เตรียมร่างกาย ฟิตให้พร้อมก่อนรับวัคซีน ต้องกินยังไง ออกกำลังกายแบบไหนถึงดี?

เตรียมร่างกาย ก่อนฉีดวัคซีน- ขณะที่คนไทยกำลังเตรียมตัวเพื่อเข้ารับวัคซีนโควิด-19 ปัจจัยหนึ่งที่หลายคนอาจมองข้าม แต่มีส่วนช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพของวัคซีน โดยเฉพาะสำหรับผู้สูงอายุ คือ การมีโภชนาการที่ดี และการออกกำลังกาย มีเคล็ดลับง่ายๆ ในการสร้างลักษณะนิสัยที่ดีต่อสุขภาพ

1) โภชนาการที่ดี คือหนึ่งในหัวใจสำคัญของการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย การมีโภชนาการที่ดีและเหมาะสม เป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่จะช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง

ซึ่งสารอาหารที่ดีต่อสุขภาพ เช่น วิตามินซี สังกะสี วิตามินดี วิตามินเอ และ วิตามินอี จะช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกัน เพื่อรับมือกับความท้าทายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นไวรัสหรือการได้รับวัคซีนได้ดียิ่งขึ้น

และขณะที่เรามีอายุเพิ่มขึ้น ภาวะที่ร่างกายได้รับสารอาหาร หรือพลังงานในปริมาณที่ไม่เหมาะสม ยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่อาจส่งผลให้ภูมิต้านทานลดลง จึงควรหันมาใส่ใจด้านโภชนาการอย่างต่อเนื่องในทุกช่วงวัยของชีวิต

2) การออกกำลังกาย ช่วยส่งเสริมระบบการทำงานของภูมิคุ้มกันของร่างกาย การเคลื่อนไหวร่างกายทำให้สุขภาพดีขึ้น และส่งผลดีต่อระบบภูมิคุ้มกัน การออกกำลังอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้การตอบสนองต่อวัคซีนของผู้สูงอายุดีขึ้นอีกด้วย

 

นอกจากนี้ การออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องติดต่อกันเป็นช่วงระยะเวลาหนึ่ง อาจมีส่วนในการเพิ่มประสิทธิภาพของระบบภูมิคุ้มกัน ให้ตอบสนองต่อวัคซีนได้ดียิ่งขึ้น

3) ภาวะทุพโภชนาการ ส่งผลต่อการทำงานของร่างกาย และอาจมีผลกับการตอบสนองของภูมิคุ้มกันต่อวัคซีน

ภาวะทุพโภชนาการ คือภาวะที่ร่างกายไม่ได้รับสารอาหารที่เพียงพอต่อความต้องการ และสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งกับผู้ที่มีน้ำหนักต่ำกว่า หรือสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน

กลุ่มของผู้สูงอายุมากกว่าครึ่งมีความเสี่ยงจะเกิดภาวะทุพโภชนาการ หรือการขาดสารอาหาร ซึ่งอาจส่งผลให้ประสิทธิภาพของวัคซีนในการกระตุ้นภูมิคุ้มกันลดลง

ภาวะขาดสารอาหารยังสามารถส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง และเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ การแก้ไขภาวะขาดสารอาหารอาจช่วยลดความเสื่อมถอยของระบบภูมิคุ้มกัน ที่อาจส่งผลให้ผู้สูงอายุมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อและความรุนแรงของโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้น

แนวทางการสร้างเสริมสุขภาพที่ดี

ควรให้ความสำคัญกับการรับประทานอาหารและเครื่องดื่มที่ดีต่อสุขภาพ เป็นอันดับต้นๆ เริ่มจากการรับประทาน ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ไร้ไขมัน ผลิตภัณฑ์จากนมและไขมันดี เพิ่มเติมจากอาหารมื้อหลัก จะช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารหลักที่สำคัญ เพื่อเสริมสร้างภูมิต้านทานให้กับร่างกาย ดังนี้

โปรตีน: โปรตีนเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อการสร้างแอนติบอดี และเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกัน กรดอะมิโนบางชนิดที่เป็นส่วนประกอบของโปรตีน คือแหล่งพลังงานที่สำคัญของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย

ผู้สูงอายุควรได้รับโปรตีนประมาณ 25-30 กรัมต่อมื้ออาหาร เพื่อช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ และช่วยให้อิ่มท้องได้นานขึ้นในระหว่างมื้ออาหาร

วิตามินและแร่ธาตุ: วิตามินและแร่ธาตุ คือสารอาหารสำคัญที่ร่างกายต้องการเพื่อคงความแข็งแรง วิตามินเอ และ วิตามินดี มีส่วนช่วยในการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันให้เป็นไปตามปกติ

และจากข้อมูลทางการแพทย์พบว่า วิตามินดีอาจมีบทบาทสำคัญในการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายต่อไวรัสที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจ

นอกจากนี้ วิตามินซี และ วิตามินอี ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ จะช่วยปกป้องเซลล์ต่างๆ รวมถึงเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกันจากความเสียหาย ขณะที่ สังกะสี มีส่วนสำคัญในกระบวนการสร้างเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกัน

โพรไบโอติกส์: แม้ไม่ใช่สารอาหารหลัก ทว่าโพรไบโอติกส์ หรือแบคทีเรียชนิดดีที่อยู่ในระบบทางเดินอาหาร มีผลต่อระบบภูมิคุ้มกันโดยรวมของร่างกาย จุลินทรีย์โพรไบโอติกส์ ช่วยในการทำงานของระบบทางเดินอาหารและลำไส้ ซึ่งมีระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายกว่า 70 เปอร์เซ็นต์อยู่ในนั้น

แม้ไม่มีรายงานว่าร่างกายคนเราต้องการโพรไบโอติกส์ในปริมาณเท่าไรในแต่ละวัน ทว่าการรับประทานอาหารหมักดอง เช่น โยเกิร์ต นมเปรี้ยว กิมจิ หรือผักผลไม้ดองในปริมาณที่เหมาะสมก็เป็นวิธีง่ายๆ ในการเพิ่มปริมาณโพรไบโอติกส์ให้กับร่างกาย

โภชนาการที่ดีคือพื้นฐานของการมีสุขภาพที่แข็งแรง และเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและการคงความแข็งแรงของร่างกาย รวมทั้งมีส่วนช่วยปกป้องโรคและการฟื้นตัวของร่างกายจากความเจ็บป่วย โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ

การรับประทานอาหารที่มีโภชนาการที่สมดุล อาทิ โปรตีน ธาตุเหล็ก สารต้านอนุมูลอิสระ วิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็น มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย

ขณะที่ผลิตภัณฑ์เสริมสารอาหาร หรืออาหารสูตรครบถ้วน ก็เป็นตัวเลือกสำหรับผู้ไม่สามารถรับประทานอาหารได้อย่างเพียงพอในแต่ละวัน ช่วยให้ผู้สูงอายุได้รับสารอาหารที่เพียงพอต่อความต้องการในแต่ละวันได้ นายแพทย์ไมเคิล หวัง ผู้อำนวยการด้านการแพทย์ กลุ่มงานธุรกิจโภชนาการของแอ๊บบอต ลาบอแรตอรีส ประจำภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก กล่าว

ด้าน ดร.ภนิตา ศรีชมเชย นักกำหนดอาหารวิชาชีพ ผู้จัดการศูนย์โภชนาการและการกำหนดอาหาร โรงพยาบาลเทพธารินทร์ วิทยากรจากโครงการ Nutrition Expert แนะนำว่า “โภชนาการที่ดีจะช่วยสนับสนุนประสิทธิภาพของวัคซีนและช่วยลดความรุนแรงของอาการข้างเคียงจากการรับวัคซีน

นอกจากนี้ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และการพักผ่อนที่เพียงพอจะช่วยสนับสนุนการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้สุขภาพโดยรวมดีขึ้น ซึ่งการออกกำลังกายที่สามารถทำได้ง่ายๆ ได้แก่ การวิ่งเหยาะๆ การว่ายน้ำ การเดินในน้ำ มวยจีน หรือโยคะ เป็นต้น”

การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงการออกกำลังกายแบบแรงต้าน สามารถช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อและความแข็งแรง เพื่อความปลอดภัยควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเพื่อเลือกรูปแบบการออกกำลังกายที่เหมาะสมต่อสภาพร่างกายได้

เช่น การเดินอย่างสม่ำเสมอ, การออกกำลังกายที่เน้นการเสริมสร้างกล้ามเนื้อ เช่น การกระโดด หรือ การบริหารกล้ามเนื้อต้นขาด้านหน้าโดยการย่อขา, การยกเวท หรือ การใช้อุปกรณ์เสริมเพื่อเพิ่มแรงต้าน

การให้ความสำคัญกับโภชนาการที่ดี และการออกกำลังกาย จะช่วยให้ร่างกายแข็งแรง และอาจช่วยในการตอบสนองของร่างกายต่อวัคซีนได้ หรือสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการ Nutrition Expert Program เพียงคลิก Abbott Nutrition Care หรือสแกน QR Code

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน