การเดินลุยน้ำบ่อย ๆ หรือย่ำน้ำที่อาจมีสิ่งสกปรก สารเคมี และเชื้อโรคปะปนอยู่ หากรักษาความสะอาดไม่ดีพอ มักเกิดโรคผิวหนังที่เรียกว่า โรคน้ำกัดเท้าหรือฮ่องกงฟุต (Athlete’s foot หรือ Hong Kong foot)

ตามที่พญ.สุเพ็ญญา วโรทัยและนพ.สุมนัส บุณยะรัตเวช ให้ข้อมูลไว้ในเว็บไซต์คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลเรื่องโรคผิวหนังที่มากับน้ำท่วม เผยว่า โรคน้ำกัดเท้าเป็นโรคผิวหนังชนิดแรกที่จะเกิดหลังการสัมผัสน้ำสกปรกต่อเนื่องซ้ำ ๆ กันในสัปดาห์แรก

โดยเกิดจากการระคายเคืองของผิวหนัง เนื่องจากความเปียกชื้นและการสัมผัสสิ่งสกปรกและสารเคมีต่าง ๆ ในน้ำท่วมขัง ทำให้ผิวหนังจะมีลักษณะเปื่อยลอกโดยเฉพาะบริเวณซอกนิ้วเท้าอาจมีอาการผื่นแดงพร้อมแสบคันร่วมด้วย

ซึ่งการดูแลตนเองในเบื้องต้นอย่างถูกวิธีจะช่วยลดการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงต่าง ๆ ได้ ดังนั้น ทางทีมข่าวสดขอเสนอเคล็ดลับวิธีการป้องกันโรคน้ำกัดเท้า

1. สวมรองเท้าบูทเสมอ เมื่อจำเป็นต้องลุยน้ำท่วมขัง แต่ทว่าใครที่ไม่สามารถหาซื้อไม่ทันเวลาควรหาถุงครอบเท้าหรือดัดแปลงพลาสติกสวมทับรองเท้าให้กระชับ หากระดับน้ำสูงเกินกว่าขอบรองเท้า เราขอแนะนำให้ใช้ถุงดำครอบจากนั้นใช้หนังยางหรือเชือกรัดไว้

เมื่อน้ำเข้ารองเท้าให้หมั่นเทน้ำออกเป็นระยะ ๆ เพื่อป้องกันสิ่งสกปรกตามน้ำ หลังจากกลับถึงบ้านแล้วให้นำรองเท้าที่สวมใส่ไปล้างน้ำผสมน้ำยาฆ่าเชื้อ ผึ่งลม พร้อมตากแดดช่วงเช้าที่จะช่วยลดปริมาณเชื้อโรค

2. รักษาสุขอนามัยของเท้า หลังการสัมผัสน้ำสกปรกควรล้างเท้าด้วยน้ำสะอาดและสบู่ทันที จากนั้นเช็ดรักษาความสะอาดโดยเฉพาะบริเวณซอกนิ้วเท้าให้แห้งอยู่เสมอ

3. ตรวจสอบรองเท้าก่อนสวมใส่ ก่อนสวมรองเท้าทุกครั้งควรสำรวจดูสิ่งแปลกปลอมด้านใน เพื่อป้องกันการเกิดแผลและป้องกันสัตว์มีพิษที่อาจจะมากับน้ำท่วมซ่อนตัวอยู่

4. ทาขี้ผึ้งก่อนลุยน้ำ ความมันของขี้ผึ้งสามารถลดโอกาสในการสัมผัสของน้ำสกปรกกับผิวหนังได้ ซึ่งแพทย์แนะนำว่าหากไม่มีขี้ผึ้งวิทฟิลด์ (Whitfield’s ointment) ก็สามารถใช้ขี้ผึ้งวาสลินแทนกันได้ โดยทาให้ทั่วเท้า ทั้งนิ้วเท้าและง่ามนิ้ว เมื่อขึ้นจากน้ำให้เช็ดขี้ผึ้งออก ล้างเท้าให้สะอาดด้วยสบู่ พร้อมทั้งเช็ดเท้าให้แห้งทันที

5. ดูแลแผลถลอก หากมีแผลถลอกบริเวณเท้าควรเช็ดแผลด้วยแอลกอฮอล์ ใส่ยาฆ่าเชื้อหรือแช่น้ำผสมยาฆ่าเชื้อ ทิ้งไว้ 10 – 15 นาที ต่อมาฟอกสบู่พร้อมล้างด้วยน้ำสะอาด จากนั้นเช็ดให้แห้งสนิทและทายาป้องกันแผลติดเชื้อ

6. การรักษาเบื้องต้นหากเกิดผื่นจากน้ำกัดเท้า คือการใช้ยาแก้คันทาบริเวณผื่น ถ้าเป็นไปได้ไม่ควรใช้ยาแก้คันที่มีส่วนผสมของยาต้านเชื้อรา หากยังไม่แน่ใจการวินิจฉัยโรคที่ชัดเจน เนื่องจากอาจบดบังอาการของการติดเชื้อราระยะต้นได้

นอกจากนี้ ตามที่รองศาสตราจารย์แม้นสรวง วุฒิอุดมเลิศ คณะเภสัชศาสตร์ กล่าวว่า ยามีหลายประเภท ทั้งที่เป็นยารับประทาน ยาสำหรับสเปรย์ ยาทาประเภทครีม ขี้ผึ้ง และผง

เช่น Whitfield’s ointment และ ยาในกลุ่ม imidazole เป็นต้น ให้ทาบาง ๆ หลังจากทำความสะอาดแผลและเช็ดให้แห้งแล้ว

อย่างไรก็ตาม ยาจำพวกขี้ผึ้งรักษาเชื้อราจะมีฤทธิ์กัดให้ผิวหนังชั้นบนลอกออก ซึ่งจะเพิ่มการระคายเคืองต่อผิวหนัง ทำให้อาการแดง ลอก แสบคันเป็นมากขึ้นได้อีกด้วย การที่จะใช้ยาชนิดใดควรปรึกษาเภสัชกรหรือแพทย์

ขอบคุณที่มาจาก Pharmacy Mahido/Si Mahidol/Bumrungrad.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน