ขายสินค้ามือสอง เจาะธุรกิจขายไงให้ปัง จาก “เจ๊ง” กลายเป็น “เจ๋ง” ผงาดโลกออนไลน์! ล้วงเทคนิคไลฟ์สดปิดการขายเพียงเสี้ยววินาที!

เปิดใจสองสามีภรรยา คุณป๋อง-ณัฐศักดิ​ พึ่งธรรมจิตต์ และ คุณก้อย-จันทราทิพย์​ พึ่งธรรมจิตต์ อดีตพ่อค้าแม่ค้าตลาดนัดขายเสื้อผ้า เจอวิกฤตน้ำท่วมกรุงเทพฯ เจ๊ง ฮึดสู้! ผันตัวมาขายสินค้าแบรนด์เนมมือสองออนไลน์ ไลฟ์สด โดนใจ ออร์เดอร์รัว จนกลายเป็นเศรษฐี พร้อมแนะทริคไม่ยาก “แค่เปลี่ยนมายด์เซ็ต”

จากอดีตเคยพัง ปัจจุบันปังสุด

“เมื่อก่อนผมเชื่อเรื่องดวง เดี๋ยวดวงจะดีปีนู้น ปีนี้ปีนั้น รอไป มันไม่ดีสักที แต่ผมมาเปลี่ยนมายด์เซ็ต จากไม่มีเงินติดลบ กลับมีเงินราวปาฏิหาริย์”

ข่าวสดไลฟ์สไตล์ จะพามาล้วงลึกชีวิตของพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ สองสามีภรรยาคู่ทุกข์คู่ยาก ที่ขายสินค้าแบรนด์เนมจนร่ำรวย แต่กว่าพวกเขาจะประสบความสำเร็จได้จนถึงทุกวันนี้นั้น ก็ผ่านความล้มเหลวมามากเช่นกัน

น้ำท่วมกรุง ทำชีวิตพัง

ก่อนหน้านี้ผมกับก้อยขายเสื้อผ้าอยู่ตลาดนัด ณ เวลานั้นมันขายไม่ได้ เพราะน้ำท่วมกรุง ไปตรงไหนก็น้ำท่วม ขายของแล้วเจอค่าเช่าที่ไปหมด ตอนนั้นก็ขายทีละอย่าง ขายบ้าน เอาบ้านเข้าธนาคาร

เราลำบากกันมาก จนแบบเหลือเงินติดบ้านอยู่ 5,000 บาท ค่าเทอมไม่มีจ่ายให้ลูก เราไม่มีจ่าย เป็นหนี้เป็นสิน เราจะไปต่อ เราต้องมานั่งคิดแล้วว่าจะไปต่อยังไง เราต้องประหยัด จะซื้อของเล่นให้ลูกสักอันร้อยกว่าบาท เราก็ต้องคิดว่าระหว่างของเล่นกับซื้อกับข้าวมื้อต่อไปเราเลือกอะไร


แต่มันไม่เจ็บปวดเท่าที่แบบว่า ทองที่ซื้อให้แฟน ต้องเอาไปจำนำ ในวันนั้นมันเจ็บปวดสุดๆ เลย มันเหมือนศักดิ์ศรีทุกอย่าง เราขับรถออกมาจากโรงรับจำนำ น้ำตาผมไหลพราก คือเราซื้อให้เขาแล้วเราก็ต้องเอาไปจำ ก็คิดแค่ว่าต้องเอากลับมาให้ได้สักวัน

 


วันนั้นผมก็ขับรถน้ำตาไหล ก้อยก็ถามเป็นอะไรๆ มันเจ็บใจ เราสู้ขนาดนี้แล้ว เราเอาของที่รักไปให้เขาเราก็ต้องเอาไปจำนำ พูดคำเดียวต้องเอาทุกอย่างกลับมาให้ได้ พูดกับลูกพูดกับเมีย”

นี่คือปณิธานที่ผู้นำครอบครัวตั้งไว้ในใจ ว่าลูกกับเมียต้องมีชีวิตที่สบายกว่านี้

 

หนีน้ำมาพัทยา จุดเริ่มต้นขายออนไลน์

 

ย้อนไปเมื่อปี 2554 น้ำท่วมกรุงวิกฤตหนัก ทำให้พวกเขาต้องย้ายมาอยู่ที่พัทยา เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่

“ตอนนั้นมีทุนที่จะไปลงของออนไลน์ 5,000 บาท แต่ว่า มันก็ไม่พอหรอก เราก็สะเทือนใจนะ ไม่รู้จะไปทางไหน ก็ต้องไปยืมแม่ คือแม่ได้เงินคนชรา เรามีสองมือสองเท้า ยังหนุ่มยังแน่นแท้ๆ แต่เรายังต้องไปเบียดเบียนเงินคนชราที่เขาได้มา

เราก็บอกว่า เงินมันก็ศักดิ์สิทธิ์ เงินก้อนนั้นมันศักดิ์สิทธิ์ครับ ก็บอกเขาว่า จะไปต่อยอดให้ได้ จะทำมันให้ได้ เราก็ไปเลย ดิ่งไปซื้อของ ซื้อรองเท้า ขายรองเท้าก่อน ไลฟ์สด รองเท้ามือสอง

ขายวันแรกได้ 20 คู่ ดีใจมาก ก็ขายดีมาเรื่อยๆ มันเหมือนมาถูกทางมาแล้ว คือมันไม่ได้ขายแค่วันแรก 20 คู่ มันกลายเป็น 200 300 500 คู่ต่อวัน”

จากไม่มีเงินติดลบ ชีวิตพลิกเลย พร้อมกับมองหาโอกาสในการขายเพิ่ม

“ขายรองเท้าก็ได้เยอะมากๆ แต่ผมเป็นคนมองโอกาส มองการณ์ไกล มองเห็นสิ่งข้างหน้า วันนี้เราขาย แน่นอน รองเท้าทุกคนสามารถไปซื้อได้จากร้านขายของ ขายส่ง ทุกคนสามารถซื้อได้เหมือนกัน หาวัตถุดิบได้ง่ายเหมือนกัน แต่ผมคิดว่า ผมหาอะไรที่มันหาได้ยากกว่านี้

ผมเลยคิดว่าขายกระเป๋า หาของยากดี แต่ถ้าเราทำได้ก็คือความได้เปรียบ ก็เลยเป็นที่มาของการมาเปลี่ยนมาขายกระเป๋า”

 

ไลฟ์ต้องสนุก จบการขายไว!

หลังจากเปลี่ยนจากการขายรองเท้า มาเป็นกระเป๋าแบรนด์เนมมือสอง ชีวิตก็ปังขึ้นเรื่อยๆ ออรแดอร์รัว ลูกค้าตั้งหน้าตั้งตาดูไลฟ์สด

“เราต้องไม่เครียด สนุกสนานไปกับลูกค้า สร้างความบันเทิง ความรื่นเริงให้กับลูกค้า และนี่คือเทคนิคการขาย เราขายสินค้าไม่ได้ขายอันละ 200-300 เราขายระดับอันละ 2,000-3,000 การที่เราสนุกสนานเฮฮา มันทำให้ลูกค้าลืมว่าสินค้าเรา ราคา 2,000-3,000 บาทอันนี้คือจุดขายของเรา”

เขาย้ำว่า สามารถปิดการขายสินค้าแต่ละชิ้น ได้เพียงเสี้ยววินาที!

“ลูกค้าจะติดว่า ต้องให้ไลฟ์คู่กัน มันจะสนุก พูดแหย่กันไปก็แหย่กันมา บางทีก็ด่ากันมั่ง ด่ากันเป็นเรื่องปกติ ลูกค้าก็ชอบ ดูเป็นธรรมชาติ ดูแล้วไม่เครียด บางคนเขาไม่ได้มาซื้อของ เขาต้องการมานั่งดูเราคลายเครียดก็มี

การที่เราจะยืนหยัดตลอดระยะเวลาอันยาวนาน แน่นอนเราต้องมีจุดขายของเราที่ทำให้คนสนใจ และคุณภาพของสินค้า คุณภาพเราต้องดี ถ้าเรามีของปลอม เรารับผิดชอบทันทีโดยการโอนเงินคืนทุกบาททุกสตางค์เลย “

สำหรับใครที่มองว่าการจะเดินเข้ามาทำธุรกิจแบรนด์เนมมือสองนั้น ได้เงินง่ายๆ คุณคิดผิด!

“มันยากตั้งแต่การหาวัตถุดิบแล้ว ได้วัตถุดิบมา วัตถุดิบไม่ตรงกับที่เราต้องการ ไหนจะเสีย ของเสีย ของพัง ของซ่อม เราไม่มีวิธีบริหารจัดการตรงนี้มีแต่ปิดประตูขาดทุนเลย”

 

แค่เปลี่ยนความคิด ชีวิตปังปาฏิหาริย์!

สิ่งสำคัญที่ทำให้ทั้งคู่ประสบความสำเร็จในการขายสินค้ามือสองถึงทุกวันนี้ได้นั้น คุณเป๋ากับคุณก้อย เชื่อว่า เป็นเพราะการเปลี่ยนมายด์เซ็ต กลายเป็นผู้ให้ ช่วยเหลือผู้ที่ลำบากกว่า นับว่าเป็นบุญกุศลต่อยอดให้ชีวิตปังขึ้น

“ตอนที่เราสองคนลำบาก ผมกับภรรยาคิดกันว่า ถ้าวันนึงเรามี เราขอเป็นผู้ให้ ช่วยเหลือคนที่เขาลำบากกว่าเรา เพราะเรารู้มันเป็นยังไง ความลำบากเป็นยังไง

ขายมาได้เราก็ทำบุญ ก็เลยติดนิสัยมา 4-5 ปีแล้ว เรายิ่งทำ เรายิ่งให้ มีโอกาส ทำบุญเท่าไหร่ ความโชคดี มันเริ่มเข้ามาๆ จนทุกวันนี้ ทวีคูณมากขึ้นๆ

เราได้รับแบบมันมาเหมือนปาฏิหาริย์ ดังนั้นทำให้ผมเปลี่ยนความคิดไปเลย ว่า “ยิ่งให้ เรายิ่งได้”

เมื่อก่อนผมเชื่อเรื่องดวง เดี๋ยวดวงจะดีปีนู้น ปีนี้ปีนั้น เดี๋ยวรอดูมี รอไป มันไม่ดีสักที แต่ผมมาเปลี่ยนมายด์เซ็ต ผมเปลี่ยนความเชื่อ เปลี่ยนเป้าหมายตัวเอง อยากจะเป็นผู้ให้ พอคิดแบบนี้ทุกอย่างเปลี่ยนหมด มาทุกอย่าง คิดอะไรก็สมความปรารถนา ขายอะไรก็ได้ ขายอะไรก็ดี”

 

คู่ชีวิต ไม่ทิ้งกัน

“คือเขาก็เป็นคนหน้าตาดี ในตอนที่ลำบากเขาสามารุทิ้งผมไปได้เลยนะ แต่เขาไม่ทิ้ง เขาอยู่กับผม ผมก็รู้สึกโชคดี ที่เขาไม่ทิ้งผมในตอนที่ลำบาก” คุณป๋อง กล่าวพร้อมน้ำตา

สุดท้ายชีวิตคู่นั้นสิ่งสำคัญคือการอยู่เคียงข้างกันในยามทุกข์ ไม่ทิ้งกัน เยียวยาจิตใจกัน ทำให้พวกเขามีทุกวันนี้นั่นเอง

“คือก้อยคบเขาก็ไม่ได้มองภายนอกเลย มองที่นิสัย และความรับผิดชอบของเขา คือเขามีความรับผิดชอบมาก รักลูกมาก และเขาให้เราได้ทุกอย่าง คือเขาตายแทนเราได้เลย” ภรรยาคู่ทุกข์คู่ยาก กล่าวปิดท้าย

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน