เปิดใจ‘อเล็กซ์ อัลบอน’ – หากนับเวลาย้อนกลับไปเมื่อไม่กี่ปีก่อนเชื่อว่ามีน้อยคนจะรู้จักชายหนุ่มลูกครึ่งไทย-อังกฤษที่ชื่อ อเล็กซานเดอร์ อัลบอน อังศุสิงห์ ยิ่งเป็นคนไทยที่ไม่ค่อยได้ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับการแข่งรถยนต์สูตร 1 หรือฟอร์มูลาวัน ด้วยแล้ว คงพากันส่ายหน้าแบบงงๆ ว่า หนุ่มคนนี้คือใคร
อเล็กซ์เริ่มเป็นที่รู้จักในวงการรถสูตร 1 ในไทยมากขึ้นในปี 2019 เมื่อกลายเป็นนักขับสัญชาติไทยคนที่ 2 ต่อจาก พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพีรพงศ์ภาณุเดช (พระองค์เจ้าพีระ) ซึ่งได้รับโอกาสลงแข่งขันกีฬาเจ้าความเร็วอันดับหนึ่งของโลกกับต้นสังกัด สคูเดเรีย โตโร รอสโซ ทีมน้องของแอสตัน มาร์ติน เรดบูลล์ เรซซิ่ง ยักษ์ใหญ่แห่งวงการรถฟอร์มูลา วัน
นักขับรถแข่งลูกครึ่งไทย-อังกฤษเริ่มสนใจเรื่องการแข่งรถตั้งแต่เด็ก ตามรอยคุณพ่อ ไนเจล อัลบอน ซึ่งเป็นนักแข่งรถอาชีพ ขณะที่คุณแม่กัญญ์กมลเป็นชาวไทย พร้อมให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่
เริ่มเข้าสู่วงการรถแข่งฟอร์มูลาอย่างจริงจังครั้งแรกเมื่อปี 2012 ในรายการยูโรคัพ ฟอร์มูลา เรโนลต์ 2.0 ซีรีส์ และทำผลงานได้น่าพอใจจนไต่เต้าขึ้นมาถึงฟอร์มูลา 2 ในปี 2017 กับต้นสังกัดอย่าง เออาร์ทีกรังด์ปรีซ์ และ ดีเอเอ็มเอส ในปี 2018
หลังจากเข้าสู่ทีมสคูเดเรีย โตโร รอสโซ ได้ไม่นาน ช่วงปลายซีซั่น ฤดูกาล 2019 แอสตัน มาร์ติน เรดบูลล์ เรซซิ่ง ได้ประกาศอย่างเป็นทางการในการเปลี่ยนตัวนักแข่งของทีม
นั่นคือการดึง อเล็กซานเดอร์ อัลบอน ขึ้นมาเป็นนักขับร่วมกับ แม็กซ์ เวอร์สตัปเปน โดยแทนที่ ปิแอร์ แกสลีย์ นักขับชาวฝรั่งเศส
ท่ามกลางความสงสัยจากผู้สื่อข่าวที่มองว่าเจ้าของทีมเรดบูลล์ เรซซิ่ง นั้นเป็นคนไทย การย้ายขึ้นไปขับให้กับต้นสังกัดใหญ่ของอัลบอน คงไม่ต่างจาก “เด็กเส้น” แต่อเล็กซ์ทำงานอย่างหนักเพื่อพิสูจน์ตัวเองว่าการก้าวขึ้นมาอยู่บนจุดที่ใครหลายคนในวงการรถสูตรหนึ่งใฝ่ฝันนั้น เป็นเพราะฝีมือและความสามารถ
ตั้งแต่ปี 2019 ต่อถึงปี 2020 อัลบอนเกือบจะกลายเป็นคนไทยคนแรกที่ได้ขึ้นโพเดียมรับถ้วยรางวัลถึง 2 ครั้ง แต่ทั้ง 2 ครั้งเกิดอุบัติเหตุรถถูกชนจนต้องพลาดการได้เห็นธงชาติไทยบน โพเดียมฟอร์มูลาวันทั้งสองครั้ง อย่างไรก็ตาม ในสนามอื่นๆ นักขับที่เลือกใช้สัญชาติไทยลงแข่งในเวทีระดับโลกโชว์ฟอร์ม ยอดเยี่ยม มีคะแนนติดมือแทบจะทุกสนาม
กระทั่งกลางดึกวันที่ 13 ก.ย.ตามเวลาประเทศไทย ในการแข่งขันรถแข่งฟอร์มูลาวัน “เอฟวัน” สนามที่ 9 “ทัสคานี เฟอร์รารี 1000 กรังด์ปรีซ์” ที่สนามมูเจลโล่ เซอร์กิต ประเทศอิตาลี เด็กหนุ่มที่หลงใหล และรักในการแข่งขัน โดยพยายามพัฒนาฝีมือของตัวเองอย่างต่อเนื่องได้พิสูจน์ให้คนที่คลางแคลงใจในความได้เห็นว่าเขาคือ “ของจริง”
การแข่งขันในสนามที่ 9 อเล็กซ์โชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมตั้งแต่รอบควอลิฟาย หรือรอบการจัดอันดับเมื่อเป็นรองเพียง ลูอิส แฮมิลตัน และ วัลต์เตรี บอตทาส ของทีมเมอร์เซเดส รวมถึง แม็กซ์ เวอร์สตัปเปน เพื่อนร่วมทีมเท่านั้น ทำให้ได้ออกสตาร์ตในกริดที่ 4
รอบการแข่งขันจริง อัลบอนยังรักษามาตรฐานของตัวเองด้วยการเกาะกลุ่มผู้นำตลอดการแข่งขัน แม้ว่าในสนามจะต้องมีการหยุดแข่งถึง 2 ครั้ง แต่ด้วยความมุ่งมั่นและจิตใจที่แข็งแกร่ง สุดท้าย อเล็กซานเดอร์ อัลบอน อังศุสิงห์ ควบรถคู่ใจหมายเลข 23 เข้าเส้นชัยผ่านธงตาหมากรุกเป็นอันดับ 3 สร้างสถิติใหม่ให้กับนักแข่งชาวไทยในฟอร์มูลาวัน ด้วยการพาธงชาติไทยไปอวดโฉมบนโพเดียมเป็นคนแรก
หลายคนคงทราบดีว่าก่อนหน้านี้นักแข่งชาวไทยคนแรก ที่เข้าร่วมแข่งในฟอร์มูลาวันคือ “พระองค์เจ้าพีระ” พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพีรพงศ์ภาณุเดช และทำผลงานได้ดีที่สุด คือการคว้าอันดับ 4 ในเฟรนช์ กรังด์ปรีซ์ เมื่อปี 1954 หรือกว่า 66 ปีก่อน
นักแข่งสัญชาติไทยวัย 24 ปี กล่าวหลังจากขึ้นโพเดียมในฟอร์มูลาวันครั้งแรกในชีวิต
“มันเป็นอะไรที่พิเศษมากกับการที่ได้เห็นธงชาติไทยปรากฏบนโพเดียม และแน่นอนรวมถึงการเป็นนักแข่งคนแรกที่ได้ขึ้น โพเดียมด้วย ผมภูมิใจที่ได้สะบัดธงชาติเพื่อทุกคนในประเทศไทยที่คอยให้กำลังใจและสนับสนุนผมมาตลอด ช่างเป็นวันอาทิตย์ที่ยอดเยี่ยม และเป็นวันที่ดีมากจริงๆ ทันทีที่ผมเข้าเส้นชัย สิ่งแรกที่ผมคิดถึงคือครอบครัวของผม มันเป็นปีที่ยากลำบากมาก และครอบครัวอยู่เคียงข้างผมและผ่านมันมาด้วยกัน ดังนั้น มันชัดเจนว่าพวกเขาคือคนแรกที่ผมนึกถึงเสมอ”
“ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าความสำเร็จของผมในครั้งนี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักกีฬาคนอื่นๆ ในการก้าวสู่การเป็นนักแข่ง หรือการทำงานเกี่ยวกับกีฬาแข่งรถ ผมอยากเห็นคนไทยประสบความสำเร็จในระดับสูง ไม่ใช่แค่เรื่องของการเป็นนักขับ แต่ยังรวมถึงการเป็นช่างเครื่องยนต์ วิศวกร ผู้ฝึกสอน ผมประหลาดใจมากที่ได้เห็นคนไทย หรือคนเอเชีย ให้ความสนใจและการมีส่วนร่วมกับวงการมอเตอร์สปอร์ต”
“สนามนี้ไม่ใช่การแข่งขันที่ง่าย เราพยายามสู้อย่างหนัก ทำทุกอย่างเพื่อจะคว้ามันมาให้ได้ ผมมีความสุขอย่างล้นเหลือ และต้องขอบคุณทีมงานอย่างมากที่คอยสนับสนุนผมตั้งแต่วันแรก ผมรู้สึกได้ถึงการสนับสนุนนั้น มันเป็นเรื่องยอดเยี่ยมมากที่สามารถให้ของขวัญเพื่อให้พวกเขาได้เฉลิมฉลอง”
สำหรับฟอร์มูลาวันประกาศสนามแข่งออกมาอย่างเป็นทางการแล้วว่าปีนี้จะแข่งทั้งหมด 17 สนาม นั่นหมายความว่ายังเหลืออีก 8 สนามให้ อเล็กซานเดอร์ อัลบอน ได้แสดงศักยภาพให้คนทั้งโลกได้ประจักษ์ว่าคนไทยนั้นมีความสามารถไม่ยิ่งหย่อนกว่าชนชาติใด แม้ว่าการไล่ผู้นำอย่าง ลูอิส แฮมิลตัน ที่เก็บไปแล้วถึง 190 คะแนนคงเป็นเรื่องยากในปีนี้ เพราะความห่างถึง 117 คะแนนคงเป็นไปไม่ได้ที่จะไล่ได้ทัน
จากผลงานที่ทำให้เห็นมาตลอด ถึงตอนนี้คงไม่มีใครกล้าประเมินความสามารถของอเล็กซานเดอร์ อัลบอน อังศุสิงห์ เอาไว้ต่ำอีกต่อไป
