เทพเจ้าด้ายแดง ขอพรเรื่องความรัก โสดสนิท แอบปิ๊งใคร หรือขอให้รักกันยืนยาว มีคำอธิษฐานเฉพาะ

ช่วงเทศกาลวาเลนไทน์ นอกจากของขวัญแทนใจที่ต้องจัดหามาเอาใจคนรัก พ่อ-แม่ และคนในครอบครัว การขอพรกับองค์เทพเจ้าแห่งความรักก็เป็นที่นิยมทั้งในกลุ่มคนโสด และไม่โสด

อาจารย์คฑา ชินบัญชร หรือ เขมชาติ ปริญญานุสรณ์ นักพยากรณ์ไพ่ยิปซีและฮวงจุ้ยเบอร์อันดับต้นๆของประเทศ เชิญชวนสักการะผู้เฒ่าจันทรา “เทพเย่วโหลว” เทพแห่งด้ายแดง สำหรับขอพรเรื่องความรัก

โดยได้อัญเชิญ “เทพเย่วโหลว” ซึ่งทำพิธีเบิกเนตรที่ฮ่องกง มาประดิษฐานไว้ที่ เดอะ ล้ง 1919 ริเวอร์ไซด์ เฮอริเทจ เดสติเนชั่น ย่านคลองสาน ริมแม่น้ำเจ้าพระยา

เทพเย่วโหลว เป็นองค์เทพศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้คนนิยมไปสักการะ และเป็นที่รู้จักของคนไทยอย่างมากที่ไปไหว้ขอพรที่วัดหว่องไทซิน หรือวัดหวังต้าเซียน บนเกาะเกาลูน เนื่องจากมีเทพเจ้าที่สำคัญมากมาย เชื่อกันว่าหากได้มาขอพรจะสมปรารถนา

และยังมีชื่อเสียงมากเรื่องการขอพรในเรื่องความรักด้วย เนื่องจากมีเทพเจ้าเย่วโหลว ที่มีตำนานเล่าขานว่าเป็นผู้ผูกด้ายแดงให้คู่รักครองคู่กันไปนานๆ

 

อาจารย์คฑา เผยว่า การขอพรกับองค์เทพเย่วโหล่ว เป็นการขอพรให้ได้พบเนื้อคู่ ซึ่งอาจอยู่มุมไหนของโลกก็ได้ และเนื่องจากบริวารของท่านมีผู้ชายและผู้หญิง ทำให้ท่านเป็นเทพที่เป็นทั้งขวัญใจวัยรุ่นในยุค 5G และ LGBT ด้วย

ดังนั้น ผู้คนทุกเพศ ไม่ใช่แค่หญิง-ชาย เป็นชายรักชายก็ไปขอพรผูกด้ายแดงกับบริวารผู้ชายของท่านแทน

สำหรับตำนานองค์เทพเย่วโหลว จริงๆ แล้วเกิดจากหลักวิทยาศาสตร์ คนไทยเมื่อมองขึ้นไปบนดวงจันทร์ จะมองเห็นเป็นกระต่าย แต่คนจีนเมื่อมองขึ้นไปจะจินตนาการเห็นเป็นผู้เฒ่าถือคัมภีร์ เห็นเป็นเงา เพราะเขาอยู่คนละซีกโลกกับเรา

จึงผูกเรื่องราวว่า นานมาแล้วชายหนุ่มกับหญิงสาวรักกันมาก ครั้นหญิงสาวมาด่วนจากไป แต่ด้วยความดีของหญิงสาวผู้นั้นเลยไปเป็นพระจันทร์อยู่บนฟากฟ้า ชายหนุ่มก็ปฏิญาณว่าจะไม่มีใคร ซึ่งทั้งสองเคยสัญญาเอาไว้ว่า แม้ห่างไกลกันคนละฟากฟ้า แต่หัวใจจะผูกอยู่ด้วยกันชั่วฟ้าดินสลาย

ชายหนุ่มเลยบำเพ็ญเพียรตบะอยู่นานหลายปี ซึ่งหญิงสาวคนรักจะมาหาเขาเดือนละครั้งในวันที่พระจันทร์เต็มดวง คือเมื่อสำเร็จเป็นเซียนแล้ว เทพยดาเห็นใจยกทั้งเขาและคนรักขึ้นไปอยู่บนดวงจันทร์ชั่วฟ้าดินสลาย พร้อมมอบหมายคอยจดชื่อคนที่ไร้คู่ แล้วก็เอาด้ายแดงผูกกับรองเท้าให้มาหากัน

โดยมีรหัสญาณ คือ การนำนิ้วนางกับนิ้วโป้งอยู่ด้วยกัน แล้วนำนิ้วก้อยสอดประสานกัน แล้วนำ ด้ายแดง มาถือไว้ระหว่างนิ้วชี้และนิ้วกลางทั้งสองข้าง พร้อมอธิษฐาน ท่องบทสวด “โอมจันทรา ศศิประภา นะมะฮา. นะโม ไท้อิม ผู่สัก ม่อ ฮ่อ สัก”

ตั้งจิตอธิษฐานขอพรกับ “เทพเจ้าแห่งด้ายแดง” ว่า ข้าพเจ้าชื่อ…….ขอกราบสักการะบูชาแด่องค์เทพเย่วโหลว ผู้เฒ่าจันทรา องค์ไท้อิม จันทราเทพ จันทราเทวี ผู้ให้แสงสว่างในยามราตรี ผู้ประทานความสุขสงบร่มเย็นมั่งคั่งอุดมสมบูรณ์ ผู้ประทานความรักที่ยั่งยืน ตราบใดแสงจันทร์สาดส่องในยามราตรี ตราบนั้นหัวใจของข้าพเจ้าเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักชั่วฟ้าดินสลาย

จากนั้น เลือกกล่าวอธิษฐานจิตต่อท้ายให้เหมาะกับสถานภาพของตัวเอง

คนโสด (ที่มีคนที่หมายปอง)

ขอท่านได้โปรดประทาน….(ระบุชื่อบุคคลที่หมายปอง)…มาเป็นคนรักของข้าพเจ้าด้วยเถิด ภายใน…(ระบุระยะเวลา)…

คนโสดสนิท

ขอท่านได้โปรดประทานพร นำด้ายแดงของข้าพเจ้าไปผูกคนที่เป็นบุพเพสันนิวาสของข้าพเจ้า มาพบเจอกันโดยเร็ว ด้วยเถิด ภายใน…(ระบุระยะเวลา)…

คนมีคู่

ขอท่านได้โปรดประทานพร ขอให้ความรักของข้าพเจ้ามั่นคงยั่งยืน / ขอให้ได้แต่งงาน

ทั้งนี้ ผู้ที่เคยขอพรความรักแล้วอาจไม่สมหวังนั้น อ.คฑา กล่าวว่า ที่ขอแล้วไม่สมหวังนั้น เป็นเพราะไปขอทุกครั้ง เปลี่ยนคนตลอดหรือไม่

การขอคู่ จริงๆ เราควรระบุชื่อ แต่คนๆนั้น ต้องไม่มีเจ้าของ ซึ่งในการระบุชื่อนั้น เทพเย่วโหล่วจะดูเองว่าเขามีคู่หรือยัง และเขารักคุณหรือเปล่า ถึงจะประทานพรให้สมหวัง ซึ่งถ้าเราได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด ก็ถือเป็นบุญวาสนาเรา

การขอพรแล้วสมหวัง จริงๆ คือ จิตของเรามีพลัง อาจเป็นไปได้ที่คนที่เรารักก็กำลังคิดถึงเราเหมือนกัน จึงมีแรงดึงดูดกัน ซึ่งเราสามารถระบุชื่อคนที่ชอบได้ เพราะการระบุชื่อ เป็นการขอโดยเจตนาและจงใจ แรงอธิษฐานก็จะชัดเจน ก็เป็นบุญวาสนาว่าจะได้หรือไม่ได้

สำหรับของไหว้ที่นี่ไม่มีจำหน่าย แล้วแต่ศรัทธา มีเพียงด้ายแดงวางไว้ให้ เช่นเดียวกับที่วัดหวังต้าเซียน มีแค่ด้ายแดงวางไว้ ธูปเทียน ไม่จำเป็น แม้แต่เทียนแดงก็ไม่ต้องใช้

ใช้เพียงรหัสญาณ หรือคำกล่าวที่บอกไว้ และจิตที่มุ่งตรงต่อองค์เทพเย่วโหลวและจันทราเทพ ตลอดจนจิตที่มุ่งตรงกับคนรัก

สามารถไปไหว้ขอพรได้ที่ เดอะ ล้ง 1919 ริเวอร์ไซด์ เฮอริเทจ เดสติเนชั่น ย่านคลองสาน ระหว่างเวลา 12.00 น. -20.00 น. ทุกวัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน