เปิดอก! พริตตี้อาวุธสงคราม ยืนสวยขายระเบิด “หนูนี่ใจสั่นมาก”
เปิดอก! พริตตี้ผิวแทนที่สุดในไทย มาลัย บำรุงศรี นางแบบโกอินเตอร์ รับงานรถระดับโลกอย่าง Moto GP แต่พีคสุดคืออาวุธสงคราม!
แม้วัยเด็กของเธอเต็มไปด้วยคำเหยียด ดูถูกสารพัดจากสีผิว “อีดำ อีปอบ อีปลาร้า อีกะปิ” แต่คนที่ให้กำลังใจที่ดีที่สุดคือตัวเธอเอง หลายคนชื่นชมในทัศนคติ และความมั่นใจ
“เราต้องเชื่อตัวเองว่าเราสวย ถ้าเราไม่เชื่อว่าเราสวย แล้วใครจะมาเชื่อเรา ถ้าเขาไม่ชอบก็ช่างเขา แต่เราชอบตัวเอง ทำจุดขายให้กับตัวเอง ทำให้เราเป็นแรงบันดาลใจให้กับตัวเอง ว่าเรา สวย มั่นใจ ศรัทธาในตัวเอง เราอะเมซิ่ง”
จากจุดเริ่มต้นเป็นพริตตี้รถมอเตอร์ไซค์งานเล็กๆ ในอำเภอ ขายเครื่องสำอาง สู่การเป็นนางแบบอินเตอร์ถ่ายแบบให้กับนิตยสาร GQ ของอินเดีย และแบรนด์เสื้อผ้าระดับโลก
แต่งานที่ว้าวสุด สตรองสุด ฮือฮาตาแตก! เห็นจะเป็น “พริตตี้ขายอาวุธสงคราม”
ชมคลิป ข่าวสดบิวตี้ จะขอล้วงลึกประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟเปิดหมดเปลือกในการการยืนสวยในดงระเบิด ขายอาวุธสงคราม ที่เธอยอมรับว่า “น่ากลัว” แต่สำหรับพริตตี้มืออาชีพก็ต้องทำเต็มกำลัง
“เขาลองระเบิดกัน ลองอาวุธกัน สนั่นหวั่นไหวพื้นที่ไปหมด แบบว่า ดัง ตู้มๆ ตู้มต้ามๆ อุ้ย น่ากลัวมาก แบบดังมาก หนูนี่ใจสั่นมาก อุ้ย จะตายมั้ยเนี้ย จะต้องวิ่งหรือเปล่าอะไรงี้ หรือว่าจะกราดมาที่เรา” มาลัยเล่าความรู้สึกวินาทีลองระเบิด ทดสอบประสิทธิภาพ
พร้อมเผยพิกัดสถานที่ว่าเป็นค่ายทหารแห่งหนึ่งในประเทศไทย โดยการเข้ามาเป็นพริตตี้ขายอาวุธสงครามครั้งนี้ จากการแนะนำของเพื่อน เนื่องจากเธอเคยมีประสบการณ์ถ่ายปฏิทินอาวุธสงครามมาบ้างแล้ว
“มีเพื่อนโทรมา แล้วก็ถามว่าวันนี้ว่างมั้ย ไปทำงานอันนี้ได้มั้ย เราก็ โอเคได้ว่าง ก็เลยไปทำที่นี่ และเขาก็จะมารับเรา แล้วก็ไปที่ทำงาน เพราะว่าเราเข้าไปเองไม่ได้ มันเป็นค่ายทหารค่ายหนึ่งในประเทศไทย
ก่อนหน้านี้ก็เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนแล้ว เคยถ่ายปฏิทินของอาวุธเหมือนกัน ถ่ายในสตูดิโอ ก็ของปลอมหมดเลย ไม่ใช่ของจริง ก็แต่งตัวชุดทหาร และก็ใส่พวกอาวุธ ถ่ายคู่กับอาวุธ ต้องไปที่โรงแรมของเขา แล้วเราก็จะไปกับรถทหาร เขาต้องพาเข้าไป เพราะคนภายนอกเข้าไม่ได้”
เธอเล่าต่อว่า แต่ละบูธที่ขายอาวุธก็ห่างกันไกลเป็นหลายกิโลเมตร โดยเธอขายอาวุธของประเทศเยอรมัน ซึ่งตัวแทนแต่ละบูธจะเป็นบริษัทจากต่างประเทศ
“แต่ละบูธก็จะมีลักษณะเป็นซุ้ม เขาจำลองเป็นธนาคาร จำลองเป็นบ้านคน จำลองแบบใหญ่ๆ เลยนะคะ ไม่ใช่แบบเล็กๆ พื้นที่หนูคิดว่าน่าจะเป็นร้อยไร่ ใหญ่มาก จำลองเป็นปูน เป็นอิฐ อะไรอย่างนี้นะ ไม่ใช่จำลองกระดาษ
เวลาพักก็เดินไปกับเขา ต้องเดินไปกับพวกทีมด้วยนะคะ เดินไปเองไม่ได้ เขาก็พาเดินไปดู แต่ก็ไม่ได้ไปที่บูธ ไปแบบตามเล็กๆ เพราะว่ามันไกลกัน ไปไม่ได้ทั่วหรอก มันมีเยอะ”
สำหรับลูกค้าที่มาเจอจะมาจากหลากหลายประเทศ เวลามาดูอาวุธก็จะมากันเป็นคันรถ สำหรับบูธของเธอเองจะขายอาวุธหลากหลายประเภท
“มีแบบปืนที่เป็นแบบเหมือนหัวปลี เป็นชุดเกราะระเบิด เป็นระเบิดพลีชีพมั้ง และก็ชุดเก็บกู้ระเบิด หนัก 50 กิโลฯ หนูถามเค้า เค้าบอกประมาณ 2 ล้านไม่แน่ใจ แค่ชุดๆ เดียว แล้วก็มีกล่องใส่ระเบิด แล้วก็มีหุ่นยนต์ โรบ็อตเก็บกู้ระเบิด มีสูตรทำระเบิด แล้วก็มีอาวุธต่างๆ
“ทำงานตั้งแต่เที่ยงถึงสี่โมงเย็น คือ เขาขายกันก่อนหน้านั้นแล้ว เขาไม่ได้แค่ตรงนั้น คือเหมือนเอาไปเป็นสีสันอะไรแค่นั้น หนูไม่ได้ทำหน้าที่ไปเป็นพรีเซ็นเตอร์ว่า ขายอันนั้นอันนี้ คือเขาขายกันเอง”
สำหรับการแต่งตัวนั้นพวกพร็อพต่างๆ เช่น ระเบิดที่พันรอบตัวเธอนั้น เป็นของปลอม ไม่ใช่ของจริง ส่วนชุดนั้นต้องเตรียมมาเอง ในแบบสไตล์ทหารกลิ่นอายสู้รบ เพื่อเป็นสีสันในการขายให้บูธมีชีวิตชีวาเท่านั้น ส่วนรายได้ก็คุ้มเสี่ยง หลักหมื่นต่อวัน
“หนูเป็นคนเลือกเสื้อผ้าเอง เป็นคนเลือกงานเอง ว่าจะทำงานนี้ หรือจะไม่ทำงานนี้ เราเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเอง แค่นั้น ส่วนจุดเด่นที่ทำให้ได้งานนี้ น่าจะเป็นที่เราเป็นตัวของตัวเอง และมีสีผิวที่เข้ม ” เธอปิดท้ายด้วยทัศนคติแซ่บๆ
