หลังจากที่หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย ไปเป็นแขกรับเชิญคุยกับ วู้ดดี้ วุฒิธร มิลินทจินดา ใน Woody FM เล่าอาการแพนิกของตนเองจนหลายคนเกิดความสงสัยว่าอาการแพนิกเป็นอย่างไร

เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงเคยได้ยินคำว่า “อย่าแพนิก ตั้งสติหน่อย” ซึ่งภาวะแพนิกเป็นโรคใกล้ตัวที่ไม่ควรมองข้าม ดังนั้น ทางทีมข่าวสดจึงขอไขข้อข้องใจด้วยสาเหตุ อาการ วิธีรักษา และวิธีการดูแลตนเองเบื้องต้น เมื่อเกิดอาการแพนิก

โรคแพนิก หรือ โรคตื่นตระหนก (Panic disorder) เป็นโรคทางจิตเวชชนิดหนึ่งที่เกิดจากภาวะตื่นตระหนก หวาดกลัวต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง หรือเหตุการณ์บางเหตุการณ์ทั้งที่ไม่ได้เผชิญหน้าหรือตกอยู่ในสถานการณ์อันตราย ซึ่งอาการดังกล่าวจะสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา และอาจส่งผลต่อความมั่นใจในการดำเนินชีวิต

ผศ.พญ.สุทธิพร เจณณวาสิน ภาควิชาจิตเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล กล่าวว่า
อาการของโรคแพนิกจะเกิดขึ้นได้ทันทีและตลอดเวลา โดยผู้ป่วยจะมีอาการดังนี้

ใจสั่น หัวใจเต้นแรง อึดอัด แน่นหน้าอก
หายใจไม่ทัน หนาวสั่น ตัวสั่น วิงเวียนศีรษะ
รู้สึกชา หรือรู้สึกซ่า ๆ ปากแห้ง ร้อนวูบวาบ รู้สึกหน้ามืด
ท้องไส้ปั่นป่วน เหงื่อออก เสียงก้องอยู่ในหู กลัวเป็นบ้า

 

จนกระทั่งรู้สึกเหมือนจะควบคุมตัวเองไม่ได้ จากนั้นจะเริ่มรู้สึกกลัวเหมือนตัวเองกำลังจะตาย อาการจะค่อย ๆ รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ จนเต็มที่และสงบลงในเวลาประมาณ 10 นาที บางรายอาจนานกว่านั้นแต่มักไม่เกิน 1 ชั่วโมง และจะเป็นซ้ำ ๆ โดยมีสิ่งกระตุ้นหรือไม่มีก็ได้

หากไม่ได้รับการรักษาและอธิบายให้เข้าใจ ตัวโรคจะไม่ทำให้เกิดอันตรายถึงแก่ชีวิต แต่ผู้ป่วยจะทรมานจากอาการและดำเนินชีวิตประจำวันด้วยความวิตกกังวลตลอดเวลา

เช่น ไม่กล้าอยู่คนเดียว ไม่กล้าไปไหนมาไหนคนเดียว หรือกลัวที่จะทำกิจกรรมบางอย่าง ไม่ว่าจะข้ามสะพานลอย ขึ้นลิฟต์ นอนในที่มืด ขับรถ และอาจพบภาวะอื่น ๆ ตามมา โดยเฉพาะภาวะซึมเศร้า

สาเหตุของอาการแพนิก ผศ.พญ.สุทธิพรกล่าวว่ายังไม่ทราบแน่ชัดถึงสาเหตุที่แท้จริง แต่เชื่อว่ามีหลายปัจจัย ทั้งปัจจัยทางร่างกายและทางจิตใจ

ทางกาย อาจเกิดจากสมองส่วนควบคุมความกลัวที่เรียกว่าอะมิกดาลาทำงานผิดปกติ ระดับฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลง การใช้สารเสพติด ทั้งมีโอกาสเกิดอาการจากการกระตุ้นทางกรรมพันธุ์ หากมีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรควิตกกังวล

ทางจิตใจ เกิดจากพฤติกรรมหลายอย่างในชีวิตประจำวัน เช่น ความเครียด ความวิตกกังวล พักผ่อนน้อย หรือเผชิญกับสภาวะกดดัน

อีกทั้งยังมีงานวิจัยยืนยันว่าคนที่เคยผ่านเหตุการณ์กระทบทางจิตใจอย่างรุนแรง อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหรือเสียสมดุลของสารเคมีในสมองได้ โดยเฉพาะในวัยเด็ก มีโอกาสเป็นโรคแพนิกได้มากกว่า เช่น ผิดหวังรุนแรง ถูกทอดทิ้ง ทำร้ายร่างกาย ข่มขืน และสูญเสียสิ่งสำคัญ เป็นต้น

วิธีการรักษา เมื่อมีลักษณะอาการดังที่กล่าวมาข้างต้น และสงสัยว่าอาจเป็นโรคแพนิก สิ่งที่ต้องทำเป็นลำดับแรกคือการไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด ซึ่งมีวิธีการรักษา 2 วิธี คือ รับประทานยาอย่างต่อเนื่องควบคู่ไปกับการบำบัดทางจิตใจ เมื่อผู้ป่วย “หายสนิท” คือไม่มีอาการเลย มักให้กินยาต่อไปอีก 8 – 12 เดือน เพื่อป้องกันการกลับมาของอาการ

วิธีการดูแลตนเอง หากเกิดอาการแพนิกเบื้องต้น

1. หายใจเข้าออกลึก ๆ ช้า ๆ และบอกตัวเองว่าอาการไม่อันตราย แค่ทรมานแต่เดี๋ยวก็หาย

2. ฝึกมองโลกในแง่บวก รับมือกับความเครียด และให้กำลังใจตัวเองอยู่เสมอ

3. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อลดอาการง่วงเซื่องซึมระหว่างวัน

4. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

5. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบถ้วน

6. งดหรือหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ สารกาเฟอีน และเครื่องดื่มชูกำลังเพราะกระตุ้นให้เกิดอาการใจหวิวและใจสั่น

7. เข้ารับการรักษาจากแพทย์อย่างต่อเนื่อง ไม่ควรซื้อยาทานเองเด็ดขาด เนื่องจากผลิตภัณฑ์อาจมีส่วนประกอบที่กระตุ้นให้เกิดอาการแพนิกได้ อย่างไรก็ตาม อาการแพนิกไม่ได้ร้ายแรงถึงชีวิต แต่เป็นอาการที่สามารถเกิดขึ้นและหายไปได้

ขอบคุณที่มาจาก คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล / รพ.พระรามเก้า

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน