หลายคนคงจะเคยได้ยินประโยคที่ใคร ๆ พูดกันว่า “งานหนักไม่เคยฆ่าใคร” แต่ความจริงแล้วการทำงานหนักนี่แหละได้ปิดชีวิตคนมาหลายร้อยชีวิตแล้ว
“โรคคาโรชิ” คือการทำงานหนักจนเสียชีวิต โรคชนิดนี้ถือกำเนิดขึ้นหลังยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นยุคที่ผู้คนต่างต้องทำงานหนักเพื่อเป็นการฟื้นฟูชาติ และองค์กร ในปี 2559 เป็นครั้งแรกที่รัฐบาลญี่ปุ่นมีการรายงายว่า 20 เปอร์เซ็นต์บริษัทในญี่ปุ่นนั้น มีพนักงานทำงานล่วงเวลา หรือ โอที มากกว่า 80 ชั่วโมงต่อเดือน เป็นเหตุให้มีพนักงานฆ่าตัวตายหลายร้อยคนต่อปี เนื่องจากงานที่เยอะจนเกิดไป และสู้รับแรงกดดันไม่ไหว ซึ่งหลังจากเหตุการณ์นี้จึงเป็นการจุดประกายให้เจ้าของบริษัทมีความรับผิดชอบต่อชีวิตและความเป็นอยู่ของพนักงานมากยิ่งขึ้น
“โรคคาโรชิ” มีสาเหตุหลัก ๆ ด้วยกัน 2 ประการ คือ
1.เสียชีวิตเนื่องจากปัญหาสุขภาพ อาจมาจากการทำงานหนักเกินไป พักผ่อนไม่เพียงพอ ร่างกายขาดสารอาหาร จนทำให้ร่างกายต้านทานไม่ไหว เกิดภาวะหัวใจวายเฉียบพลัน
2.เสียชีวิตเพราะเครียด เนื่องจากงงานที่ทำอาจเยอะและเครียดเกินไป จนเกิดปัญหาร้ายแรงทางสุขภาพจิตตามมา เช่น กดดันตัวเองจนรู้สึกไร้คุณค่า ไร้ตัวตน คิดสั้นฆ่าตัวตายในที่สุด
“สัญญาณเตือนว่าคุณคือคนบ้างาน” ร่างกายจะเริ่มฟ้องด้วยอาการปวดเมื่อยตามตัว ปวดหลัง ปวดท้ายทอย ปวดไหล่ ปวดสายตา สายตาพร่ามัว ซึ่งคล้าย ๆ กับโรคออฟฟิศซินโดรม แต่อาการเหล่านี้จะนำมาซึ่งโรคร้ายแรงต่าง ๆ เช่น โรคหัวใจ โรคกระเพาะ เบาหวาน และความดัน ตามมาด้วยความผิดปกติทางอารมณ์ เช่น โมโหเพื่อนร่วมงาน ฉุนเฉียวบ่อย ความคิดผูกติดอยู่กับงาน จนทำให้เสียความสัมพันธ์กับคนรอบข้างไป
ซัมซุงได้ปิ๊งไอเดียสิ่งประดิษฐ์ที่คิดค้นมาสำหรับคนที่บ้างานโดยเฉพาะ เป็นแนวคิดที่เรียกว่า Work Life Balance เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้เราจัดการเรื่องงานได้อย่างสมดุล และเป็นระบบระเบียบมากยิ่งขึ้น
‘Samsung Balance Mouse’ เจ้าเมาส์วิ่งได้สุดน่ารักที่จะคอยวิ่งหนีมนุษย์บ้างานเมื่อถึงเวลาที่ตั้งเอาไว้ โดยเมาส์ชิ้นนี้เป็นการร่วมมือขอ Samsung กับเอเจนซี INNORED และสตูดิโอ BKID ที่ตั้งใจจะทำขึ้นเพื่อแก้ปัญหาความหมกมุ่นการบ้างานของเหล่าพนักงานออฟฟิศในยุคปัจจุบันนั่นเอง
อีกสิ่งประดิษฐ์ที่น่าจับตามองก็คือ “Balance Clock” นาฬิกาดีไซน์เรียบง่ายทันสมัย โดยเจ้านาฬิกาเรือนนี้นอกจากบอกเวลาแล้ว ยังทำหน้าที่เป็นเหมือนป้ายแสดงว่าเรากำลังยุ่งอยู่ เพียงแค่เราคว่ำหน้าปัดนาฬิกาลง มันก็จะเปลี่ยนเป็นไซเรนที่มีไฟกระพริบเหมือนเป็นการส่งข้อความประมาณว่า “หยุดมาสุงสิงหรือให้งานฉันเพิ่มได้แล้วนะ”
ขอขอบคุณที่มา bkid.co cigna.co.th
