จากการจัดลำดับของ Forbes ทำให้ เควิน เดวิด เลห์มันน์ วัย 18 ปี กลายเป็นมหาเศรษฐีที่มีอายุน้อยที่สุดในโลกคนปัจจุบัน เขามีทรัพย์สินรวมกว่า 3.3 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1 แสนล้านบาท
เควิน เดวิด เลห์มันน์ นั้นได้ขึ้นมาเป็นมหาเศรษฐีที่มีอายุน้อยที่สุดในโลก เพราะว่าเขาได้รับ ‘มรดก’ จาก กันเธอร์ เลห์มันน์ พ่อของเขาที่ได้โอนหุ้นของกิจการร้านยา Dm-drogerie markt กว่า 50% ให้เขาตั้งแต่เมื่อปี 2017 หรือตอนที่เขายังมีอายุเพียง 14 ปีเท่านั้น ทำให้ทรัพย์สินในขณะนั้นอยู่ในการดูแลของผู้ปกครอง ตามข้อกำหนดของกฎหมายทรัพย์สินและความมั่งคั่ง และทรัพย์สินดังกล่าวเพิ่งตกเป็นของเควินในเดือนกันยายนปี 2020 ที่ผ่านมา หลังจากครบรอบวันเกิดอายุ 18 ปีของเขาพอดี
Dm-drogerie markt นั้นเป็นเครือข่ายร้านขายยาชั้นนำในเยอรมนี ซึ่งก่อตั้งเมื่อปี 1974 ซึ่งในตอนนี้มีสาขามากกว่า 2,000 สาขาทั่วเยอรมันนี และมีพนักงานในความดูแลมากกว่า 41,000 คน และยังมีสาขาให้บริการในยุโรปกว่า 13 ประเทศ ทำให้มีรายได้ต่อปีอยู่ที่ 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์หรือประมาณ 3.77 แสนล้านบาทต่อปี
โดยตัวเลขความร่ำรวยของเควิน นั้นจะถูกคำนวณจากฐานมูลค่าบริษัทที่มีการประเมินว่า เครือข่ายร้านขายยา Dm-drogerie markt มีมูลค่ากิจการอยู่ที่ 6.6 พันล้านดอลลาร์ ดังนั้นเมื่อ เควินได้รับหุ้น 50% ของบริษัท จึงมีความมั่งคั่งอยู่ที่ 3.3 พันล้านดอลลาร์นั่นเอง อย่างไรก็ตามทาง Forbes ได้รายงานว่า กันเธอร์และเดวิดสองพ่อลูกที่ถือหุ้นเครือข่ายร้านขายยานี้ ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของบริษัทมากเท่าไหร่นัก และยังมีประวัติของทั้งสองปรากฎให้เห็นอยู่น้อยมาก
ทั้งนี้ในตอนแรกนั้นมหาเศรษฐีที่มีอายุน้อยที่สุดในโลกประจำปี 2020 นั้นตกเป็นของ ไคลี เจนเนอร์ เซเลบริตี้-นางแบบและแม่ค้าชาวอเมริกา ก่อนที่จะถูก Forbes ถอดออกจากรายชื่อ เนื่องจากพบว่ามีการตกแต่งเอกสารทางการเงิน และโกหกเรื่องยอดขายสินค้าจากแบนด์เครื่องสำอางของตนเอง
ส่วนมหาเศรษฐีอายุน้อยที่สุดในโลกลำดับที่ 2 นั้นตกเป็นของ หวาง ซีลอง หนุ่มชาวจีนวัย 24 มีทรัพย์สินมูลค่ากว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์และถือหุ้นในบริษัทที่ผลิตเม็ดสีไททาเนียมไดออกไซด์ที่สามารถใช้ในการเคลือบพลาสติก หมึก และวัสดุอื่น
ส่วนในลำดับที่ 3และ4 ตกเป็นของสองพี่น้อง อเล็กซานดรา และแคทารีน แอนเดรสเซน ชาวนอร์เวย์วัย 24 และ 25 ปี มีทรัพย์สินคนละ 1.4 พันล้านดอลลาร์ หลังได้รับมรกดกจาก Ferd บริษัทด้านการลงทุน ที่โยฮันพ่อของพวกเธอเป็นผู้ดำเนินธุรกิจอยู่
ที่มา : Forbes / Business Insider
