Education First ได้เผยดัชนีการจัดอันดับทักษะด้าน ภาษาอังกฤษ จากกลุ่มประเทศที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักหรือภาษาราชการ หรือ EF English Proficiency Index ประจำปี 2020
โดยพบว่าปีนี้ ทักษะความสามารถด้านภาษาอังกฤษของคนไทยร่วงต่อเนื่องเป็นปีที่สี่ติดต่อกัน อยู่ในอันดับที่ 89 จากทั้งหมด 100 ประเทศ และอยู่ในอันดับที่ 20 จาก 24 ประเทศในเอเชีย ซึ่งไทยได้ผลคะแนนรวม 48.54 ซึ่งจัดว่าอยู่ใน ‘ระดับต่ำมาก’ (very low proficiency)
‘ความสามารถต่ำ’ คือ กลุ่มประเทศที่ผู้คนสามารถใช้ภาษาอังกฤษได้แค่การแนะนำชื่อ อายุ ประเทศเกิดของตนเอง รวมไปถึงเข้าใจป้ายที่บอกข้อมูลภาษาอังกฤษง่ายๆ และสามารถบอกทางให้นักท่องเที่ยวในระดับง่ายที่สุด หากนำไปเปรียบเทียบกับประเทศที่มี ‘ความสามารถสูง’ กลุ่มคนในประเทศเหล่านี้ สามารถนำเสนอชิ้นงานเป็นภาษาอังกฤษในที่ทำงานได้ รวมไปถึงสามารถเข้าใจรายการโทรทัศน์หรืออ่านหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษได้
หากย้อนไปในปี 2019 ทักษะความสามารถด้านภาษาอังกฤษของคนไทยอยู่ในอันดับที่ 74 จากทั้งหมด 100 ประเทศ ด้วยคะแนน 47.62 ขณะที่ปี 2018 อยู่ในอันดับ ที่ 64 จากทั้งหมด 88 ประเทศ ด้วยคะแนน 48.54 และขณะที่ปี 2017 อยู่ในอันดับ 53 จากทั้งหมด 80 ประเทศด้วยคะแนน 49.7 ดัชนีพบว่าผู้ชายไทยได้คะแนนสูงกว่าผู้หญิงเล็กน้อยโดยมีคะแนน 48.68 และ 47.59 ตามลำดับ แต่ยังคงต่ำกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ 53.03 สำหรับผู้ชาย และ 53.23 สำหรับผู้หญิง
เมื่อเปรียบเทียบไทยกับประเทศเพื่อนบ้านแล้ว พบว่า ไทยอยู่ในตำแหน่งรั้งท้าย รองจากเมียนมาร์ซึ่งอยู่ในอันดับที่ 93 จาก 100 ประเทศทั่วโลกเท่านั้น ขณะที่ประเทศกัมพูชาอยู่ในอันดับที่ 84 หรือระดับต่ำมากเช่นเดียวกับไทย โดยในบรรดาประเทศอาเซียนพบว่า สิงคโปร์เป็นอันดับหนึ่งของชาติในอาเซียนที่มีทักษะภาษาอังกฤษในระดับสูงมาก และถูกจัดเป็นอันดับ 10 ของโลก ตามด้วยฟิลิปปินส์ อยู่ในกลุ่มประเทศเชี่ยวชาญภาษาอังกฤษระดับสูง ตามมาด้วยมาเลเซียที่อยู่ในระดับกลาง
การจัดดัชนีความสามารถทางภาษาอังกฤษผ่านเว็บไซต์ www.ef.com ถูกจัดขึ้นทุกปี ซึ่งจะใช้อาสาสมัครวัยผู้ใหญ่ของแต่ละประเทศทั่วโลก เข้ามาทำแบบทดสอบการวัดระดับการใช้ภาษาอังกฤษ 2 ชุด มีแบบทดสอบความสามารถภาษาอังกฤษ ทั้งความสามารถทางไวยกรณ์ คำศัพท์ การอ่าน การฟัง
ที่มา : ef
