ปราสาทนาโกย่าอีกมุมหนึ่ง

และที่พลาดไม่ได้คือ วัดโอสึคันนงหรือวัดเจ้าแม่กวนอิมย่านโอสึ ตั้งอยู่ในย่านโอสึ เขตนากะ เมืองนาโกย่า

วัดโอสึคันนง มีชื่อเสียงอย่างมากเพราะมี “โอสุบุงโกะ” หรือห้องเก็บเอกสารโอสุ ซึ่งมีเอกสารโบราณที่มีค่ากว่า 15,000 เล่ม อย่างสมบัติประจำชาติและสมบัติทางวัฒนธรรมที่สำคัญ

อุโบสถใหญ่ เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปองค์อวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ (เจ้าแม่กวนอิม) ถูกทำลายด้วยไฟสงคราม ดังนั้นอุโบสถใหญ่ในปัจจุบันจึงเป็นอาคารที่ถูกสร้างใหม่ในปี 1970

วัดแห่งนี้ ยังมีเทศกาลซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 18 ของทุกเดือน มีผู้เยี่ยมชมเข้ามามากมาย และยังมีย่านการค้าโอสุ แหล่งรวมร้านค้ากว่า 1,200 ร้านตั้งอยู่ด้านหลังของวัดด้วย

สัตว์ในตำนาน

จุดหมายต่อไปคือ ศาลเจ้าอัตสึตะ แห่งเมืองนาโกย่า จ.ไอจิ ซึ่งได้รับการยกย่องและจัดอันดับว่าเป็นศาลเจ้าอันศักดิ์สิทธิ์ที่น่าเคารพ นับถืออันดับที่สองแห่งศาสนาชินโต รองจากศาลเจ้าใหญ่แห่งอิเสะ

สิ่งสักการะของศาลเจ้าแห่งนี้คือ ดาบคุซา นางิ เป็นหนึ่งในสามเครื่องราชกกุธภัณฑ์ศักดิ์สิทธิ์ประจำจักรพรรดิญี่ปุ่น ซึ่งเครื่องราชกกุธภัณฑ์ทั้งสามประกอบไปด้วย ดาบคุซานางิ, กระจกยาตะโนะคากามิ และอัญมณียาซากาติโนะมากาตามะ

ศาลเจ้าเฮอันจิงงุ

เครื่องราชกกุธภัณฑ์แห่งพระจักรพรรดิทั้ง สามนี้หมายถึงองค์ธรรมสามประการแห่งกษัตริย์ ซึ่งดาบแทนความกล้าหาญ แก้ว แทนความเมตตา ส่วนกระจก แทนสติปัญญา นั่นเอง

ส่งท้ายกันที่งานประดับไฟที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ในญี่ปุ่น งานนี้มีชื่อว่า Nabana no Sato 2019-2020 ซึ่งจัดขึ้นทุกปีในระยะเวลายาวนานหลายเดือนเลยทีเดียว

โดยงานประดับไฟ Nabana no sato Winter Illumination เป็นส่วนหนึ่งของธีมงาน Nabana no Sato 2019-2020 จัดขึ้นในสวนดอกไม้ขนาดใหญ่ที่ชื่อว่า Nabana no sato ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Nagashima Resort ในจ.มิเอะ ใกล้ๆ กับนาโกย่า เป็นงานจัดแสดงไฟที่หลายคนตั้งตารอ

ในพื้นที่ของสวนดอกไม้ขนาดใหญ่จะเต็มไปด้วยดวงไฟกว่าล้านดวงที่แข่งกันส่อง แสงยามค่ำคืน ซึ่งจะถูกประดับตกแต่งเป็นรูปต่างๆ ทั้งภูเขาไฟฟูจิ ต้นคริสต์มาส แม่น้ำ ทุ่งหญ้า รวมถึงยังมีการประดับไฟบนน้ำ ให้นักท่องเที่ยวได้เดินชมกันเพลินๆ

ส่วนไฮไลต์ของงาน Nabana no Sato ที่บอกเลยว่าห้ามพลาดเด็ดขาดคือ อุโมงค์ไฟระยิบระยับ หรือ Tunnel of Light ในระยะทางกว่า 200 เมตร ตลอดเส้นทางจะล้อมรอบไปด้วยดวงไฟรูปดอกไม้น่ารักๆ ซึ่งแต่ละปีจะจัดแสดงไฟในธีมที่ต่างกันออกไป

ชมดอกไม้ที่สวน-Nabana-no-sato

นอกจากดวงไฟสวยๆ ในตอนกลางคืนแล้ว บรรยากาศในตอนกลางวันของที่นี่ก็ยังสดชื่นไปด้วยดอกไม้นานาชนิดๆ ที่ปลูกหมุนเวียนกันในสวน ทำให้สามารถมาชมดอกไม้ที่สวน Nabana no sato แห่งนี้กันได้ตลอดปี ครบ 4 ฤดูเลย

กำหนดการงาน Nabana no Sato 2019-2020 จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 19 ต.ค.2562-6 พ.ค.2020 ค่าเข้าชม 2,100 เยน

เวลา เปิด-ปิด วันธรรมดา 09.00-21.00 น. และวันหยุด 09.00-22.00 น.

ใครไปญี่ปุ่นช่วงนี้ แวะไปชมงานประดับไฟฤดูหนาวที่ยิ่งใหญ่ติดอันดับ 1 ของญี่ปุ่น รับรองไม่ผิดหวัง

เรื่อง/ภาพ โดย.. พิรยุทธ นิ่มนนท์