การอาบน้ำ เป็นหนึ่งกิจวัตรประจำวันที่คนส่วนใหญ่ทำเป็นประจำทุกวัน ซึ่งคนไทยถูกสอนมาตั้งแต่เด็กให้อาบน้ำอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เพื่อสุขภาพอนามัยที่ดี

แต่รู้หรือไม่ว่า การอาบน้ำในแต่ละครั้งควรใช้เวลานานเท่าไหร่ถึงจะเหมาะสมกับร่างกาย ทางทีมข่าวสดจะมาไขคำตอบข้อข้องใจในเรื่องนี้ จนทำให้หลาย ๆ คนลืมว่าอาบน้ำแป๊บเดียวหรือที่เรียกว่าวิ่งผ่านน้ำแล้วไม่สะอาดไปได้เลย

ตามรายงานของกรมควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ (CDC) คนส่วนใหญ่อาบน้ำโดยเฉลี่ยจะใช้เวลา 8 นาที ซึ่งการใช้เวลาอาบน้ำนานเกินไปหรือไม่เพียงพออาจนำไปสู่ปัญหาผิวหนัง หากใครชื่นชอบการแช่ตัวอยู่ในอ่างอาบน้ำนานกว่า 15 นาที คุณอาจต้องคิดใหม่เกี่ยวกับกิจวัตรด้านสุขอนามัยของตนเอง

ดร.เอดิเดียง คามินสกา แพทย์ผิวหนัง แนะนำเวลาที่เหมาะสมในการอาบน้ำ เพื่อทำความสะอาดและให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว โดยเวลาที่เหมาะสมสำหรับการอาบน้ำที่ดีอยู่ที่ 5 – 10 นาที

“ผิวของเราต้องการน้ำ เช่นเดียวกับร่างกาย แต่ถ้าเราทำความสะอาดร่างกายมากเกินไปหรือน้อยเกินไป มันอาจจะส่งผลข้างเคียงตามมา”

ผลข้างเคียงจากการอาบน้ำนาน แม้ว่าการอาบน้ำอุ่นเป็นเวลานานอาจดูเหมือนเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการบำบัดร่างกาย แต่การอาบน้ำนานเกินไปอาจทำให้ผิวขาดน้ำ

“จุดประสงค์ของการอาบน้ำคือการให้ความชุ่มชื้นและทำความสะอาดผิว แต่การอาบน้ำอุ่นจนร้อนเป็นเวลานานจะขจัดน้ำมันตามธรรมชาติของผิวหนังออกไปและเปิดรูขุมขนของเราและช่วยให้ความชื้นสามารถหลบหนีได้”

ดร.อันนา กวนเช กล่าวว่า หากมีผิวหนังที่แห้งหรือเป็นกลาก ขอแนะนำให้ลดการอาบน้ำอุ่น ส่วนทางวิทยาลัยแพทยศาสตร์เบย์เลอร์ กล่าวเสริมว่า หลีกเลี่ยงการอาบน้ำอุ่นจนร้อนในช่วงฤดูหนาวเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากความร้อนสามารถทำลายพื้นผิวของผิวหนัง ซึ่งอาจนำไปสู่การอักเสบและเพิ่มอาการของสะเก็ดเงินได้

ผลข้างเคียงจากการอาบน้ำสั้น โดยทั่วไปการอาบน้ำใต้ฝักบัวอาจทำความสะอาดผิวได้ไม่ทั่วถึง
ดร. เอดิเดียง คามินสกากล่าวว่า เราทุกคนมีแบคทีเรียที่อาศัยอยู่บนผิวหนังและช่วยปกป้องผิวจากการบาดเจ็บ

ดังนั้น อาจเพิ่มความเสี่ยงของการติดเชื้อที่ผิวหนัง หากอาบน้ำไม่สะอาดหรือไม่อาบน้ำ อีกทั้งยังนำไปสู่การเกิดกลิ่นตัว ซึ่งน้ำมันจะทำการสะสมตามผิวหนัง อุดตันรูขุมขน และกระตุ้นการเกิดสิว


อาบน้ำอย่างไรให้ถูกวิธี

1. อาบน้ำด้วยน้ำอุ่นที่พอเหมาะ ที่ไม่ร้อนและไม่เย็นจนเกินไป ซึ่ง ดร. เอดิเดียง คามินสกา กล่าวว่า การอาบน้ำมีหลายวิธี แต่วิธีที่ง่ายและอ่อนโยนที่สุดคือการใช้มือ หากใช้สครับผิวหรือใยบวบ อย่าขัดแรงเกินไป

2. ทำความสะอาดจากหัวจรดเท้า ใช้สบู่ก้อนธรรมดาหรือสบู่เหลว ทำความสะอาดร่างกายจากบนลงล่าง ซึ่งไม่ควรใช้สบู่และน้ำยาทำความสะอาดที่มีฤทธิ์ต้านจุลชีพมากเกินไปอาจทำให้เกิดการดื้อยาปฏิชีวนะได้

3. ทำความสะอาดทุกซอกทุกมุม เช่น รอยพับของผิวหนัง ใต้วงแขน ขาหนีบ และระหว่างนิ้วเท้า

4. ใช้เวลาอาบน้ำเพียง 5 – 10 นาที

5. อาบน้ำทุกวัน แต่ไม่บ่อยเกินไป การอาบน้ำบ่อยเกินไปสามารถทำลายไมโครไบโอมหรือจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ของผิวหนัง เช่น แบคทีเรียและเชื้อราที่มีบทบาทในระบบภูมิคุ้มกันโดยช่วยปัดป้องจุลินทรีย์ที่ติดเชื้อต่าง ๆ

อย่างไรก็ตาม การอาบน้ำสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดทั้งปี เช่น อาจจำเป็นจะต้องอาบน้ำทุกวันในฤดูร้อน และสามารถอาบน้ำวันเว้นวันในฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว

6. ทาครีมเพื่อช่วยรักษาความชื้น เมื่อเช็ดตัวให้แห้งแล้ว ควรทาครีมทาผิวที่มีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์

ขอบคุณที่มาจาก Verywellhealth Healthline

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน