เยียวยาผู้ยากไร้ – มูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย องค์กรคริสเตียน ทำงานพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็ก ครอบครัวและชุมชน งานบรรเทาทุกข์ฉุกเฉิน และการส่งเสริมความเป็นธรรมในสังคมมายาวนานเป็นปีที่ 46

ปัจจุบันมีโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็ก ครอบครัว และชุมชน ดำเนินการอยู่จำนวน 76 โครงการ ในพื้นที่ 42 จังหวัดในประเทศไทย มีเด็กในความอุปการะจำนวน 62,000 คน มีเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนทำหน้าที่ประสานงานดำเนินกิจกรรมโครงการต่างๆ ในระดับหมู่บ้าน รวมถึงชุมชนที่เด็กๆ อาศัยอยู่

โดยทำงานร่วมกับผู้นำชุมชน ตลอดจนครอบครัวเป้าหมาย และเด็กที่เป็นกลุ่มเป้าหมายหลักในการทำงาน

ล่าสุดมูลนิธิศุภนิมิตฯ เผยถึง “การดำเนินงานการตอบสนอง 90 วันป้องกันและลดการแพร่ระบาดของ โควิด-19” ซึ่งที่ผ่านมานั้นเกิดผลกระทบกับเด็กๆ ทั่วประเทศ รวมไปถึงกลุ่มเด็กเปราะบางยากไร้เหล่านี้ สถานการณ์ที่ยังไม่มีวัคซีนหรือยารักษา จำเป็นต้องเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสไม่ให้กลับมาระบาดในรอบที่สอง จะเห็นได้ว่านับตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา มูลนิธิศุภนิมิตฯ ดำเนินงานตอบสนองและช่วยเหลือเด็กในความอุปการะ เด็กเปราะบางยากไร้ รวมถึงชุมชนและแรงงานข้ามชาติกว่า 200,000 คน ให้สามารถป้องกันตนเองและดำเนินชีวิตได้อย่างปลอดภัย รวมไปถึงการแจกจ่ายสิ่งของจำเป็น เช่น หน้ากากอนามัยกว่า 300,000 ชิ้น สบู่เหลวล้างมือกว่า 67,000 ขวด เพื่อช่วยลดโอกาสการติดเชื้อสำหรับชุมชนและพื้นที่ที่ขาดแคลน พร้อมผสานความร่วมมือด้วยการจัดสรรงบประมาณเพื่อช่วยเหลือได้ทันสถานการณ์

ช่วงหลังวิกฤตโควิด-19 มูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทยให้ความสำคัญกับชีวิตเด็กยากไร้ อีกจำนวนมาก หลายครอบครัวต้องเผชิญกับสภาวะและความฝันของเด็กๆ ที่อาจไม่ได้ไปต่อ เนื่องจากความยากลำบากที่ครอบครัวต้องตกอยู่ในความเสี่ยงเรื่องรายได้และอาชีพของพ่อแม่ ส่งผลต่อคุณภาพชีวิต อาหารการกิน

รวมถึงค่าใช้จ่ายอุปกรณ์การเรียน-อ่านเขียนในช่วงเปิดเรียน จึงมุ่งเน้นการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนให้เด็กและครอบครัวอิ่มท้องและอิ่มความรู้ โดยการส่งมอบนมกล่องกว่า 200,000 กล่อง ให้เด็กปฐมวัย และแจกจ่ายอาหาร ถุงยังชีพให้ครอบครัวของเด็กที่ได้รับผลกระทบกว่า 4,000 ชุด

รวมไปถึงการมอบสื่อบ้านแห่งการเรียนรู้ไม่น้อยกว่า 23,000 ชุด เพื่อส่งเสริมให้เด็กเตรียมพร้อมกลับเข้าสู่โรงเรียนได้อย่างเต็มรูปแบบและดูแลตนเองได้อย่างยั่งยืน ทั้งยังเสริมเกราะความเข้มแข็งให้พร้อมต่อสู้กับไวรัสในการสนับสนุนอุปกรณ์ป้องกันให้ทีมแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่และเหล่าอาสาสมัครสาธารณสุขกว่า 11,000 ชุด

ลักษณะของโครงการยังมุ่งเน้นการผสานความร่วมมือกับภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคมรวม 159 แห่ง เพื่อป้องกันและบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นจากโควิด-19 ให้ตระหนักถึงการป้องกันและการปกป้องคุ้มครองเด็กในภาวะวิกฤต

การร่วมมือในครั้งนี้ได้หน่วยงาน WHO กรมควบคุมโรค และมูลนิธิรักษ์ไทย เปิดบริการสายด่วนโควิด 1422 เพื่อให้ความรู้แก่แรงงานข้ามชาติโดยเฉพาะ หรือหน่วยงาน STARFISH LABZ และ สสส. พัฒนาสื่อดิจิตอลส่งเสริมความรู้เกี่ยวกับโควิด-19 และการดูแลเด็กในภาวะวิกฤตโควิด-19

พร้อมทั้ง 16 องค์กร ทั้งภาครัฐ เอกชน องค์กรภาคประชาชน จัดทำคู่มือแนวทางปฏิบัติสำหรับสถานศึกษาเพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยได้เหล่านักแสดงและผู้มีชื่อเสียงอีกมากมายร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเป็นกระบอกเสียงเพื่อสะท้อนความรู้สึกและความกังวลต่อสถานการณ์

ตลอด 90 วันที่ผ่านมา มูลนิธิศุภนิมิตฯ เดินหน้าดำเนินงานอย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 รวมถึงฟื้นฟูชีวิตความเป็นอยู่ของเด็กและครอบครัว เด็กเปราะบางยากไร้ ชุมชน และกลุ่มแรงงานข้ามชาติ เพื่อให้กลับมาดำเนินชีวิตได้ตามแนวทาง “ชีวิตวิถีใหม่” รวมถึงการพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็ก ครอบครัว ชุมชน และดูแลตนเองได้อย่างยั่งยืน

หลังจากนี้ตลอดทั้งปี มูลนิธิศุภนิมิตฯ ยังคงสานต่อแผนงานการ ช่วยเหลือ ฟื้นฟู เยียวยา เด็กและครอบครัวยากไร้ที่เปราะบางหลังวิกฤตโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทรศัพท์ 0-2022-9200-2 www.worldvision.or.th

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน