• ทำเกษตรสไตล์‘เจ้เล้ง’ปรับโฉมที่ดินเล็งสร้างสุสาน
  • ภาวิณีย์ เจริญยิ่ง

วันก่อน “เจ้เล้ง” อารยา ลาภชีวะสิทธิฉัตร นักธุรกิจหญิงหลายพันล้าน ชวนทีมงาน “ข่าวสด” ไปดูแปลงเกษตรที่ซุ่มทำมานาน 3 ปี ที่ต.น้ำเป็น อ.เขาชะเมา จ.ระยอง ในเนื้อที่ 97 ไร่ และคาดว่าน่าจะซื้อเพิ่มอีกหลายสิบไร่ ซึ่ง เป็นที่ดินผืนงาม วิวธรรมชาติ สุดยอด มีฉากเป็นภูเขาสูง และมีบ่อน้ำขนาดใหญ่สองบ่อที่ขุดขึ้นเพื่อใช้ทำเกษตร ยามเมื่อแสงอาทิตย์ทอดลงไปในน้ำสวยงามอย่าบอกใคร

เวลานี้ผลผลิตออกดอกออกผลขายได้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นพืชผักสวนครัว อย่างเช่น ถั่วฝักยาว แตงกวา บวบ ฟักทอง ฯลฯ และผลไม้นานาชนิด ที่มีทั้งทุเรียน แตงโม ขนุน ฯลฯ วันนั้นเจ้เล้งเลยให้คนงานเก็บพืชผักสารพัดชนิดเพื่อนำมาทำอาหารให้กินกันอย่างเอร็ดอร่อย

เจ้เล้งในวัย 75 ปี เกริ่นให้ฟังถึงการมาทำเกษตรที่เขาชะเมาว่า บางคนอาจคิดว่าแก่ๆ ยังคิดมาทำสวนแบบนี้ มีคนมาถามว่าตายไปเหลือแค่เหรียญเหรียญเดียวใส่ปาก แต่เจ้เล้งคิดว่าก่อนตายขอทำอะไรที่ดีให้คนคิดถึงบ้าง เริ่มจากชีวิตในวัยเด็กครอบครัวไม่มีที่อยู่ ต้องเช่าบ้านหลังละ 50 บาท ตอนนั้นแค่ค่าเช่า ยังไม่มีจ่าย ที่จะนอนเหมือนเป็นเพิง เป็นบ้านชั้นเดียว ความฝันคืออยากมีที่ดินเป็นของ ตัวเองตั้งแต่เด็ก เพราะคนอื่นมีบ้าน มีที่ แต่ตัวเองต้องเช่าบ้านอยู่ ฝันว่าวันหนึ่งต้องมีอะไรเหมือนคนอื่นให้ได้ และต้องทำให้ดีกว่า

“ที่ผ่านมาเจ้เล้งทำร้านค้าสำเร็จแล้ว ถามว่าอยากขยายร้านค้าให้มีเยอะๆ ไหม ไม่เอา เราทำแค่นั้นพอ ในยามโควิดร้านเจ้เล้งก็ยังขายดีอยู่ ปัจจุบันมีช่องยูทูบ มีเฟซบุ๊ก มี แฟนเพจของตัวเอง วันนี้การค้าประสบความสำเร็จ ธุรกิจของเราอยู่ตัว เจ้เล้งก็ไปทำอพาร์ตเมนต์ บ้านเช่า ทำมา 20 กว่าปีแล้ว แรกๆ ทำเล็กๆ แค่ 2 หลังก่อน ตอนนี้มี 10 กว่าตึกแล้วแถวย่านสุวรรณภูมิ ไม่ได้ไป กู้เงินที่ไหนมา เอาเงินพี่มาเลี้ยงน้อง”

วกกลับมาถึงการทำเกษตรบ้าง เจ้เล้งบอกว่าโดนหลอกให้ซื้อที่ดินแพงเมื่อ 20 กว่าปีก่อน พอดีช่วงงานในร้านยุ่งๆ และทำอพาร์ตเมนต์จึงปล่อยทิ้งไว้ ช่วงหลังๆ มีเวลาว่าง เริ่มคิดอยากคืนทุนให้แผ่นดิน เราเป็นเจ๊กเป็นจีนมาอาศัยที่ทำกิน เวลานี้ เป็นนางสาวแล้ว หลังจากเป็นอิสระก็อยากทำอะไรที่คิด

คือช่วงก่อนนี้เป็นอิสระทุกข์มาก ตัดสินใจไม่ถูก เพราะต้องแบ่งสมบัติกับอดีตสามี ทำใจไม่ได้ หากินมาด้วยความยากลำบากตลอดชีวิต ไม่ได้อยู่อย่าง สุขสบาย อยู่แบบหน้าสู้ดิน หลังสู้ฟ้า ไม่ได้ใช้ชีวิตแบบคนอื่น กินข้าวบนรถ กินข้าวบนตู้ขายของ ทำกับข้าวข้างตู้ขายของ

วันนี้มีครบทุกอย่าง พอมาทำสวนก็ศึกษาจากชาวสวนว่าทำอย่างไร เดิมมีที่ตรงนี้อยู่ 20 ไร่ ตอนแรกตั้งใจจะทำฮวงซุ้ยให้แม่ แต่ไกลเหลือเกิน เลยถูกปล่อยว่างมา 20 ปี พอตอนนี้ว่าง มีรายได้เยอะ เงินที่มีก็เอามาต่อยอด คืนทุนให้แผ่นดิน มาสร้างสวนทุเรียนที่นี่และปลูกพืชผักสวนครัวเพื่อให้ผู้จัดการสวนและคนงานอีกหลายสิบชีวิตมีรายได้ช่วงที่ทุเรียนยังไม่ออกลูก อีกอย่างคนงานจะได้กินกันด้วย

เจ้เล้งเล่าว่า การปลูกพืชผักสวนครัวปลูกแบบออร์แกนิก ไม่ใช้ยา ฆ่าแมลง ใช้ปุ๋ยชีวภาพ อย่างเช่น ถั่วฝักยาวตอนต้นไม่ใหญ่ใช้น้ำมะพร้าวฉีดก่อน ต่อมาใช้น้ำมะพร้าวผสมกับผงชูรสและพวกยาชูกำลัง ทั้งหลาย

โดยพืชผักสวนครัวทั้งหลายปลูกระหว่างร่องทุเรียน พอต้นใกล้ตายก็ปลูกแทน ใช้ระบบสปริงเกลอร์น้ำที่กระเด็นจากการปลูกทุเรียนก็ได้มารดผัก ไม่ต้องมารดน้ำ พอต้นถั่วเริ่มมีฝักจะหวานมาก เป็นความหวานจากน้ำมะพร้าวที่ฉีดผสม (น้ำมะพร้าว 100 ซีซี ต่อน้ำ 18 ลิตร) ขายได้ก.ก.ละ 40 บาท

วันนั้นผู้จัดการสวนพาเจ้เล้งไปเด็ดข้าวโพดและแตงโม และกินกันในสวนเลย

เจ้เล้งอธิบายว่าปลูกข้าวโพดเดือนเดียวเองได้กินแล้ว เร็วมากเลย ชาวสวนถ้าขยัน ไม่อดตาย แต่เวลาปลูกต้องปลูกหลายๆ อย่าง ห้ามปลูกอย่างเดียว อันโน้นไม่ได้ราคา อันนี้ได้ราคาผสมผสานกันไป ระหว่างรอต้นทุเรียนเก็บเกี่ยวได้ ที่นี่ปลูกต้นข้าวโพดรอ ไม่ใส่ปุ๋ยเคมี สวนนี้เป็นอีกธุรกิจหนึ่งที่ ไม่ได้คิดรวย แต่สอนให้คนจนได้มีอาชีพ สอนให้คนจนใช้ชีวิตที่ดีมีประโยชน์ อย่าหายใจทิ้งไปวันๆ หนึ่ง

นี่คือไอเดียของเจ้เล้ง เราไม่ได้ปลูกแค่นี้ แตงโมก็มี มะเขือก็มี เรามีหมด ที่ปลูกนี้สามารถกินได้เลย เอาไปขายก็ได้เงิน แล้วไปซื้อกุ้ง หมู ไก่มากินกัน ส่วนปลาก็เลี้ยงเอง ในบ่อปลาปลามีเยอะมาก ปลาใช้เวลาเลี้ยงแค่ 40 วัน ตอนนี้ตัวใหญ่มาก พร้อมกิน แต่เจ้เล้ง ยังไม่ให้กินเพราะต้องให้ปลาวางไข่ก่อน พอปลาวางไข่เสร็จแล้วค่อยไปกิน ไม่ต้องไปซื้อลูกปลาใหม่มาเลี้ยง

สำหรับทุเรียนสวนเก่าที่ซื้อมามีต้นทุเรียนอยู่แล้วและเพิ่งปลูกเพิ่ม ช่วงปลายพ.ย.พอฝนหมด ทุเรียนน่าจะออกดอกประมาณปลายเดือนม.ค. ทุเรียนเวลาออกดอกจะไม่เยอะ จะค่อยๆ ทยอยออก และได้บอกผู้จัดการสวนว่าให้ทุเรียนได้ 90% แล้วค่อยตัด

ช่วงเวลาหลายชั่วโมงที่อยู่ในสวนเจ้เล้งพาไปเดินดู จนทั่ว บางจุดใช้รถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้าง เนื่องจากสวนใหญ่มาก

เจ้เล้งบอกด้วยว่า “ตอนนี้อายุ 75 ปีแล้ว บั้นปลายชีวิตอยากมาอยู่ที่นี่ ตรงนี้หลังพิงเขา หน้าเป็นคลอง มีภูเขาล้อมรอบ มีต้นไม้เต็มไปหมด เวลาเช็งเม้งมีลูกหลานมาไหว้ก็มีผลไม้ให้เก็บ มีทุเรียนให้กิน หน้าเช็งเม้งเป็นช่วงที่มีผลไม้เยอะที่สุด เด็กๆ ก็มีความสุข เมื่อถึงเวลานั้นจะมีคฤหาสน์หลังหนึ่งอยู่ตรงนั้น ที่เจ้เล้งจะต้องอาศัยอยู่ตรงนั้นตลอดไป เป็นบ้านที่จะมาอยู่ตอนตายแล้ว เราไม่มีลมหายใจจะมาพักที่นี่ ลูกหลานมาไหว้ก็สนุก ถึงเวลาก็มีทุเรียนเก็บ มีผลไม้เต็มไปหมด”

ทั้งหมดนี้คงทำให้ได้เห็นกันแล้วว่าเจ้เล้งใช่จะเก่งเรื่องการทำธุรกิจอย่างเดียว แต่ยังเก่งในการทำเกษตรด้วย

++++

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :

เจ้เล้ง ปวดใจ แจงยิบจ่าย 700 ล้านหย่า ฉะผัวเก่าขายสมบัติ-ควงเพื่อนสาวออกหน้า!

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน