คอลัมน์ ข่าวสดหลากหลาย

สุจิตรา ธนะเศวตร

ในอีก 3 ปีข้างหน้าพระราชวังต้องห้ามของจีนอายุครบ 600 ปี เป็นวังหลวงตั้งแต่กลางราชวงศ์หมิง จนถึงราชวงศ์ชิง ซึ่งหากเทียบกับสนามฟุตบอลจะได้ 114 สนามฟุตบอล สนามละ 400 เมตร พระราชวังต้องห้ามเป็นที่สุดในโลก 4 อย่าง 1) งานก่อสร้างที่มีพิมพ์เขียวใหญ่ที่สุด 2) ฐานอักษรตัวถู่ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก 3) กลุ่มวังที่สร้างด้วยอาคารไม้ใหญ่ที่สุดในโลก 4) หน้าไท่เหอ เตียน (ศาลาว่าราชการ) มีจัตุรัสเทียนอันเหมินที่ใหญ่ที่สุดในโลก

เนื้อหานี้ปรากฏในการเสวนา “เปิดวังต้องห้าม สวรรค์บนดิน สุนทรียศิลป์แห่งแผ่นดินมังกร” เจาะเกร็ดประเด็นสำคัญจากหนังสือ ร้อยเรื่องราววังต้องห้าม จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์มติชน

ชาญ ธนประกอบ ผู้แปลร่วมหนังสือเล่มนี้ จากสำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป กล่าวว่า พระราชวังต้องห้าม หรือ จื่อจิ้นเฉิง ตั้งชื่อเพื่อสร้างมงคล มาจากชื่อของดาวเหนือ จื่อ แปลว่า ดาวเหนือ เป็นดาวที่สุกใสที่สุด รอบๆ มีดาวโคจร มีตำแหน่งคงที่ ตามตำราโบราณจีน วังจื่อเวย เป็นที่ประทับของ เง็กเซียนฮ่องเต้ เทพสูงสุดของสวรรค์ ประกอบกับจักรพรรดิเป็นโอรสแห่งสวรรค์ แล้วจุติเป็นมนุษย์เพื่อปกครองประชาชน จึงสร้างวังให้ตรงกับทิศดาว

การออกแบบสอดคล้องกับธรรมชาติ ด้วยที่ตั้งของจีน ลมหนาวมาจากทิศเหนือ จากขั้วโลกเหนือ ตามคติจีน จักรพรรดิผินหน้าไปทางทิศใต้ เพราะลมหนาวมาจากทางทิศเหนือ ลมอาจจะประจันหน้า หลังพิงภูเขา หากไม่มีภูเขาให้สร้างขึ้นมา ด้านหน้าเป็นลำน้ำ คือมังกร จึงเท่ากับว่า หลังพระจักรพรรดิอยู่ทางทิศเหนือ หน้าหันไปทางทิศใต้

“ตามคติของจีนวังฮ่องเต้คือศูนย์กลางแผ่นดิน ล้อมรอบด้วยทะเล 4 ทิศ คนในอาณาเขตทะเลทั้ง 4 ล้วนพี่น้องกัน เราจะไม่ได้ยินว่าคนจีน ในต่างประเทศ แต่เรียกว่าคนจีนโพ้นทะเล” ผู้แปลให้ข้อมูลความรู้

ด้าน นพ.บัญชา พงษ์พานิช เลขาธิการหอจดหมายเหตุ พุทธทาส อินทปัญโญ นักอ่าน นักค้นคว้า ผู้มีประสบการณ์ไปวังต้องห้าม ระบุว่า วัง หมายถึง เมืองของจักรพรรดิ เป็นศูนย์กลางของแผ่นดิน ห้าม คือ ห้ามสามัญชนเข้า-ออก เพราะเป็นบ้านของจักรพรรดิ แบ่งเป็นสัดส่วนหรือห้ามใน 3 ระดับ (มี 3 ชั้น) ชั้นนอก ประตูเทียนอันเหมิน เป็นสำนักตรวจสอบสารพัดก่อนเข้าวัง ชั้นกลาง เขตพระราชฐาน เป็นท้องพระโรง เขตชั้นใน ที่อยู่ของสตรี สนม นางกำนัล ซึ่งเข้าไปและไม่ให้ออกมาอีกเลย

“การออกแบบเชิงสถาปัตยกรรมสมดุลแต่ไม่สมมาตร มีแกนกลาง แบ่งเป็น 2 ซีก ซึ่งไม่เหมือนกัน ทิศตะวันออกเป็นที่อยู่ของผู้ที่กำลังจะขึ้น อาทิ ฝ่ายพลเรือน รัชทายาท ส่วนทิศตะวันตกเป็นที่อยู่ ของฝ่ายที่กำลังจะไปหรือลง คือ มเหสี พระสนม ไทเฮา การออกแบบ แฝงคติ เพื่อเข้าใจฐานคติจีน เช่น สิงโตตัวผู้-เมีย อาทิตย์-จันทร์ หยิน-หยาง ฟ้า-ดิน นาฬิกาแดด-ตาชั่ง รวมถึงตามคติธาตุทั้ง 5 ได้แก่ ดิน น้ำ ไฟ ทอง ไม้” นพ.บัญชากล่าว

นพ.บัญชากล่าวอีกว่า วังชั้นกลาง ยึดหลักความสมดุลของธาตุทั้ง 5 มีท้องพระโรง ซึ่งเป็นหัวใจของวัง มี ไท่เหอเตียน จงเหอเตียน เป่าเหอเตียน ซึ่งเป็นสถานที่ฮ่องเต้ออกว่าราชการ โดยตัวพระราชฐาน อักษรตัวถู่สีเหลือง อยู่ตรงกลาง คือจักรพรรดิ กับศาลาว่าราชการทั้ง 3 ล้อมรอบจะต้องอยู่ตรงศูนย์กลาง แล้วล้อมรอบด้วยธาตุ ไฟ ไม้ ทอง น้ำ

สะพานทั้ง 5 ที่อยู่ด้านหน้าวัง คือ ศรธรรมะ 5 ประการที่ฮ่องเต้พึงมี 1) มนุษยธรรม 2) ยุติธรรม 3) จริยธรรม 4) ปัญญา 5) สัจธรรม

ถ้าใครมีโอกาสไปวังต้องห้าม จะเห็นคนจีนลูบเสา 4 เสา ชื่อ หว่าเปียวเป็นเสาหินมีเมฆ มีมังกรพันบนเสา แล้วข้างบนมีสัตว์ตัวหนึ่งชื่อ เฉาเทียนโห่ว โดย 2 เสาหันออกไปหน้าเทียนอันเหมิน อีก 2 เสาหันไปทางข้างในวัง เฉาเทียนโห่ว แปลว่า ตะโกนสู่ห้องจักรพรรดิหรือ ฟ้า หมายถึง 1) ให้ฮ่องเต้ออกว่าราชการหรือทำงาน 2) ไปเที่ยวแล้วกลับมาด้วย สะท้อนภูมิปัญญาคนจีนถึงเรื่องการรู้จักเอาตัวรอด อาศัยสิ่งไม่มีชิวิตว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพราะไม่มีใครกล้าสะกิดพระองค์ ซึ่งฮ่องเต้มีความเชื่อในความเหนือธรรมชาติ แล้วให้ฮ่องเต้คิดเอง

ความเป็นมาของวังต้องห้าม สถาปนาในราชวงศ์หยวน ต่อมาสร้างเป็นรูปเป็นร่างอย่างจริงจัง ขยับแกนของวังเล็กน้อย โดยจักรพรรดิหย่งเล่อ หรือ จู่ตี้ กษัตริย์องค์ที่ 3 ของราชวงศ์หมิง ซึ่งย้ายวังหลวงของจีนจากนานจิง ทางทิศใต้มายังเป่ยจิงทางทิศเหนือ เจตนา สร้างวังมองไปทางทิศใต้ เพื่อบอกว่า ฉันมาจากฟ้า คุมแผ่นดิน กว้างใหญ่ทางทิศใต้ คือมองอาณาประชาราษฎร์

สาเหตุการย้ายวังหลวง 1) สกัดชาวมองโกล 2) จู่ตี้คุ้นเคยกับทางเหนือ สมัยเป็นอ๋องปกครองเมืองเป่ยผิง (เทียบเท่าเมืองประเทศราช) ต่อมาเป็นเป่ยจิง (ปักกิ่ง) ในปัจจุบัน จึงย้ายไปที่ตนเองชอบ 3) ความคาใจของจู่ตี้ ว่าจักรพรรดิเจี้ยนเหวินที่จู่ตี้ไปยึดอำนาจมาตายหรือไม่ เพราะไม่พบศพ จู่ตี้จึงคาใจอยู่ 21 ปี จึงสร้างวังหลวงใหม่ป้องกันจักรพรรดิองค์เก่ารู้เส้นสนกลใน

การวางแผนสร้างวัง 10 ปี สร้างจริง 4 ปี เนื่องจากเป่ยผิง มีคนน้อย เสบียงไม่พอ ขั้นแรกจึงย้ายคนจากทุกมณฑล คหบดีย้ายไปก่อน สาเหตุที่เตรียมนาน ใช้ท่อนซุงทำฐาน โครงไม้ งานไม้ต้องตัดไม้ ที่ยูนนานซึ่งอยู่ค่อนไปทางใต้ ขนไปปักกิ่ง ซึ่งอยู่ทิศใต้ เป็นระยะทางหลายพันกิโลเมตร โดยขนล่องไปทางน้ำ ล่องน้ำได้ไม่นาน เพราะมีช่วงหนึ่ง น้ำเป็นน้ำแข็ง ในฤดูหนาว จึงขุดคู 2 ข้างสาดน้ำไปบนถนนให้จับตัวแข็งแล้วกลิ้งซุงขึ้นไป ลากลื่นดี

ดังนั้น พระราชวังต้องห้าม ซึ่งสร้างตามหลัก ฮวงจุ้ยชั้นเสิศ เน้นความสมดุล ประโยชน์ใช้สอย สอดคล้องกับธรรมชาติ แฝงด้วยคติ ความหมาย สะท้อนถึงภูมิปัญญาของคนจีนโบราณ ที่รอคนรุ่นหลังค้นคว้า เยี่ยมเยียนสักครั้งหนึ่งในชีวิต

ผู้ที่มีเวลาและโอกาสที่จะเดินทางในช่วงเวลานี้ ร่วมทัวร์ได้กับมติชน อดาเดมี “ร้อยเรื่องราว…วังต้องห้าม” ประเทศจีน พบกับ วิทยากรพิเศษ นพ.บัญชา พงษ์พานิช ที่หลายๆ คนชื่นชอบ จะไปบรรยายเรื่องราวของวัง ต้องห้าม ทัวร์ราคาเริ่มต้นท่านละ 45,000 บาท ติดต่อสอบถามได้ที่โทร.0-2954-3977-84 ต่อ 2115, 2116, 2123

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน