ชวนเที่ยวไร่องุ่นหัวหิน รสชาติดี-บรรยากาศชิลๆ

“เฉลิม อยู่วิทยา”ชวนเกษตรกรปลูกองุ่น-เชื่อมือคนไทยใส่ใจ-ทำได้ดี

ชวนเที่ยวไร่องุ่นหัวหิน – บริษัท สยามไวเนอรี่ คอมเมอร์เชี่ยล จำกัด ผู้ผลิตไวน์อันดับหนึ่งในภูมิภาคเอเชีย ได้จัดกิจกรรมพาชมไร่องุ่น มอนซูน แวลลีย์ วินยาร์ด แหล่งปลูกองุ่นหลากสายพันธุ์ สู่การผลิตไวน์ชั้นนำที่ได้รับรางวัลระดับโลกกว่า 300 รางวัล

โดยไร่องุ่นมอนซูน แวลลีย์ วินยาร์ด เป็นไร่องุ่นที่ใหญ่ที่สุด ของสยามไวเนอรี่ มีพื้นที่มากกว่า 700 ไร่ หรือประมาณ 110 เฮคเตอร์ ตั้งอยู่ที่ 1 หมู่ 9 บ้านคอกช้างพัฒนา หนองพลับ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เชิญทุกท่านสัมผัส ไร่องุ่นมอนซูน แวลลีย์ วินยาร์ด ซึ่งปลูกองุ่นหลากหลายสายพันธุ์ ที่สำคัญไร่แห่งนี้ปลูกองุ่นด้วยน้ำฝนจากธรรมชาติเท่านั้น บวกกับไร่แห่งนี้มีที่ตั้งอยู่ใกล้ทะเล

ทำให้ไร่องุ่นแห่งนี้ได้รับลมทะเลอยู่ตลอด พร้อมกับพื้นที่แห่งนี้เป็นดินร่วนทรายที่มีสารอาหารอันประเมินค่าไม่ได้จากเปลือกหอยและฟอสซิล เป็นแร่ธาตุนานาประการจากทะเล จึงทำให้องุ่นมีความสดชื่นและมีรสชาติดี เมื่อนำไปผลิตไวน์จึงได้ไวน์ที่ดีและมีคุณภาพสูง จนได้รับรางวัลมากมายจากทั้งในเมืองไทย และรางวัลระดับโลก

ทั้งนี้ บริษัท สยามไวเนอรี่คอมเมอร์เชี่ยล จำกัด เชิญชวนท่านที่สนใจเดินทางมาร่วมชมการเพาะปลูกองุ่นหลากสายพันธุ์ พร้อมจิบไวน์ไทยรสเลิศ ไร่ มอนซูน แวลลีย์ วินยาร์ด หัวหิน โดยทางไร่มีผู้เชี่ยวชาญด้านการปลูกองุ่นและผลิตไวน์ ให้การต้อนรับ พร้อมให้ข้อมูลเกี่ยวกับไร่ มอนซูน แวลลีย์ วินยาร์ด

“อยากทำไวน์แบรนด์ไทย ให้คนไทยได้ดื่มในราคาถูก” “เฉลิม อยู่วิทยา” ชวนเกษตรกรปลูกองุ่น-เชื่อฝีมือคนไทยทำได้ดี พร้อมส่งทีมให้องค์ความรู้ทุกขั้นตอน-มั่นใจเพิ่มรายได้ให้ชาวไร่ วอนรัฐลดเพดานภาษีไวน์ไทย

เฉลิม อยู่วิทยา ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท สยาม ไวเนอรี่ จำกัด บอกเล่าว่า ที่มาของการทำไร่องุ่น สืบเนื่องจากตนมีความคิดว่า ประเทศไทยของเราน่าจะมีการดื่มไวน์ไปพร้อมกับการทานอาหาร ซึ่งถือเป็นทางเลือกที่ดี เพราะการดื่มไวน์นั้น ถ้าดื่มในปริมาณที่พอดีพอประมาณ และดื่มตามกฎ กติกา มารยาทแล้ว น่าจะส่งผลดีต่อสุขภาพ

เพราะถ้าหากไม่เคยลิ้มรสไวน์มาก่อน อาจจะไม่ชอบ ประกอบกับราคาไวน์สมัยก่อนนั้นมีราคาสูงเกินไป ส่วนราคาที่ถูกจะเป็นไวน์ที่คุณภาพไม่ดีเท่าที่ควร และหากคนที่จะเริ่มดื่มไวน์มาถูกตัวไวน์ที่คุณภาพไม่ดี ก็จะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ไม่ชอบดื่มไวน์ และเพื่อให้คนไทยส่วนใหญ่ที่ไม่เคยได้ลิ้มรสไวน์ได้ชิมไวน์รูปแบบใหม่ เราจึงเริ่มทำสปายไวน์คูลเลอร์ จนปัจุบันมีคนไทยเริ่มคุ้นเคย และเราจึงเริ่มทำไวน์องุ่นแท้ๆ เพื่อนำมาทำไวน์แบนด์ไทยให้คนไทยได้ดื่มในราคาที่ถูก

“แต่เดิมคิดจะไปทำไร่องุ่นที่เขาใหญ่ แต่เมื่อมาพิจารณาแล้ว ที่ดินเขาใหญ่ราคาสูง น้ำธรรมชาติขาดพอสมควร อีกทั้งสมัยนั้นยังไม่มีโรงแรมที่นักท่องเที่ยวต่างประเทศรู้จัก จึงหันเป้าหมายมาที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และได้รับพระราชทานที่ดินแปลงหนึ่งที่บริเวณ ตำบลห้วยทราย ใกล้สระน้ำใหญ่ จึงเริ่มทดลองปลูกสองปี ได้ผลดีอย่างไม่น่าเชื่อ แม้บริเวณดังกล่าวจะเป็นพื้นทราย แต่เราปรับมาใช้ระบบน้ำหยด สามารถปลูกได้ผลผลิตที่คุณภาพดี ผลองุ่นอยู่ในระดับใกล้เคียงกัน เลยนำมาหมักถังไม้โอ๊กเพื่อผลิตไวน์ ซึ่งตอนนั้นเรียกว่า “BIN9” ทำเสร็จ ทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทั้งหมด และนำไปเสิร์ฟ ช่วงปีแห่งพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เมื่อปี พ.ศ.2549”

จากนั้นจึงเดินหน้าขั้นตอนการผลิตไวน์อย่างเต็มรูปแบบ โดยหาพื้นที่สูงประมาณ 200 เมตรจากระดับน้ำทะเลขึ้นไป เพราะต้นองุ่นจะเติบโตได้ดีในพื้นที่ดังกล่าว ถึงแม้ช่วงเวลากลางวันจะร้อนมาก แต่ช่วงตอนเย็นและช่วงกลางคืน อุณหภูมิมีความแตกต่างจากช่วงเวลากลางวันมากๆ จะได้ผลผลิตที่ดี หรือแม้แต่จะมีพื้นที่ใกล้ทะเลก็ไม่มีปัญหา เพราะที่อิตาลีใกล้ทะเลก็ได้ผลผลิตที่ดี

ดังนั้นบ้านเราก็ได้ผลผลิตดีเช่นเดียวกัน ส่วนเรื่องน้ำใช้บำรุงองุ่นไม่มีปัญหา เพราะเราขุดสระน้ำไว้หลายแห่งเพียงพอต่อความต้องการภายในไร่องุ่น และไม่เข้าไปรบกวนน้ำของชาวบ้าน ทำให้สระน้ำสาธารณะของชาวบ้านที่อยู่รอบบริเวณไร่องุ่นไม่ได้รับผลกระทบ และน้ำของชาวบ้านไม่ได้หายไปไหนยังเต็มสระเช่นเดิม แม้แต่ในฤดูแล้งก็ตาม

สำหรับช่วงแรกเราเริ่มปลูกพันธุ์ง่ายๆ ก่อน กระทั่งปัจจุบันสามารถผลิตองุ่นได้หลากหลายสายพันธุ์ อาทิ โคลอมบาร์ด, เชนิน บลอง, แซงโจเวเซ, รอนโด, ชีราซ, มัสกัต, ดอนเฟลเดอร์, แมร์โล, กาเบอร์เน, โซวีญง และ โซวีญง บลอง และที่สำคัญพื้นที่แห่งนี้สามารถไวน์สัญชาติไทย ถือเป็นผลผลิตด้วยองุ่น จากไร่องุ่น “มอนซูน แวลลีย์” ในอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตลอดระยะเวลา 12 ปี เราได้รับรางวัลมากมาย และปีนี้เราได้เฉลิมฉลองรางวันที่ 300 รางวัลแสดงให้เห็นว่า ไวน์ไทยเรามีคุณภาพเป็นที่ยอมรับจากต่างชาติ

“ผมเชื่อว่าคนไทยทำได้ คนไทยใส่ใจดูแลผลผลิตอย่างดี ดังนั้นคนไทยสามารถปลูกองุ่นคุณภาพดีได้ กระทั่งสามารถนำองุ่นที่ปลูกมาทำไวน์ที่ดีได้ เพียงแต่ภาษีของไวน์ในประเทศสูงมาก สูงกว่าไวน์ที่นำเข้า ซึ่งเป็นเรื่องแปลกมากๆ ดังนั้นอยากให้มองว่าองุ่นที่นำมาทำไวน์นั้นมาจากเกษตรกรไทย สามารถสร้างรายได้ให้ประชาชน และที่สำคัญทำรายได้ให้กับประเทศได้เยอะมากเช่นเดียวกัน ที่แปลกคือพืชองุ่นเมื่อปลูกแล้วสามารถเก็บผลผลิตได้ภายใน 1 ปี เก็บเกี่ยวได้เร็ว สร้างรายได้ได้เร็ว หากเกษตรกรลงทุน เชื่อว่า เวลา 2-3 ปี เกษตรกรจะได้ทุนคืน ปีที่เหลือถือเป็นผลกำไร ขนาดผมไม่มีความรู้เรื่องปลูกองุ่นยังปลูกได้ผลผลิต แต่เกษตรกรไทยเก่ง ดูแลเอาใจใส่สิ่งที่ปลูกอย่างดี เชื่อว่า เมื่อปลูกองุ่นก็จะเอาใจใส่อย่างดีเช่นกัน สิ่งที่ได้รับคือได้ผลผลิตที่ดี”

 

อีกทั้งเราพร้อมสนับสนุนการปลูกองุ่นในประเทศไทย เราพร้อมสนับสนุนบุคลากรไปให้องค์ความรู้ ทั้งวิธีการปลูก ดูแลคุณภาพองุ่น จนถึงเก็บเกี่ยวผลผลิต เมื่อปลูกแล้วเราพร้อมรับซื้อองุ่น เพียงแต่ได้คุณภาพองุ่นต้องตรงเกณฑ์ที่จะนำผลิตไวน์ ถึงแม้ผลไม่สวยก็ไม่สำคัญ เราพร้อมรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรที่คุณภาพ อีกเรื่องที่สำคัญคือ อยากให้ภาครัฐไม่เก็บภาษีไวน์แพงเกินไป

นอกจากนี้ไร่องุ่น “มอนซูน แวลลีย์” เราใช้แรงงานคนในพื้นที่ส่วนใหญ่ ซึ่งเราให้ความสำคัญกับกำลังคนในพื้นที่ อีกทั้งเราพร้อมสนับสนุนกิจกรรมชาวบ้าน ทั้งพัฒนาโรงเรียนในพื้นที่ เพื่อเยาวชนได้รับความรู้อย่างดีที่สุด รวมถึงพัฒนาชุมชนให้เกิดความเข้มแข็ง เมื่อสิ่งแวดล้อมดีคุณภาพชีวิตภายในพื้นที่ก็จะดีไปด้วย

“ความฝันของผมอยากให้คนไทยได้ดื่มไวน์ที่ดี ราคาไม่แพง ซึ่งกำลังดำเนินการอย่างเป็นระบบ ส่วนอีกเรื่องคนที่ประสบความสำเร็จไปแล้วคือ นำแบนด์เรดบูลล์อยู่บนรถแข่งฟอร์มูล่าวัน และเป็นได้แชมป์โลก 4 ปีซ้อน และที่ฝันต่อไปคือ อยากได้คนไทยขับรถแล้วคว้าแชมป์โลกฟอร์มูล่าวัน ซึ่งตอนนี้เราให้การสนับสนุนคนไทย จึงขอส่งกำลังใจจากคนไทยช่วยเชียร์ทำผลงานในสนามแข่งฟอร์มูล่าวัน”

ทั้งนี้เชิญทุกท่านสัมผัสประสบการณ์ “From grape to glass” จากองุ่นสู่ไวน์คุณภาพ ที่ไร่องุ่นแห่งแรกและแห่งเดียวของหัวหิน ไร่องุ่นมอนซูน แวลลีย์ ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของไวน์ไทยมาตรฐานระดับโลก ทุกท่านจะเพลิดเพลินไปกับช่วงเวลาอันน่าตื่นตาตื่นใจกับการเที่ยวชมบรรยากาศการนั่งรถชมไร่องุ่น ทุกท่านยังได้เก็บเกี่ยวผลองุ่นจากต้น แข่งขันกันย้ำองุ่น และเบลนไวน์ด้วยตัวเองกับกิจกรรม “From grape to glass” ทุกวันตั้งแต่ เวลา 10.00 – 17.00 น. จำกัดรอบเพียง 7 รอบต่อวันเท่านั้น ( รับจำนวนจำกัด 20 ท่าน/รอบ)

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือสำรองที่นั่ง [email protected] หรือโทร +66 (0) 81 701 0222, +66 (0) 81 701 0444


ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน