หมดแล้วความเป็นพ่อ! ชายจีนถูกจับในข้อหาฉ้อโกง หลังบังคับลูกสาวพิการแต่งงานกับชาย 3 คน หวังค่าสินสอด หากำไรจากงานแต่ง

เนื่องมาจากประเทศจีนประสบปัญหาขาดแคลนประชากรเพศหญิงและมีอัตราการเกิดของเด็กเพศหญิงน้อยอันเป็นผลลัพธ์มาจากนโยบายลูกคนเดียวและความนิยมเด็กเพศชาย แม้ประธานาธิบดี สี จิ้นผิงมุ่งเน้นไปที่นโยบายลูก 3 คนก็ยังไม่เป็นผล แต่ปัญหาของคู่สมรสชาวจีนรุ่นใหม่ก็ยังยอดการแต่งงานลดลงต่อเนื่อง ประชากรชายหลายคนมีปัญหาในการหาภรรยา

ทำให้มีบางคนหัวหมอพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส ให้ลูกสาวตนเองเป็นเครื่องมือในการสร้างรายได้ส่วนตัว ดังกระแสไววัลในประเทศจีนกำลังแห่ประณามและวิพากษ์วิจารณ์กันสนั่นถึง กรณีข่าวชายคนหนึ่งถูกจับในข้อหาบีบบังคับให้ลูกสาวที่มีภาวะบกพร่องทางสติปัญญาแต่งงานกับชาย 3 คน เพื่อหวังเงินสินสอดทองหมั้น

เซาธ์ไช่น่ามอร์นิงโพสต์รายงาน เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในภาคกลางของจีน โดยชายประกอบอาชีพทำไร่ทำนาแซ่เซี่ยจากหมู่บ้านในเมืองเหลียนหยวน มณฑลหูหนานขายลูกสาวทุพพลภาพ ของตนเองให้ชาย 3 คนตลอดหลายปี เพื่อรับเงินค่าสินสอดเจ้าสาวจากครอบครัวฝ่ายชาย

ชายแซ่เซี่ย เริ่มหลอกลวงผู้อื่นว่า ลูกสาวอายุมากกว่า 20 ปี และเป็นผู้ใหญ่โดยชอบด้วยกฎหมายเมื่ออายุ 20 ปี ทำให้เกิดการล่อลวงให้ฝ่ายชายทั้ง 3 คนตกลงแต่งงานกับลูกสาวตั้งแต่ปี 2018 ถึง 2021 ทั้งที่จริง ๆ แล้ว ตามบัตรประจำตัวของเธอเกิดในเดือนมกราคม 2548 ซึ่งมีอายุเพียง 17 ปีเท่านั้น พี่ชายของหนึ่งในเจ้าบ่าวที่ถูกหลอกชื่อเฉินกล่าว

อีกทั้งครอบครัวของเจ้าบ่าวที่จะจ่ายเงินจำนวนมากให้กับครอบครัวของเจ้าสาว สำนักข่าวจีนรายงานว่า ชายแซ่เซียได้รับค่าสิดสอดมากกว่า 90,000 หยวน (ราว 476,135 บาท) จากครอบครัวของนายเฉิน ซึ่งน่าจะเป็นการแต่งงานครั้งที่สองของฝ่ายหญิง

เมื่อครอบครัวของนายเฉินจับได้ว่าฝ่ายหญิงแต่งงานซ้อนกับชายอีกคนหนึ่งในเวลาต่อมาจึงขอคืนค่าสิดสอด แต่ชายแซ่เซี่ยปฏิเสธที่จะคืนเงินทั้งหมด ทางครอบครัวจึงแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ นายเฉินกล่าวว่า ครอบครัวของเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเพราะฝ่ายหญิงอาศัยอยู่กับพ่อแม่ของเธอหลังจากงานแต่งงานจัดขึ้นเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากพี่ชายของเขาใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการทำงานเป็นแรงงาน

เขากล่าวว่าพี่ชายของเขาไม่สามารถหาภรรยาได้เนื่องจากฐานะทางการเงินที่ย่ำแย่ของครอบครัว แต่สามารถจ่ายค่าสินสอดของนายเซี่ยที่ไม่แพงจนเกินไปได้ เพราะเด็กสาวมีภาวะบกพร่องทางสติปัญญา “ทั้งคู่เจอกันในงานหาคู่ของหมู่บ้าน เธอยังสาวและอุดมสมบูรณ์ ซึ่งหายากในชนบท” เฉินกล่าว

นายเฉินเล่าว่า ทั้งสองได้จัดงานแต่งงานและงานเลี้ยงในหมู่บ้าน เฉินเฟิงกล่าวว่าพิธีหมั้นจะเป็นตัวแทนของการแต่งงานระหว่างทั้งสองฝ่าย และเธอจะรอเพียงอายุของเธอบรรลุนิติภาวะเพื่อรับใบรับรอง ครอบครัวซื้อทองคำ 15,000 หยวน (ราว 79,441 บาท) และอื่น ๆ มีมูลค่ารวมกว่า 120,000 หยวน (ราว 635,528 บาท) ซึ่งเป็นเงินออมทั้งหมดของพ่อ

ชายแซ่เซี่ยอ้างว่า ภรรยาก็ป่วยเป็นภาวะพกพร่องทางจิตใจเช่นกัน ซึ่งเขาได้รับเงินหลายหมื่นหยวนจากชายอีกสองคนที่เขาขายลูกสาวให้แต่งงานด้วย อย่างไรก็ตาม เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่เข้าจับกุมเขาข้อหาฉ้อโกงในเดือนมีนาคม ชายแซ่เซี่ยกล่าวว่าเขาได้ใช้เงินไปหมดแล้ว

คดีดังกล่าวถูกส่งเรื่องไปยังอัยการเพื่อตรวจสอบและตัดสินใจว่าจะตั้งข้อหาชายแซ่เซี่ยในข้อหาหลอกลวงการแต่งงานเพิ่มอีกหนึ่งข้อหาด้วยหรือไม่ ส่วนสาววัยรุ่นและแม่ของเธอถูกนำตัวไปบ้านพักสงเคราะห์ นับตั้งแต่เรื่องราวดังกล่าวถูกแชร์ก็เกิดปฏิกิริยาเชิงลบอย่างมากทางออนไลน์ โดยมีชาวเน็ตจำนวนมากเข้ามาแสดงความคิดเห็น “เขาไม่คู่ควรที่จะเป็นพ่อ”

ภาพจาก The Paper

หนังสือพิมพ์เดอะเปเปอร์รายงาน ครอบครัวที่ 3 ที่ได้หมั้นกับฝ่ายหญิง วางแผนที่จะแต่งงานกับ
เธอต่อ แต่แผนกกิจการพลเรือนไม่ยินยอมพร้อมกล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่จะปกป้องชีวิตของฝ่ายหญิงและให้ได้รับการศึกษาพิเศษในสถาบันสวัสดิการสังคม พร้อมจัดการเรื่องราวต่าง ๆ อย่างถูกกฎหมาย

แม้ว่ากฎหมายของจีนจะกำหนดให้ผู้หญิงสามารถแต่งงานได้หลังจากอายุ 20 ปีเท่านั้น แต่เป็นเรื่องปกติในพื้นที่ชนบทที่จะแต่งงานโดยพฤตินัยสำหรับคู่รักที่อายุน้อยกว่า จากนั้นจึงยื่นขอจดทะเบียนสมรสอย่างเป็นทางการเมื่อบรรลุนิติภาวะแล้ว แต่คดีความดังกล่าวยังคงเป็นปัญหาที่แพร่หลายในชนบทของจีนที่สตรีในชนบทที่ใช้เป็นเครื่องมือในการหาเงินโดยมุ่งเป้าไปที่ผู้ชายในวัยที่สามารถแต่งงานได้ซึ่งกำลังดิ้นรนหาคู่ครอง

สำหรับครอบครัวที่ยากจน ซึ่งไม่เป็นที่ต้องการของในตลาดการแต่งงาน หญิงจีนส่วนใหญ่ไม่เหลียวแล ผู้ที่มีความเจ็บป่วยทางจิตหรือทุพพลภาพจึงกลายเป็นทางเลือกสุดท้ายสำหรับผู้ชายเพื่อสร้างทายาท

ขอบคุณที่มาจาก Scmp

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน