เจ้าสัว-มหาเศรษฐี

คอลัมน์ รู้ไปโม้ด

โดย…น้าชาติ ประชาชื่น

เจ้าสัว-มหาเศรษฐี – ทําไมถึงเรียก มหาเศรษฐีว่าเจ้าสัว เรียงลำดับ เศรษฐีปีนี้ให้ ด้วยนะ

แมงเม่า

ตอบ แมงเม่า

บทความ “คำ เถ้าแก่-เจ้าสัว ในไทยมีที่มาอย่างไร” โดย เสี่ยวจิว เผยแพร่ในเว็บไซต์ศิลปวัฒนธรรม www.silpa-mag.com/ มีคำตอบเรื่องนี้ว่า

ทั้ง “เถ้าแก่” และ “เจ้าสัว” เป็นคำที่คนไทยคุ้นเคยกันมานาน ทั้ง 2 คำนี้เป็นคำยืมจากภาษาจีนมาใช้ในภาษาไทย โดยออกเสียงตามสำเนียงภาษาแต้จิ๋ว คำว่า “เถ้าแก่” สำเนียงแต้จิ๋วว่า “เถ่าแก่” (หัว+บ้าน) มี 3 ความหมายคือ 1.เจ้าของกิจการที่มีฐานะ ภรรยาเถ้าแก่จะเรียก เถ้าแก่เนี้ย 2.ผู้ใหญ่ที่เป็นประธานในพิธีแต่งงาน และ 3.ผู้นำครอบครัว

ถ้าเป็นภาษาปัจจุบัน เถ้าแก่ก็น่าจะเทียบได้กับบรรดานายห้างทั้งหลาย

ส่วนคำว่า “เจ้าสัว” สำเนียงแต้จิ๋วว่า “จ่อซัว” (ที่นั่ง+ภูเขา) เป็นการแปลเปรียบเทียบว่า นั่งอยู่บนกองเงินกองทอง จึงหมายถึงผู้ร่ำรวย มักใช้กับเศรษฐีที่มีเชื้อสายจีนเป็นหลัก เช่น เจ้าสัวชิน โสภณพนิช ผู้ก่อตั้งธนาคารกรุงเทพ, เจ้าสัวเทียม โชควัฒนา ผู้ก่อตั้งเครือสหพัฒน์, เจ้าสัวอุเทน เตชะไพบูลย์ ผู้ก่อตั้งธนาคารศรีนคร ที่ยกมาข้างต้นนี้เป็นเจ้าสัวผู้ชายทั้งสิ้น แต่จริงๆ เจ้าสัวใช้กับผู้หญิงก็มี เช่น ท่านผู้หญิงเลอศักดิ์ สมบัติศิริ เป็นต้น นี่คือเจ้าสัวรุ่นแรกๆ ของไทย ต่อมาก็มีเจ้าสัวอีกมากมาย

เมื่อ “จ่อซัว” มาใช้ในภาษาไทยก็มีเพี้ยนไปบ้าง เป็น เจ๊สัว, เจ้าสัว เช่น เจ๊สัวเนียม หรือพระศรีทรงยศ บุคคลสมัยรัชกาลที่ 2 พัฒนาที่ดินตรอกเจ๊สัวเนียม ตลาดที่พ่อค้าจีนให้ความนิยมสูงสุดของกรุงเทพฯ ตลอดสองร้อยกว่าปีที่ผ่านมา จนคนทั่วไปขนานนามตลาดสองฟากทางของตรอกนี้ว่า ตลาดเก่า

สำหรับมหาเศรษฐีไทย หากอ้างอิงจากการจัดอันดับของ Forbes ประจำปี 2020 ได้แก่ 1.พี่น้องเจียรวนนท์ 2.73 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ 2.เฉลิม อยู่วิทยา 2.02 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ 3.เจริญ สิริวัฒนภักดี 1.05 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ 4.ตระกูลจิราธิวัฒน์ 9.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ 5.สารัชถ์ รัตนาวะดี 6.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ 6.อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา 3.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ 7.ประจักษ์ ตั้งคารวคุณ 3.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ 8.ตระกูลโอสถสภา 3 พันล้านเหรียญสหรัฐ

9.วานิช ไชยวรรณ 2.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ 10.ชูชาติ เพ็ชรอำไพ-ดาวนภา เพชรอำไพ 2.65 พันล้านเหรียญสหรัฐ 11.นพ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ 2.6 พันล้านเหรียญ 12.Harald Link 2.3 พันล้านเหรียญ 13.กฤตย์ รัตนรักษ์ 2.25 พันล้านเหรียญ 14.คีรี กาญจนพาสน์ 1.9 พันล้านเหรียญ 15.สันติ ภิรมย์ภักดี 1.86 พันล้านเหรียญ 16.ทักษิณ ชินวัตร 1.85 พันล้านเหรียญ 17.วิชัย ทองแตง 1.8 พันล้านเหรียญ 18.สมโภชน์ อาหุนัย 1.75 พันล้านเหรียญ 19.ฤทธิ์ ธีระโกเมน 1.65 พันล้านเหรียญ และ 20.ศุภลักษณ์ อัมพุช 1.6 พันล้านเหรียญ