รู้ไปโม้ด

น้าชาติ ประชาชื่น [email protected]

หน้าคลินิกความงามบอกมีทำเลเซอร์ จี้ฝ้า กระทำไงคะ

น้อยหน่า

ตอบ น้อยหน่า

คำตอบนำมาจากเอกสารของกลุ่มงานศัลยกรรมและเลเซอร์ผิวหนัง สถาบันโรคผิวหนัง กระทรวงสาธารณสุข ว่า ปัจจุบันมีการนำเลเซอร์มารักษาโรคผิวหนัง รวมทั้งลดริ้วรอยเหี่ยวย่น และทำให้ผิวพรรณสดใสดูอ่อนกว่าวัย แต่หากเลือกใช้เลเซอร์ที่ไม่เหมาะสม หรือไม่ได้รักษาโดยผู้เชี่ยวชาญ ก็อาจจะทำให้เกิดผลข้างเคียงหรือรอยแผลเป็น ซึ่งอาจจะไม่สามารถแก้ไขให้เหมือนเดิมได้

เนื่องจากเครื่องเลเซอร์มีหลายชนิด แต่ละชนิดให้กำเนิดคลื่นแสงที่มีความยาวคลื่นจำเพาะ และมีผลเฉพาะต่อเนื้อเยื่อที่ตอบสนองต่อคลื่นแสงนั้นๆ

ดังนั้นการใช้เลเซอร์ที่เหมาะสมกับเนื้อเยื่อที่จะรักษาได้ผลดี และการรักษาควรทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญซึ่งมีการวินิจฉัยโรคที่ถูกต้อง จะไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียง

ยกตัวอย่าง เลเซอร์ที่ใช้รักษาเม็ดสี เช่น ฝ้า กระ ปานดำ จะมีคลื่นแสงจำเพาะที่ทำลายเฉพาะเม็ดสีให้เกิดการแตกสลาย จากนั้นเม็ดเลือดขาวจะค่อยๆ เข้ามาเก็บกินเม็ดสีที่ถูกทำลาย จึงทำให้รอยดำค่อยๆ จางลง ส่วนแสงเลเซอร์ที่ใช้รักษาริ้วรอยบนใบหน้า จะผ่านทะลุผิวหนังและทำให้อุณหภูมิในชั้นหนังแท้สูงขึ้นอย่างพอเหมาะ เพื่อกระตุ้นการสร้างใยคอลลาเจนเพิ่มมากขึ้น ทำให้ริ้วรอยต่างๆ ดีขึ้น

ขณะที่การกำจัดขนด้วยเลเซอร์อาศัยหลักการที่พลังงานแสงเลเซอร์ถูกดูดซับด้วยเม็ดสีที่อยู่ในเส้นขน จากนั้นพลังงานแสงจะเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อนเพื่อไปทำลายเส้นขนและบางส่วนของเซลล์ที่เป็นต้นกำเนิดในการสร้างขน ทำให้เส้นขนมีขนาดเล็กลงและค่อยๆ หายไป

การกำจัดขนจึงอาจต้องทำซ้ำหลายครั้ง เพื่อให้ได้ผลถาวร สำหรับเลเซอร์รักษาเส้นเลือดและปานแดง จะมีคลื่นแสงจำเพาะต่อเม็ดเลือดแดง ซึ่งจะดูดซับพลังงานเลเซอร์ มีผลทำให้เส้นเลือดที่ผิดปกติในบริเวณนั้นถูกทำลาย ปานแดงจึงค่อยๆ จางลง

ปัจจุบันวิทยาการทางการแพทย์มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว มีการประดิษฐ์เครื่องเลเซอร์เพื่อใช้รักษาโรคต่างๆ ได้ผลเป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการรักษาโรคผิวหนัง

เครื่องเลเซอร์ให้กำเนิดคลื่นแสงที่มีความยาวคลื่นจำเพาะและมีระดับพลังงานสูง เมื่อฉายแสงเลเซอร์เข้าไปในผิวหนัง แสงเลเซอร์จะไปมีผลเฉพาะต่อเนื้อเยื่อบริเวณที่ต้องการรักษา โดยมีผลกระทบต่อเนื้อเยื่อข้างเคียงน้อยมาก

ดังนั้นเมื่อเลือกใช้ชนิดเครื่องเลเซอร์ที่เหมาะสมต่อพยาธิสภาพของโรคและรักษาโดยผู้เชี่ยวชาญจะได้ผลดีต่อการรักษา ทั้งยังก่อให้เกิดผลข้างเคียงน้อยมาก

สำหรับกระ กระลึก ปานดำ หรือลบรอยสัก รอยโรคบริเวณกระ กระลึก ปานดำและรอยสัก พบมีจำนวนเม็ดสีสะสมอยู่ในบริเวณนั้นมากผิดปกติ บางชนิดพบตั้งแต่เกิด ต่อมาจึงมีขนาดใหญ่และสีเข้มมากขึ้น เช่นปานดำบริเวณใบหน้า บางชนิดเริ่มพบเมื่อมีอายุมากขึ้นร่วมกับการตากแดดเป็นระยะเวลานานๆ เช่น กระ

สำหรับรอยสักเกิดจากการสักและนำเม็ดสีจากภายนอกฝังลงไปในผิวหนัง ในกรณีที่ต้องการรักษาภาวะดังกล่าวนี้ เมื่อฉายแสงเลเซอร์เข้าไปที่บริเวณรอยโรค แสงเลเซอร์จะมีความจำเพาะเจาะจงทำลายเฉพาะเม็ดสี ทำให้เกิดการแตกสลายของเม็ดสี จากนั้นเม็ดเลือดขาวจะค่อยๆ เข้ามาเก็บกินเม็ดสีที่ถูกทำลาย ทำให้รอยโรคค่อยๆ จางลงและหายไปในที่สุด

รอยโรคบางชนิดรักษาโดยฉายแสงเลเซอร์เพียงครั้งเดียว แต่บางชนิดอาจต้องฉายแสงเลเซอร์ 3-5 ครั้ง ใช้ระยะเวลาห่างกันในแต่ละครั้งประมาณ 6 ถึง 8 สัปดาห์ ผลข้างเคียงจากการใช้เครื่องเลเซอร์ชนิดนี้พบได้น้อยมาก

ส่วนปานแดงเป็นภาวะที่เส้นเลือดบริเวณผิวหนังมีขนาดและ/หรือจำนวนมากผิดปกติ ทำให้ผิวหนังบริเวณนั้นเห็นเป็นผื่นสีแดง ส่วนใหญ่เริ่มพบตั้งแต่วัยเด็ก อาจมีขนาดใหญ่และนูนหนาขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น

เมื่อฉายแสงเลเซอร์ผ่านบริเวณผิวหนังที่เป็นปานแดง เม็ดเลือดแดงจะดูดซับพลังงานเลเซอร์ มีผลทำให้เส้นเลือดผิดปกติในบริเวณนั้นถูกทำลาย ปานแดงจะค่อยๆ จางลง โดยเฉลี่ยต้องใช้การรักษาประมาณ 3-5 ครั้ง แต่ละครั้งห่างกันประมาณ 6-8 สัปดาห์ ระหว่างรักษาผู้ป่วยอาจรู้สึกเจ็บเล็กน้อยคล้ายกับถูกหนังยางดีดเบาๆ บริเวณผิวหนัง และภายหลังการรักษาอาจเกิดรอยคลํ้าจางๆ ซึ่งจะหายได้เองภายใน 1-2 สัปดาห์

เลเซอร์สำหรับกระเนื้อ หรือตุ่มเนื้องอกต่างๆ ที่พบบ่อยได้แก่ กระเนื้อ สิวหิน ไฝธรรมดา และตุ่มไขมัน ก่อนการฉายแสงเลเซอร์ผู้ป่วยจะได้รับการทายาชาทิ้งไว้ 45 นาที

ระหว่างที่รักษาจะไม่รู้สึกเจ็บปวด ภายหลังการรักษาผู้ป่วยควรใช้นํ้าเกลือล้างแผลและทายาป้องกันการอักเสบ 3-7 วัน เพื่อให้แผลหายเร็วและป้องกันการเกิดแผลเป็น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน