เด็กตรังลงนา ปลูกข้าวในสวนยาง

คอลัมน์ สดจากเยาวชน

เด็กตรังลงนา – กลุ่มเครือข่ายตลาดนัดอินทรีย์จังหวัดตรัง ร่วมกับชมรมชายผ้าเหลือง เพื่อเพื่อน ผู้ป่วยระยะสุดท้าย วัดห้วยยอด นำเด็กและเยาวชนมาเรียนรู้วิธีปลูกข้าวไร่และวิธีลงแขกเกี่ยวข้าวไร่ โดยใช้อุปกรณ์จากภูมิปัญญา ชาวปักษ์ใต้ที่เรียกว่า “แกะ” แทนการใช้เคียวหรือใช้รถตัด ที่แปลงข้าวไร่ หมู่ที่ 2 ตำบลท่าสะบ้า อำเภอวังวิเศษ จังหวัดตรัง ของ นางพรรณี คงเอียด อายุ 54 ปี ซึ่งใช้พื้นที่ว่างในสวนยางพาราประมาณ 9 ไร่ มาใช้ให้เกิดประโยชน์ ปลูกข้าวไว้กินในครัวเรือนและจำหน่ายเป็นรายได้เสริมเพื่อให้เครือญาติและเพื่อนบ้านได้รับประทานข้าวที่มีคุณภาพไร้สารเคมี

เด็กตรังลงนา

เด็กตรังลงนา

เด็กตรังลงนา

ทั้งนี้ กลุ่มชาวบ้านในตำบลท่าสะบ้า ทั้งคุณลุง คุณป้า คุณตา คุณยาย ต่างช่วยกันสอนเด็กๆ ใช้แกะเกี่ยวข้าวทีละรวงสองรวง จากนั้นนำมารวมกันเป็นกำมือ มัดเป็นเลียงข้าว เก็บไว้ตาก นวด และสี นำไปรับประทาน พร้อมสอนให้เด็กๆ เรียนรู้วิธีการทำข้าวม้าวหรือข้าวเม่า ตั้งแต่การนำข้าวที่เมล็ดไม่แข็งเกินไปมาแช่น้ำไว้ 1 คืน นำมาคั่วให้ร้อนในกระทะ จากนั้นเทใส่ครกตำข้าวและลงมือตำซ้อมมือจนเมล็ดข้าวแตกออกจากเปลือก ก่อนนำมาฝัดแยกด้วยกระด้ง เพื่อให้ได้ข้าวเม่านำไปผสมกับน้ำมะพร้าวและมะพร้าวขูด รับประทานกันอย่างเอร็ดอร่อย รวมทั้งยังสอนวิธีการทำปี่ซังข้าว ของเล่นของเด็กๆ ชาวไร่ชาวนาสมัยก่อนที่ทำจากซังข้าว เมื่อเป่าจะมีเสียงดัง บางคนเป่าเป็นเพลงได้ด้วย

เด็กตรังลงนา

เด็กตรังลงนา

แม้ในปัจจุบันพื้นที่ปลูกข้าวจะค่อยๆ หายไปกลายเป็นสวนปาล์มน้ำมัน สวนยางพารา ส่งผลให้เด็กๆ ยุคใหม่แทบจะไม่เคยเห็นวิธีการทำไร่ ทำนา หรือการเกี่ยวข้าวอีก แต่เมื่อได้ลงมาสัมผัสของจริง บรรยากาศการเรียนรู้จึงเป็นไปด้วยความสนุกสนาน ทั้งเด็ก เยาวชน และคุณลุง คุณป้า คุณตา คุณยาย ผู้สอน

นางพรรณี คงเอียด อายุ 54 ปี เจ้าของแปลงข้าวไร่ กล่าวว่า ขณะนี้ชาวบ้านในตำบลท่าสะบ้ารวมกลุ่มกันทำนาทำไร่ประมาณ 20 ราย แบ่งเป็นทำข้าวไร่ 9 ราย และทำนา 11 ราย ข้าวไร่นั้นจะปลูกโดยอาศัยพื้นที่ว่างในสวนยางปลูกใหม่ของเพื่อนบ้านเพื่อปลูกข้าวไร่ฟรีไว้กินในครัวเรือน เพื่อนบ้านทุกคนก็เต็มใจให้ปลูก เพื่อไม่ให้หญ้าขึ้นรกสวนยาง และได้ข้าวไว้แบ่งปันกันกิน

โดยจะขายในราคากิโลกรัมละ 50 บาท สีด้วยเครื่องสีข้าวแบบโบราณออกมาเป็นข้าวซ้อมมือที่มีคุณภาพและวิตามิน เพียงแต่คนซื้อต้องกิน ให้หมดภายใน 15 วัน เพราะไม่เคลือบยา ฆ่าแมลง

โดย เมธี เมืองแก้ว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน