อ้วนก็แข็งแรงได้ นักวิจัยมะกันชี้ลดน้ำหนักดี แต่ไม่ใช่เป้าหมายหลัก
อ้วนก็แข็งแรงได้ – วันที่ 21 ก.ย. เดลีเมล์รายงานว่า ผลการศึกษาใหม่จากคณะนักวิจัยมหาวิทยาลัยรัฐอริโซนา ประเทศสหรัฐอเมริกา บ่งชี้ว่าการออกกำลังกายควรมีเป้าหมายหลักเพื่อเพิ่มความแข็งแรงของร่างกาย และทำให้มีชีวิตยืนยาวมากกว่าการลดน้ำหนัก
ข้อสรุปดังกล่าวของคณะนักวิจัยเกิดขึ้นหลังจากการศึกษาข้อมูลด้านการออกกำลังกายพบว่ามีผลทำให้ร่างกายแข็งแรงและลดอัตราการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรได้มีประสิทธิภาพมากกว่าการลดน้ำหนัก
นอกจากนี้ ยังสะท้อนจากข้อเท็จจริงตลอด 40 ปีที่ผ่านมา ซึ่งผู้คนทั่วโลกพยายามใช้การออกกำลังกายเป็นวิธีการหลักในการลดน้ำหนักและไขมัน แต่กลับพบว่าปริมาณผู้ที่มีน้ำหนักเกินเกณฑ์นั้นกลับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ศาสตราจารย์เกล็น กีสเซอร์ จากสำนักวิชาวิทยาศาสตร์สุขภาพ ม.อริโซนา และผู้ช่วยศาสตารจารย์สิทธารถะ อังกาดี จากสำนักวิชาการศึกษาและพัฒนาการของมนุษย์ ม.เวอร์จิเนีย เชื่อว่า แนวคิดใหม่นี้จะเป็นสิ่งที่ช่วยลดปัญหา โยโย่ เอฟเฟ็กต์
รายงานระบุว่า โยโย่ เอฟเอ็ฟต์ เป็นปรากฏการณ์ที่ผู้ออกกำลังกายมีน้ำหนักตัวที่ลดลง แต่ต่อมาน้ำหนักตัวกลับเพิ่มขึ้นจนมากยิ่งกว่าช่วงก่อนลดน้ำหนักเดิมอย่างรวดเร็ว ซึ่งถือเป็นหนึ่งในปัญหาด้านการออกกำลังกาย และหนึ่งในปัญหาของการรักษาผู้มีภาวะอ้วน
คณะนักวิจัย ระบุว่า การใช้การออกกำลังกายเป็นทางออกการรักษาโรคอ้วนนั้นส่วนใหญ่ไม่ได้ผลเท่าที่ควร นอกจากนี้ การทำให้น้ำหนักตัวลดลงบ่อยครั้งยังเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้น้ำหนักกลับมามากขึ้นกว่าเดิมด้วย ทำให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพ
“ภาวะอ้วนจำนวนมากมีสาเหตุมาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ขาดการเคลื่อนไหวร่างกาย และการขาดความแข็งแรงของปอดและหัวใจ” คณะนักวิจัยระบุ
นักวิจัยย้ำว่า การออกกำลังกายโดยไม่ได้มุ่งเป้าหมายหลักไปที่การลดน้ำหนักนั้นไม่ได้หมายความว่าการลดน้ำหนักเป็นสิ่งที่ไม่ดี
ทว่า ผลการศึกษานี้บ่งชี้ว่า การออกกำลังกายเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้ได้เคลื่อนไหวร่างกาย และเพิ่มความแข็งแรงของปอดและหัวใจเป็นเป้าหมายจะมีประสิทธิภาพต่อการรักษาโรคต่างๆ ที่เป็นผลสืบเนื่องมาจากภาวะอ้วนได้ดีกว่าการออกกำลังเพื่อลดน้ำหนักเป็นหลัก
อย่างไรก็ดี ผลการศึกษาของนักวิจัยข้างต้นขัดแย้งกับการศึกษาล่าสุดของมหาวิทยาลัยกลาสโกว ของสก็อตแลนด์ ซึ่งติดตามสุขภาพของอาสาสมัคร 381,263 คน เป็นเวลานาน 11 ปี ทำให้นักวิจัยสรุปว่า ผู้ที่อ้วนนั้นไม่สามารถมีร่างกายที่แข็งแรงได้ พร้อมเรียกร้องให้บรรดาแพทย์ยุติความเชื่อดังกล่าวที่ว่า คนอ้วนก็แข็งแรงได้ เพราะเป็นเรื่องหลอกลวง
ข้อสรุปดังกล่าวเกิดขึ้นหลังผลการศึกษาพบว่า ผู้ที่มีอัตราการเผาผลาญพลังงาน หรือเมทาบอลิซึม อยู่ในเกณฑ์ปกติ แต่มีน้ำหนักเกินเกณฑ์มาตรฐาน มีความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตกว่าผู้ที่มีน้ำหนักตัวในเกณฑ์ปกติร้อยละ 22
ทั้งยังมีอัตราความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตจากโรคหัวใจวายมากกว่าคนปกติร้อยละ 18 มีโอกาสที่จะเกิดภาวะหัวใจล้มเหลวมากขึ้นร้อยละ 76 และความเสี่ยงโรคเบาหวานมากขึ้นเป็น 4 เท่า
อย่างไรก็ตาม ศ.กีสเซอร์ ยืนยันว่า ผู้ที่อ้วนนั้นสามารถมีร่างกายที่แข็งแรงได้ เพราะภาวะแข็งแรงของแต่ละคนนั้นมีร่างกายซึ่งสัดส่วนแตกต่างกันไป
“ผู้ที่นิยมออกกำลังเพื่อลดน้ำหนักเป็นประจำอาจจะเชื่อยากหน่อย กับการเปลี่ยนความคิดมาเป็นการออกกำลังเพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้ร่างกายเป็นหลัก แต่ต้องย้ำว่าเราไม่ได้ต่อต้านการลดน้ำหนัก เพียงแต่ต้องการบอกว่า มันไม่ควรเป็นเป้าหมายหลักที่ใช้เป็นเกณฑ์การวัดความสำเร็จในการออกกำลังครับ” ศ.กีสเซอร์ ระบุ
