เปิดโพล! ไทยนอกใจ คบชู้ ติดอันดับโลก เรื่องเมียหลวง เมียน้อยไม่ว่าจะในจอหรือนอกจอก็สร้างความบันเทิงน่าติดตาม เม้าท์สนุกปาก แต่ถ้าเกิดขึ้นกับตัวเองก็คงไม่สนุกเท่าไหร่นัก

เมียน้อย เป็นคำที่คนไทยเรียกกันจนคุ้นหู ย้อนกลับไปในอดีตเมื่อสมัยรัชกาลที่ 4 การมีหลายเมียถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่แปลกในสังคม ไม่โดนประณาม หรือแฉเรื่องราวลงเฟซบุ้กเหมือนในวันนี้ แต่ทว่าอย่างไรก็ตามเรื่องราวการนอกใจในสังคมไทยได้รับความสนใจเป็นวงกว้าง ไม่ว่าจะเป็นข่าวดาราแฉเมียน้อย เมียหลวงตามหึงผัว เป็นต้น

การเป็นเมียน้อยตั้งแต่อดีต ถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ไม่เป็นการกระทำที่ผิดกฏหมายและมาตรฐานสังคมในขณะนั้น โดยทั่วไปแล้วหญิงไทยในสมัยนั้นนิยมผลันตัวไปเป็นเมียน้อยเจ้าภาษีนายอากรชาวจีนเสียด้วยซ้ำ ซึ่งหลวงวิจิตรวาทการกล่าวว่า นายอากรชาวจีนเหล่านี้มีอำนาจเท่ากับ “เจ้าบ้านผ่านเมือง” มีเอกสิทธิและอิทธิพลมากมาย ไม่ต่างไปจากเจ้านครในยุโรปสมัยกลาง หรือเจ้าที่ดินในรัสเซียสมัยซาร์

จนกระทั่งปี พ.ศ. 2473 ที่แนวความคิดตะวันตกได้เริ่มมีอิธิพลเข้ามาในประเทศมากขึ้น นำไปสู่พระราชทานกำหนดกฎหมายที่เรียกว่า “พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมกฏหมายลักษณะผัวเมีย” ซึ่งกำหนดให้มีการจดทะเบียนสมรส ทะเบียนหย่า และการรับรองบุตร เพื่อทดแทนกฏหมายผัวเดียวหลายเมียนั่นเอง เป็นสาเหตุให้เกิดการยอมรับแนวคิด “ผัวเดียวเมียเดียว” ขึ้น

แต่ทว่าทัศนคติการนอกใจยังคงมีให้เห็นได้อยู่บ่อยครั้งในสังคมไทย ไม่เว้นแต่แฝงไว้ในบทเพลงฮิตตลอดกาล เช่น เพลงเมียพี่มีชู้ ของชาย เมืองสิงห์ ที่มีเนื้อเพลงว่า “เมียพี่มีชู้ ชาวบ้านรู้หรือเปล่า ไม่เคยรู้ข่าวแพร่งพราย ผู้หญิงผู้หยังนี่ชั่งกระไร ชอบเปลี่ยนสไตล์ไวไฟสิ้นดี เมียพี่มีชู้ คนรู้กันแซดอยู่กันตั้งแปดเก้าปี ลูกสองคนหน้ามนยังหนี แม่ยอดยาหยีแม่ผู้ดีตีนแดง” โดยเนื้อเพลง แฝงถึงปัญหาการนอกใจและเป็นกล่าวตำหนิถึงผู้หญิงที่คบชู้หลายใจ ผิดศีลธรรม อีกด้วย

หรือว่าจะเป็นเพลงฮิต ฉันรักผัวเขา ของ นิตยา บุญสูงเนิน นอกจากจะแสดงความต้องการคบชู้อย่างชัดเจนผ่านบทเพลงแล้ว ยังเป็นแสดงออกถึงบทบาทของเพศหญิงที่เปลี่ยนไปจากแต่ก่อนมาก

ทั้งนี้ มหาวิทยาศรีนครินทรวิโรฒ ได้ทำการสำรวจอัตราการนอกใจของหญิงและชาย โดยผลปรากฏว่าหญิงและชายไทยถูกจัดอันดับการนอกใจเป็นอันดับ 1 ของโลก คิดเป็นจำนวนได้ถึง 56 % เลยทีเดียวตามมาด้วย เดนมาร์กและอิตาลี ตามลำดับ

ซึ่งดร.วัลลภ ได้อธิบายอย่างน่าสนใจไว้ว่า ปัญหาส่วนใหญ่ของการมีชู้มีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นเพราะผู้ชายนั้นสนใจกับเรื่องขนาดจนเกินไป
โดยส่วนใหญ่แล้วชายไทยจะมีทัศนคติว่า “ใหญ่คือดี” ทำให้เพศชายที่ไม่รู้สึกมั่นใจกับขนาดของตัวเองนั้นเกิดความรู้สึกไม่ปลอดภัยในความสัมพันธ์ และเป็นแรงกระตุ้นให้เปลี่ยนคู่ไปเรื่อยๆ

ขอขอบคุณที่มา silpa-mag.com

crossboxs.com

tendermeets.com

chiangmaicitylife.com

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน