วัดท่าไม้ ผู้บริหารเดอะสเฟีย ศรัทธาแรง เผยเป็นมากกว่าสติกเกอร์ติดท้ายรถ

วัดท่าไม้ เรื่องของสติกเกอร์ “วัดท่าไม้” เชื่อว่าหลายคนรู้จักกันอยู่แล้ว เพราะเป็นของวัดที่เหล่าดาราคนดัง นักธุรกิจ และนักการเมืองจำนวนมากหลั่งไหลมาทำบุญและดูดวงกัน จนเกิดกระแสศรัทธาแพร่ขยายไปเกิน อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร มีจำนวนลูกศิษย์ลูกหามากมายทั่วประเทศ และสติกเกอร์นี้ก็ได้กลายเป็นสัญลักษณ์เพื่อประกาศตัวว่าเป็นลูกศิษย์วัดแห่งนี้ โดยมากจะบูชาไปติดกันที่กระจกท้ายรถ จนกลายเป็นสิ่งที่คนที่สัญจรบนท้องถนนเห็นจนคุ้นตากัน เรียกว่า เห็นบ่อยจนนับจำนวนคันรถที่ติดและจำนวนครั้งที่เห็นกันไม่ไหว แต่สติกเกอร์นี้เป็นมากกว่าวัตถุมงคล อัญรินทร์ ชลสายพันธ์ นักธุรกิจในท้องที่ ผู้พัฒนาโครงการคอมมูนิตี้มอลล์เดอะสเฟีย เพชรเกษม จะมาให้ข้อมูลอีกด้านหนึ่งของสติกเกอร์ “วัดท่าไม้” ที่อาจยังมีคนไม่คิดถึง


อัญรินทร์ ชลสายพันธ์ กรรมการบริหาร เดอะสเฟีย เพชรเกษม (The Spheres Phetkasem) เล่าว่า “พระอาจารย์ อุเทน สิริสาโร เจ้าอาวาสวัดท่าไม้องค์ปัจจุบัน ได้ไอเดียมาจากที่วัดหลวงพ่อโสธร จ.ฉะเชิงเทรา จากสติกเกอร์ ‘อุโบสถหินอ่อน’ ที่ใครเห็นก็รู้ทันทีว่าคนในรถคันนั้นๆ เคยไปไหว้หลวงพ่อโสธร จึงอยากทำให้วัดท่าไม้บ้าง โดยใช้ตัวอักษรคำว่า ‘วัดท่าไม้’ ที่ทางวัดทำแจกแก่ลูกศิษย์ลูกหา อีกทั้งท่านยังได้นำสติกเกอร์ทุกแผ่นเข้าพิธีอธิษฐานปลุกเสกมีคุณสมบัติเหมือนยันต์แผ่นหนึ่ง ให้ลูกศิษย์ปลอดภัยแคล้วคลาดจากอุบัติเหตุตลอดการเดินทางบนท้องถนน และอีกหนึ่งเกร็ดคติธรรมที่ท่านได้แฝงไว้ด้วยคือเวลาลูกศิษย์ลูกหาขับรถ อาจจะมีหงุดหงิดมีโมโหกระทบกระทั่งกันบ้างจากผู้สัญจรบนถนน แต่ถ้าหากเห็นสติกเกอร์วัดท่าไม้แล้ว จิตอันโมโหโกรธาก็จะลดลงหรือหายไป และเมื่อในบางครั้ง หากเห็นว่ารถคันอื่นที่ติดสติกเกอร์นี้ประสบปัญหาอยู่บนท้องถนน ด้วยการเป็นลูกศิษย์วัดเดียวกัน เลื่อมใสธรรมะเหมือนกัน ก็จะได้ให้ความช่วยเหลือกัน เรียกว่าได้เป็นทั้งกุศโลบาย เป็นเครื่องเตือนใจ และแฝงคติธรรม”

แต่เมื่อมีโอกาสได้พูดคุยกับพระสมุห์จารุตอาภากโร หรือ “หลวงพี่โซ่” เลขานุการเจ้าอาวาส เพิ่มเติม อัญรินทร์ ถึงมองว่าสติกเกอร์ “วัดท่าไม้” มีนัยสำคัญมากกว่านั้น เพราะเป็นสัญลักษณ์ที่สะท้อนถึงศักยภาพของ จ.สมุทรสาคร และเป็นสื่อประชาสัมพันธ์ที่ทรงอิทธิพลมีส่วนช่วยนำรายได้เข้ามาให้จังหวัด

อัญรินทร์ เล่าต่อว่า “พระอุโบสถมหาปรินิพพานของวัดท่าไม้ ที่เป็นอุโบสถหลังใหม่ ซึ่งได้รับการออกแบบอย่างอ่อนช้อยวิจิตรตระการตา เป็นศิลปะประยุกต์ ผสมผสานระหว่างล้านนา พม่า และกรุงศรีอยุธยา ได้รับการจัดอันดับจากการท่อง เที่ยวแห่งประเทศไทยให้เป็นหนึ่งในห้าวัด unseen ของ จ.สมุทรสาคร เป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ของวัดที่ช่วยดึงดูดลูกศิษย์ลูกหา คนในพื้นที่ ผู้มีจิตศรัทธา นักท่องเที่ยวสายบุญ จนถึงนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ทุกช่วงวัยให้หลั่งไหลมาที่วัดท่าไม้ โดยหลวงพี่โซ่บอกว่าในวันธรรมดามีผู้คนมาเยี่ยมเยียนวัดราว 5 พันคน และสุดสัปดาห์มีมากถึง 2 หมื่นคน ยิ่งเป็นช่วงวันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์ ยอดจะเพิ่มเป็น 6-7 หมื่นคน นอกจากนี้ ทางวัด ในฐานะศูนย์ปฏิบัติธรรมแห่งที่ 7 ของ จ.สมุทรสาครยังได้จัดคอร์สปฏิบัติธรรมอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งในแต่ละปีมีคนเข้าร่วมรวมๆ แล้วมากถึง 3-4 แสนคน”

“นอกจากคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวชาวไทยแล้ว ยังมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาเที่ยวและมาทำบุญที่วัดไม่ขาดสาย ซึ่งที่มักจะพบเห็นจะเป็นนักท่องเที่ยวชาวสหรัฐ เยอรมัน สเปน ออสเตรเลีย ส่วนในเอเชีย ก็จะมีจีน ฮ่องกง อินเดีย มาเลเซีย และสิงคโปร์ เป็นต้น ซึ่งส่วนใหญ่จะมาเป็นกลุ่มเล็กๆ หรือครอบครัว แต่จะมีชาวมาเลเซียและสิงคโปร์ ที่มาเป็นคณะใหญ่ อาจเป็นเพราะพระอาจารย์อุเทนมีลูกศิษย์เป็นชาวมาเลเซีย ทำให้มีการบอกต่อถึงวัดท่าไม้ปากต่อปาก ส่วนชาวพม่าไม่ต้องพูดถึง เพราะมีอาศัยใน จ.สมุทรสาครเป็นจำนวนมาก และมีความเลื่อมใสในพุทธศาสนาอย่างสูง มากันทุกเสาร์อาทิตย์”

อัญรินทร์ ขยายความต่อจากสิ่งที่หลวงพี่โซ่เล่าให้ฟังว่า “พระอาจารย์อุเทนไม่เคยคิดจะทำให้วัดท่าไม้เด่นดังอะไร ไม่เคยใช้สื่อโฆษณามากมาย หรืออวดอ้างอะไรให้ผู้คนหลงเชื่อหลงศรัทธา ท่านต้องการเพียงให้วัดเป็นเหมือน one-stop-service สำหรับพุทธศาสนิกชน ที่ได้มาใช้เวลากับพุทธศาสนา มาทำบุญ ทำใจให้สงบ ได้ทั้งวันภายในวัดท่าไม้แห่งนี้ ไม่ว่าใครจะนับถือ หรือมีจิตศรัทธาในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใดก็ตาม สื่อที่ใช้ในการเผยแพร่ข่าวสารของวัดก็มีแต่เฟสบุ๊ค (facebook.com/ wattamai45) ที่ปัจจุบันมียอดผู้ติดตามมากกว่า 1 ล้านคน และญาติโยมที่มีจิตศรัทธาพูดกันปากต่อปาก ซึ่งก็รวมถึงเหล่าศิลปินคนดัง นักธุรกิจ นักการเมือง ที่มาร่วมเป็นโยมอุปัฏฐากและอุปัฏฐายิกา ส่วนในปีหนึ่งๆ ทางวัดก็ไม่ได้จัดกิจกรรมหรืองานประเพณีอะไรพิเศษ นอกเหนือไปจากวันสำคัญทางศาสนา ถ้าจะมีที่คนพูดถึงกันมากๆ ก็คงเป็นวันดาวย้าย ซึ่งปีหนึ่งจะมีแค่ 3-4 ครั้ง ซึ่งลูกศิษย์ลูกหาก็จะมากราบไหว้พระราหูเพื่อขอพรกัน”

วัดท่าไม้มุ่งมั่นที่จะสร้างสังคมที่พุทธศาสนิกชนสามารถมาค้นพบความสงบสุขตามหลักธรรมทางพระพุทธศาสนามาอย่างต่อเนื่องยาวนาน ทำให้ผู้คนตอบรับด้วยจิตศรัทธาอย่างล้นหลาม การที่วัดจัดทำสติกเกอร์ “วัดท่าไม้” ขึ้นมา จึงได้รับความนิยมอย่างมาก จนกลายเป็นกระแสไวรัลในที่สุด ซึ่งทุกวันนี้ ทางวัดก็ยังผลิตอยู่เป็นหมื่นใบต่อครั้ง เพื่อแจกให้ฟรีกับญาติโยมที่มาเยี่ยมเยียนวัดคนละแผ่น ซึ่งขอรับได้ที่ร้านวัตถุมงคล ศาลา และร้านค้าต่างๆ ภายในวัด

อัญรินทร์ กล่าวว่า “สติกเกอร์วัดท่าไม้มีทำขึ้นมาสิบกว่าปีแล้ว ผู้คนก็ยังต้องการอยู่ ซึ่งนั่นหมายถึง เครือข่ายลูกศิษย์วัดท่าไม้ยังคงเติบโตขึ้นทุกวัน จนถึงทุกวันนี้ น่าจะมีผู้คนนำสติกเกอร์นี้ไปเก็บ ไปให้ต่อ หรือนำไปติดที่รถแล้วเป็นแสนๆ คน”

“ในฐานะคนที่ทำธุรกิจอสังหาฯ อย่างคอมมูนิตี้มอลล์ เดอะสเฟีย เพชรเกษม ที่อ้อมน้อย ซึ่งเป็นคอมมูนิตี้มอลล์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของ จ.สมุทรสาคร คงปฏิเสธไม่ได้ว่าวัดท่าไม้มีอิทธิพลต่อสังคมและเศรษฐกิจของจังหวัด รวมถึงธุรกิจต่างๆ ของผู้คนในพื้นที่โดยตรง ซึ่งด้วยระยะห่างระหว่างเดอะสเฟีย เพชรเกษม และวัดท่าไม้ เพียงไม่ถึง 20 นาที ทำให้ผู้มาทำบุญและนักท่องเที่ยวจากทุกที่สามารถมาใช้บริการของโครงการได้อย่างสะดวกสบาย ไม่ว่าจะมารับประทานอาหาร หรือซื้อของฝาก”

“ยิ่งถ้าทางวัดท่าไม้สร้างวิหารฟ้าบันดาล สำหรับกราบไหว้บูชาเจ้าแม่กวนอิมแล้วเสร็จในอนาคตก็จะยิ่งดึงดูพุทธศาสนิกชน ชาวไทยจีนให้เดินทางเข้ามาที่ จ.สมุทรสาครมากยิ่งขึ้น ซึ่งอาจจะได้เห็นจำนวนสติกเกอร์วัดท่าไม้ติดรถมากขึ้นอีก นี่ยังไม่รวมถึงจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจากประเทศเพื่อนบ้านและในภูมิภาคเอเชียนี้ ที่หลั่งไหลเข้ามาเพิ่มขึ้น เดอะสเฟีย เพชรเกษม (www.thespheres-phetkasem.com) ก็พร้อมที่จะเป็นที่หมายให้บริการกับชาวสมุทรสาครและผู้มาเยี่ยมเยียนทุกคนอย่างเต็มรูปแบบภายในกลางปี 2567 ทั้งในฐานะห้องรับแขก ที่แวะพัก และที่หมายของการเดินทาง” อัญรินทร์ สรุป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน