หนุ่มหัวเสีย ลูกจ้างสาวทำป่วน อ้างติดโควิด ต้องปิดร้านวุ่นวาย สุดท้ายเฉลยว่าโกหก ทำไปเพราะอยากออกจากงาน!

มีหลายเหตุผลที่จะใช้เป็นข้ออ้างในการลาออกจากงาน ตราบใดที่มันสมเหตุสมผล ทางบริษัทจะอนุมัติตามปกติ แต่สำหรับสาววัย 19 ปีคนนี้ ที่คิดข้ออ้างการลาออกแบบไม่ปกติ จนทำให้คนอื่นเดือดร้อนหนัก เพราะดันอ้างว่า ติดโควิด!

หนุ่มเจ้าของร้านคาเฟ่ในรัฐยะโฮร์ มาเลเซีย ได้โพสต์เฟซบุ๊กเล่าประสบการณ์ที่เจอกับลูกจ้างสุดแย่ว่า ที่ผ่านมาทางร้านต้องดำเนินธุรกิจไปอย่างยากลำบาก ทั้งกังวลว่ารัฐจะสั่งล็อกดาวน์ประเทศตอนใด พนักงานหรือลูกค้าจะติดเชื้อหรือไม่ ซ้ำยังต้องมาเดือดร้อนหนัก เพราะการเล่นตลกของคนบางคน

วันที่ 6 เม.ย. เขาได้รับข้อความจากพนักงานคนหนึ่งว่า ได้ทำตรวจโควิดซึ่งผลออกมาเป็นบวก พร้อมกับแนบผลการทดสอบ เมื่อเห็นดังนั้นเขาจึงสั่งให้พนักงานในร้านทุกคน เข้ารับการตรวจโควิดทันที โชคดีที่ผลออกมาเป็นลบ แต่อย่างไรก็ตาม เขาต้องประกาศปิดร้านเพื่อทำความสะอาด และแจ้งให้ลูกค้าที่มาใช้บริการทราบ

ต่อมาเขาฉุกคิดได้ว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง วันที่ในใบรายงานผลตรวจคือวันที่ 4 เม.ย. แต่วันที่เธอแจ้งว่าติดโควิดเป็นวันที่ 6 เม.ย. ซึ่งปกติแล้วการตรวจแบบ RTK (Rapid test Antigen) การเก็บตัวอย่างไปตรวจ สามารถทราบผลได้ในวันเดียวกัน หรือไม่กี่นาทีหลังตรวจเท่านั้น แต่ของเธอล่าช้าไป 2 วัน เขาจึงส่งข้อความไปถามทันที และสิ่งที่เธอตอบกลับมามันทำให้เขาช็อกหนัก

พนักงานสาวสารภาพว่า โกหกเรื่องผลตรวจ เพราะเธอรู้สึกว่างานที่ทำอยู่มันไม่เหมาะกับเธอ และอ้างว่าเพื่อนร่วมงานไม่ชอบสวมหน้ากากอนามัย เธอจึงรู้สึกอึดอัดและอยากลาออก แต่ไม่รู้จะใช้เหตุอะไรมาอ้าง อีกทั้งยังกังวลว่าทางบริษัทจะไม่อนุญาตให้เธอลาออก จึงขอให้เพื่อนช่วยตัดต่อผลการตรวจเชื้อโควิดให้

ในขณะที่ทุกคนกำลังดิ้นรน เศรษฐกิจก็ยังไม่ฟื้นตัว เขาแทบไม่อยากเชื่อเลยว่า พนักงานสาวจะกล้าโกหกเรื่องนี้ได้ แถมมันส่งผลกระทบต่อร้านมากมาย ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจแจ้งตำรวจ พร้อมทั้งโทรหาพ่อแม่ของเธอ เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง ซึ่งพ่อแม่ของเธอต่างไม่มีท่าทีสำนึก พวกเขาไม่คิดว่าลูกสาวตนทำอะไรผิดด้วยซ้ำ

โพสต์ของเขากลายเป็นไวรัล มีชาวเน็ตออกมาโจมตีพนักงานสาวมากมาย “ไวรัสไม่ได้โจมตีปอดของเธอ แต่เป็นสมองของเธอ”, “ตราบใดที่ต้องปิดร้านฆ่าเชื้อโรค ลูกค้าจะคิดว่ามีคนติดเชื้อและไม่กล้าไปร้านอีกต่อไป ไม่ว่าคุณจะอธิบายแค่ไหน แต่จะไม่มีใครเชื่อ มันจึงส่งผลกระทบต่อธุรกิจมาก ๆ “, “อย่าถอนแจ้งความนะ คนประเภทนี้ต้องได้รับบทเรียนจริง ๆ “

ต่อมาเขาได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งเขาไม่ได้หวังให้เรื่องดังแต่อย่างใด เพียงแค่ต้องการเตือนเยาวชนและประชาชนทั่วไปว่า ไม่ควรเพิกเฉยหรือยอมรับพฤติกรรมเช่นนี้ อีกทั้งหากพนักงานของเขาไม่สวมหน้ากากอนามัยจริง ลูกค้าคงร้องเรียนร้านนานแล้ว พร้อมทั้งแนะนำนายจ้างคนอื่นว่า หากได้รับผลตรวจโควิดของพนักงาน ก็ควรตรวจสอบความถูกต้องก่อน จะได้ไม่เกิดเหตุเช่นเดียวกับเขาอีก

ขอบคุณที่มา redchili21

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน