ทำความรู้จัก “คอสตาริกา” ประเทศไร้กองกำลังทหาร ติดอันดับคุณภาพและประชากรอายุยืนที่สุดในโลก
เป็นกระแสฮือฮาเมื่อเวทีปราศรัยของชาวบ้านอำเภอบางกล่ำ จังหวัดสงขลา ที่ได้ออกมาใส่เสื้อสีเหลือง ชุมนุมปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดี และสำนึกถึงบุญคุณ โดยทางผู้ชุมนุมได้นำธงชาติของประเทศคอสตาริกามาเป็นส่วนหนึ่งฉากหลังบนเวทีปราศรัยด้วย วันนี้ทางข่าวสดได้นำเกร็ดเล็ก เกร็ดน้อย รู้ไว้ใช่ว่า ของประเทศคอสตาริกามาฝากกันค่ะ
สาธารณรัฐคอสตาริกา ตั้งอยู่ในภูมิภาคอเมริกากลาง และยังเป็นตัวอย่างของหลายๆประเทศเรื่องการมีเสถียรภาพทางการเมือง จนได้ขนานนามว่า “สวิตเซอร์แลนด์แห่งอเมริกากลาง” ของขึ้นชื่อของที่นี่คือเมล็ดกาแฟชั้นยอด รายได้หลักมาจากการเกษตรและการท่องเที่ยว คอสตาริกาเป็นประเทศที่มีขนาดเล็กกว่าไทยถึง 10 เท่า และมีประชากรเพียง 5 ล้านคนเท่านั้น
“คอสตาริกา” ประเทศไร้กองกำลังทหาร
คอสตาริกาไม่มีกองกำลังทหารมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1949 หรือเมื่อประมาณ 72 ปีก่อน คอสตาริกาเคยเป็นอาณานิคมของสเปน ซึ่งในยุคนั้นเป็นได้แค่เมืองผ่าน ไม่มีจุดเด่นด้านการเมือง และในช่วงสงครามเย็นที่ประเทศรอบข้างต่างให้ความสนใจเรื่องการพัฒนากองกำลัง อำนาจ และความคิดทางการเมือง แต่ก็ยังเต็มไปด้วยปัญหาต่างๆ เช่น ความยากจน ความขัดแย้ง และคอร์รัปชั่น โดยคอสตาริกามีหน่วยงานรักษาความปลอดภัยเพียง 10,000 คนเท่านั้นจากประชากร 5 ล้านคน
แต่ทว่า ประธานาธิบดีโอสการ์ อาเรียส ได้มองว่าคอสตาริกานั้นเป็นเพียงแค่ประเทศเล็กๆ ซึ่งมีงบและทรัพยากรไม่มาก เขาจึงนำงบประมาณมาพัฒนาในด้านอื่นๆเช่น สิ่งแวดล้อม การท่องเที่ยว สาธารณสุข และการศึกษา เขามีความเชื่อว่าประเทศจะดำเนินต่อไปได้ต้องอาศัยความสงบ และความเข้าใจ ซึ่งประธานาธิบดีโอสการ์ยังเคยได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพอีกด้วย
คอสตาริกาประเทศรักสงบ
คอสตาริกาเป็นที่แรกในแถบอเมริกากลางที่ประชากรมีความสุขและคุณภาพชีวิตดีติดอันดับโลก รัฐบาลให้การศึกษาฟรีถึงระดับมหาวิทยาลัย รวมไปถึงค่ารักษาพยาบาลและประกันสังคม โดยรัฐฯ ใช้งบประมาณกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ทั้งหมดกับการจัดการสวัสดิการสังคมให้กับชาวคอสตาริกา
จึงทำให้อัตราการเสียชีวิตของเด็กเล็กลดลงอย่างต่อเนื่อง คอสตาริกายังมีจุดเด่นเรื่องการศึกษา ยูนิเซฟได้ระบุว่าประชากรเด็กอายุ 15-24 ปีกว่า 99 เปอร์เซ็นต์สามารถอ่านออก เขียนได้ และประชากรชาวคอสตาริกาโดยเฉลี่ยแล้วมีอายุยืนถึง 82 ปี
คอสตาริกาได้พัฒนาวัฒนธรรมแห่งสันติภาพ โดยโรงเรียนในคอสตาริกาจะสอนให้เด็กรู้จักแก้ปัญหาโดยปราศจากความรุนแรง โดยคอสตาริกาพยายามที่จะสร้างสังคมที่ “ไม่ก้าวร้าวต่อคนจน” “ความเป็นปึกแผ่น” และ “ความรัก”
คอสตาริกาประเทศสีเขียว
ปี 2008 คอสตาริกาประสบปัญหาถัยแล้งอย่างหนักแต่ในปัจจุบันกลับได้การยอมรับจากทั่วโลกว่าเป็นประเทศที่ประสบความสำเร็จเรื่องการรักษาและปกป้องสิ่งแวดล้อม โดยในปี 2015 คอสตาริกาสามารถสร้างพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานหวุนเวียนได้ 100 เปอร์เซ็นต์ ติดต่อกันถึง 285 วัน นอกจากนี้ยังเป็นประเทศแรกที่เปลี่ยนแปลงการผลิตกาแฟให้เป็นอุตสาหกรรมที่ใช้คาร์บอนต่ำ
เรื่องสิ่งแวดล้อมได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของรัฐธรรมนูญมาตั้งแต่ปี 1994 ซึ่งเป็นการกระตุ้นในชาวคอสตาริการักษาและรู้ถึงสิทธิที่ตนเองจะได้รับจากสิ่งแวดล้อมตามระบบนิเวศ ทำให้คอสตาริกาเป็นประเทศที่มีผืนป่าสีเขียวและอุดมสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก รัฐบาลได้ออกนโยบายปลูกฝังคนในประเทศให้ปลูกต้นไม้มาตั้งแต่ปี 1984 ซึ่งในขณะนั้นพื้นที่ป่ามีแค่ 26 เปอร์เซ็นต์ จนกระทั่งวันนี้พื้นที่ป่ามีมากกว่าร้อยละ 52
คอสตาริกายังกำลังค้นคว้าพัฒนาพลาสติกที่ทำมาจากพืช โดยเฉพาะผลผลิตที่ส่งออกระดับต้นๆ เช่น กล้วย มาเป็นส่วนประกอบในการทำถุงพลาสติกรูปแบบใหม่ที่ย่อยสลายได้ภายใน 18 เดือน และยังทนทานกว่าพลาสติกที่เราใช้กันอยู่ถึง 5 เท่า
ขอขอบคุณที่มา innoversity.masci.or.th
