กรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.) เปิดตัวศูนย์ให้คำปรึกษาจัดตั้งศูนย์ให้คำปรึกษาปัญหาด้านเด็ก เยาวชน และครอบครัว พร้อมเปิด ‘เด็กสภาฯ Market Place’ เพิ่มช่องทางจำหน่ายสินค้าของครอบครัวสภาเด็กและเยาวชน และผู้ที่ได้รับกระทบจากโควิด-19 พร้อมให้บริการ 1 พ.ค.นี้

เมื่อวันที่ 30 เมษายน นางสุภัชชา สุทธิพล อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.) กล่าวว่า จากการศึกษาเรื่องผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (โควิด-19) ขององค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (UNICEF) ระบุว่า เด็กและเยาวชนไทยกว่า 8 ใน 10 คน มีความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาการเงินของครอบครัว เนื่องจากพ่อแม่ผู้ปกครองไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ ถูกเลิกจ้าง ก่อให้เกิดภาวะความเครียด นำไปสู่การทะเลาะวิวาทภายในครอบครัว จนถึงสูงสุด คือ คิดทำร้ายบุคคลในครอบครัว และฆ่าตัวตาย

กรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.) ในฐานะหน่วยงานที่มีภารกิจด้านการกำหนดมาตรการ กลไก ส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพ การคุ้มครองช่วยเหลือ และสงเคราะห์เด็กและเยาวชน เล็งเห็นถึงปัญหาดังกล่าวจึงมีนโยบายให้บ้านพักเด็กและครอบครัว 77 จังหวัดทั่วประเทศ จัดตั้งศูนย์ให้คำปรึกษาปัญหาด้านเด็ก เยาวชน และครอบครัว (Chidren Youth and Family Counseling Center) เริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ.2563 เป็นต้นไป

โดยศูนย์ให้คำปรึกษาปัญหาด้านเด็ก เยาวชน และครอบครัว มีวัตถุประสงค์เพื่อให้คำแนะนำปรึกษา ปัญหาในการเลี้ยงดูบุตรตามช่วงวัย ให้คำปริกษาผู้ประสบปัญหาในด้านต่าง ๆ เช่น ความรุนแรง ตั้งครรภ์ไม่ พึงประสงค์ ว่างงาน ถูกเลิกจ้างงาน การแสวงหาโอกาสในการประกอบอาชีพใหม่ รวมไปถึงการมีส่วนร่วมในการวางแผนการดำเนินชีวิตและดูแลช่วยเหลือ ผ่านเครือข่ายสภาเด็กและเยาวชน และอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) ที่จะทำหน้าที่เฝ้าระวัง แจ้งเหตุ ให้คำปรึกษา และลงพื้นที่ช่วยเหลือ ผู้ประสบปัญหาที่ต้องการคำแนะนำปรึกษาสามารถเข้าไปยังศูนย์ด้วยตนเอง หรือโทรศัพท์ สามารถติดต่อศูนย์ให้คำปรึกษาปัญหาด้านเด็ก เยาวชน และครอบครัว (Children Youth and Family Counseling Center) ที่บ้านพักเด็กและครอบครัว 77 จังหวัด ได้ตลอด 24 ชม. (เบอร์โทรศัพท์ 77 จังหวัด ตามลิงค์นี้ http://intranet.dcy.go.th/m/parent.php หรือทางโซเชียลมีเดีย เช่น Line/Messenger ได้ตลอด 24 ชม. โดยจะมีนักจิตวิทยาและนักสังคมสงเคราะห์คอยให้คำแนะนำ

“เมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสได้คลี่คลายลง ศูนย์นี้ก็ยังคงดำรงต่อ เนื่องจากปัญหาสังคมที่เกิดขึ้นมันยังไม่มีที่สิ้นสุด โดยเฉพาะปัญหาเรื่องเด็กและเยาวชน อาจจะมีผลกระทบในเรื่องของการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น การใช้สื่อโซเชียลที่อาจจะส่งผลต่อการดำเนินชีวิตหรือพฤติกรรมของเด็ก เพราะฉะนั้นศูนย์นี้สามารถที่จะช่วยให้คำแนะนำปรึกษาจะเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นผู้ปกครอง ซึ่งผู้ปกครองก็สามารถที่จะมาขอรับคำแนะนำปรึกษาในการเลี้ยงดูบุตรหลานได้” อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชนกล่าว

นางสุภัชชา กล่าวเพิ่มเติมว่า จากมาตรการล็อกดาวน์ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรค ทำให้ประชาชนไม่สามารถประกอบอาชีพดังเช่นเดิมได้ ส่งผลกระทบให้ครอบครัวเด็ก เยาวชน ไม่มีรายได้เพียงพอต่อการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน กรมกิจการเด็กและเยาวชน จึงได้จัดกิจกรรม ‘เด็กสภาฯ Market Place’ ขึ้น ผ่านช่องทางเฟซบุ๊กกลุ่มชื่อ ‘เด็กสภาฯ Market Place’ เพื่อเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าของครอบครัว สภาเด็กและเยาวชน และผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) อีกทั้งเป็นการส่งเสริมอาชีพให้กับเด็ก เยาวชน และครอบครัว

โดยมีกลุ่มเป้าหมายของเด็กสภาฯ Market Place แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ เด็กและเยาวชนอายุไม่เกิน 25 ปีบริบูรณ์ และประชาชนทั่วไปอายุ 25 ปีขึ้นไป ผู้ที่เข้าร่วมกลุ่มสามารถโพสต์ ขายผลิตภัณฑ์อุปโภค บริโภคและการบริการ อาทิ เครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน อาหาร เครื่องดื่ม ตัดผม ทำเล็บ ล้างรถนอกพื้นที่ หรือจิตอาสาความช่วยเหลือ โดยห้ามจำหน่ายสินค้าและบริการที่ผิดกฎหมาย อาทิ ยาเสพติด เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ยาบำรุงกำลัง อาวุธ สื่อความรุนแรง ฯลฯ

นายโยธิน ทองพะวา ผู้แทนสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เด็กสภาฯ Market Place เป็นพื้นที่กลางของสมาชิกสภาเด็กและเยาวชน โดยเริ่มต้นจากการหาข้อมูลและรวมกลุ่มกันว่า ในแต่ละจังหวัดมีสินค้าอะไรบ้าง เวลามีงานของกรมระดับประเทศ สภาเด็กและเยาวชนก็มักจะเอาสินค้าของแต่ละพื้นที่มาจำหน่ายกัน จึงมีไอเดียว่าน่าจะสร้างพื้นที่ออนไลน์เพื่อให้น้อง ๆ สามารถขายสินค้าได้ ประกอบกับกรมก็มีมาตรการในการช่วยเหลือเด็ก เยาวชนและครอบครัว จึงได้เกิดเด็กสภาฯ Market Place ขึ้นมา เพื่อได้จำหน่ายสินค้า อุปโภค บริโภคต่าง ๆ ซึ่งเปิดกว้างหลากหลายไม่ใช่เฉพาะเด็กและเยาวชน แต่ผู้ใหญ่ก็สามารถเข้าร่วมได้


ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน