ภาพถ่ายที่มีชื่อว่า “Caught by Cats” ได้รับรางวัลชนะเลิศในหมวดหมู่มนุษย์ และธรรมชาติของ BigPicture Natural World Photography Competitionในปี 2020 ภาพแสดงในเห็นถึงความน่ากลัวของแมว และหากคำนวณด้วยจำนวนแมวบนโลกเราจะเห็นจำนวนของสัตว์หลายพันล้านตัวที่ถูกฆ่าในแต่ละปี

จากการศึกษา พบว่าแมวบ้านที่ถูกเลี้ยง หรือถูกปล่อยอย่างอิสระ สามารถฆ่านก และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอื่นๆ ได้มากถึง 2.23 หมื่นล้านตัวทุกปี ซึ่งนี่เป็นเพียงจำนวนในสหรัฐอเมริกาเพียงเท่านั้น โดยส่วนใหญ่เกิดการล่าจากแมวจรจัดเป็นอันดับหนึ่ง และแมวบ้านเป็นอันดับที่สอง ตัวเลขที่ถูกเผยแพร่แสดงให้เห็นถึงจำนวนสัตว์ที่ถูกล่าโดยแมว แต่อย่างไรก็ไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่แน่ชัดที่จะเชื่อมโยงการล่าของแมว กับการลดลงของประชากรนก

แรงบันดาลใจในการถ่ายภาพของเขามาจากผลงานของ WildCare โรงพยาบาลสัตว์ป่าที่ไม่แสวงหาผลกำไร ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองซานราฟาเอล รัฐแคลิฟอร์เนีย จากสัตว์ 321 ตัวที่ได้รับบาดเจ็บจากแมว และถูกนำตัวส่งศูนย์ในปี 2019 มีเพียง 89 ตัวเท่านั้นที่รอดชีวิต ส่วนอีกที่เหลือได้ตายลง พวกมันจะถูกนำไปแช่แข็งเอาไว้ ก่อนที่จะเอาออกมาบันทึกภาพ

เมลานี เพียซซา ผู้อำนวยการฝ่ายดูแลสัตว์ที่ WildCare ได้ทำงานด้านฟื้นฟูสัตว์ป่ามากว่า 20 ปี โดยรักษาเหล่าแมวจรจัดที่ได้รับบาดเจ็บและสัตว์ป่าอื่น ๆ ตลอดอาชีพการงานของเธอ “เราไม่ได้มีเจตนาที่จะทำให้ตกใจ หรือหวาดกลัว เราเราต้องการนำเสนอสัตว์ด้วยความเคารพมากที่สุด และดึงดูดความสนใจของผู้คนด้วยความงามของพวกมัน” เพียซซากล่าว

แมวมีส่วนในการสูญพันธ์ของสัตว์ถึง 63 สายพันธุ์ และส่วนใหญ่คือนก ปีเตอร์ มาร์รา ผู้อำนวยการของฝ่ายสิ่งแวดล้อมเมืองกล่าว “เป็นความจริงที่แมวมีส่วนทำให้สัตว์พวกนี้สูญพันธุ์ซึ่งมันก็แย่พอสมควร ทั้งยังส่งผลกระทบอย่างมากต่อประชากรของสัตว์เล็กทั่วโลก” เขากล่าว

ทั้งมาร์รา ยังเคยเป็นผู้อำนวยการศูนย์นกอพยพ และเป็นผู้เขียน Cat Wars ที่มีเนื้อหาให้ความรู้ว่าทำไมแมวถึงเป็นอันตรายต่อความหลากหลายของสายพันธุ์สัตว์ต่างๆ ซึ่งหนังสือวางขายในปี 2559 แต่จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับแมวจรจัดมากนัก มีเพียงการรับรู้ และเข้าใจปัญหามากขึ้นเท่านั้น

หลายคนได้โต้แย้งว่าแมวเป็นสัตว์นักล่าตามธรรมชาติและควรได้รับอนุญาตให้เที่ยวเตร่และฆ่าเหยื่อได้ตามต้องการ แต่สำหรับเพียซซานั้นเธอมองว่าการล่าของแมวไม่ถูกต้อง เนื่องจากในธรรมชาตินักล่าจะล่าเหยื่อเฉพาะตอนหิวเท่านั้น และเมื่อนักล่าหยุดพักนั้นจะทำให้เหยื่อของมันเพิ่มขึ้น แต่แมวได้เข้ามารบกวนวงจรดังกล่าว เพราะแมวเป็นสัตว์ที่ล่าเพื่อความสนุก ทำให้มันฆ่าสัตว์ขนาดเล็กเป็นจำนวนมาก

“ในพื้นที่เดียวกัน แมวที่ได้รับการเลี้ยงดูโดยมนุษย์ พวกมันไม่จำเป็นต้องล่าเหยื่อเพื่อความอยู่รอด” เพียซซากล่าว แมวพวกนี้ล่าอย่างต่อเนื่อง และไม่มีอะไรรบกวนประชากรของพวกมัน ดังนั้นการล่าของแมวจะไม่ให้เวลากับแก่ประชากรสัตว์ป่าในท้องถิ่นในการฟื้นตัว เหมือนกับนักล่าตามธรรมชาติ”

ปัญหาของแมวจรจัดยังเป็นที่ถกเถียงกันในวงกว้างเธอกล่าวว่าโครงการนี้ไม่ได้ต้องการจะสร้างความขัดแย้งกับคนรักสัตว์ โครงการนี้มีเป้าหมาย เพื่อแนะนำให้ประชาชนมีความเข้าใจถึงความเหมาะสมที่จะเลี้ยงแมวในระบบปิด ไม่เพียงโครงการนี้จะเป็นการป้องกันสัตว์เล็กจากการโดนล่า แต่จะเป็นการปกป้องแมวเหล่านี้ให้มีสุขภาพที่ดี และปกป้องแมวจากอุบัติเหตุ และสัตว์นักล่าที่มีขนาดใหญ่กว่า เช่น สุนัข งู หรือนกอินทรีย์

ที่มา : nationalgeographic

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน