กรมวิชาการเกษตรแจ้งเกิดมะนาวพันธุ์ดี “กวก. พิจิตร 2” เมล็ดน้อย เปลือกบาง โตไว ให้ผลผลิตเร็ว ตอบโจทย์โดนใจเกษตรกร
หลังจากที่ผ่านมาศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรพิจิตร กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประสบความสำเร็จในการวิจัยปรับปรุงพันธุ์ “มะนาวพิจิตร 1” ให้มีความทนทานต่อโรคแคงเกอร์ โรคที่มีผลต่อพืชหลายชนิดในสกุลส้ม
เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย Xanthomonas axonopodis ทำให้เกิดแผลบนใบ ลำต้นและผลของต้นส้ม มะนาว มะกรูด และส้มโอ ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญของเกษตรกร
เนื่องจากเชื้อสามารถเข้าทำลายได้ทุกส่วนของพืช ทำให้ต้นทรุดโทรม ใบร่วง ผลผลิตลดลง และไม่มีคุณภาพ
การวิจัยปรับปรุงพันธุ์ทำให้มะนาวพันธุ์พิจิตร 1 ให้ทนทานต่อโรคชนิดนี้จึงได้รับเสียงตอบรับจากเกษตรกรทั่วประเทศดีมาก
อย่างไรก็ตาม นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตรกล่าวว่า แม้จะสามารถแก้ไขปัญหาการระบาดของโรคแคงเกอร์ให้เกษตรกรได้ แต่เนื่องจากมะนาวพันธุ์พิจิตร 1 ยังมีจำนวนเมล็ดต่อผลมาก เฉลี่ย 29.4 เมล็ด
Advertisement
ดังนั้น ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรพิจิตรจึงได้ปรับปรุงมะนาวพันธุ์พิจิตร 1 โดยการเหนี่ยวนำให้เกิดการกลายพันธุ์ ด้วยการฉายรังสีแบบแกมมาเพื่อให้มีเมล็ดน้อย เปลือกบาง การเจริญเติบโตดี ผลผลิตสูง
เหมาะสมสำหรับการบริโภคและปลูกเป็นการค้า เพื่อส่งเสริมให้แก่เกษตรกรและผู้สนใจสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ต่อไป
น.ส.มนัสชญา สายพนัส นักวิชาการเกษตรชำนาญการพิเศษ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรพิจิตร นักวิจัยผู้ปรับปรุงพันธุ์ เล่าให้ฟังว่าได้นำต้นมะนาวพันธุ์พิจิตร 1 อายุ 3 เดือน หลังจากเสียบยอดไปฉายรังสีแกมมาปริมาณรังสี 5 ระดับ จำนวนระดับละ 10 ต้น
หลังฉายรังสีนำไปปลูกลงแปลง ปล่อยให้กิ่งด้านล่างเจริญเติบโตประมาณ 5 ตา ใช้วิธีตัดแต่งกิ่ง ทำการตัดยอดกิ่งรุ่น M1V0 ปล่อยให้แตกกิ่งเพื่อเจริญเป็นรุ่น M1V1 (กิ่ง M1V1 คือกิ่งที่แตกมาจากกิ่งที่ฉายรังสี) เมื่อกิ่ง M1V1 เจริญแตกตาใหม่ ประมาณ 5 ตา ตัดกิ่งเพื่อให้แตกกิ่งเป็นรุ่น M1V2 โดยตัดกิ่งจนถึงรุ่น M1V3
จากนั้นปล่อยให้กิ่งเจริญเติบโต เมื่อมะนาวให้ผลผลิตจึงติดป้ายชื่อ แถวที่ ต้นที่ กิ่งที่ และระดับรังสี ซึ่งมีจำนวนกิ่งที่ให้ผลผลิต 249 กิ่ง คัดเลือกเหลือ 121 สายต้น ทำการคัดเลือกซ้ำ
โดยคัดเลือกจากการตรวจสอบคุณภาพผลผลิตแต่ละสายต้นตามหลักเกณฑ์ที่ตั้งไว้คือ จำนวนเมล็ดน้อยกว่า 15 เมล็ดต่อผล เปลือกบาง ให้ผลผลิตและคุณภาพดี จำนวน 24 สายต้น
ดำเนินการที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรพิจิตร เมื่อปี 2557-2561 ปลูกเปรียบเทียบ มะนาวพันธุ์พิจิตร 1 ที่ผ่านการฉายรังสี 24 สายต้น มีพันธุ์พิจิตร 1 เป็นพันธุ์เปรียบเทียบ
ต่อมาในปี 2562-2564 ปลูกทดสอบ 4 สถานที่ ได้แก่ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรพิจิตร ศูนย์วิจัยพืชสวนสุโขทัย แปลงเกษตรกรจังหวัดพิจิตร และแปลงเกษตรกรจังหวัดเพชรบุรี
พบว่ามะนาวสายต้น PCT1-07-01-4 ที่ระดับรังสี 108 เกรย์ การเจริญเติบโตดี เมล็ดน้อย เปลือกบางกว่าพันธุ์พิจิตร 1
จึงเสนอขอรับรองพันธุ์มะนาวสายต้น PCT1-07-01-4 ซึ่งเป็นพันธุ์ที่ได้จากการฉายรังสีแกมมาแล้ว คัดเลือกลักษณะเด่นตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้เป็นพันธุ์แนะนำ
โดยใช้ชื่อว่า “มะนาวพันธุ์ กวก.พิจิตร 2”
มะนาว “กวก.พิจิตร 2” ผ่านการพิจารณารับรองพันธุ์ในเดือนส.ค.2566
มีลักษณะเด่น เจริญเติบโตเร็ว ให้ผลผลิตเร็ว เริ่มให้ผลผลิตเมื่ออายุ 8-12 เดือน จำนวนเมล็ดต่อผลเฉลี่ย 1.97 เมล็ด น้อยกว่าพันธุ์พิจิตร 1 ที่มีจำนวนเมล็ดต่อผลเฉลี่ย 24.7 เมล็ด
ความหนาเปลือกเฉลี่ย 1.78 มิลลิเมตร น้อยกว่าพันธุ์พิจิตร 1 ความหนาเปลือกเฉลี่ย 2.36 มิลลิเมตร และให้ผลผลิตดกเมื่ออายุต้น 3 ปีขึ้นไปเฉลี่ย 1,050 กิโลกรัมต่อไร่
“ศวพ.พิจิตรปรับปรุงพันธุ์มะนาวพันธุ์พิจิตร 2 โดยการฉายรังสีให้มีเมล็ดน้อยและเปลือกบางลง ในขณะที่ยังคงทนทานต่อโรคแคงเกอร์ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของเกษตรกรและผู้บริโภคมะนาว โดยใช้เวลาในการปรับปรุงพันธุ์ตามหลักวิชาการนานถึง 12 ปี” น.ส.มนัสชญา นักวิจัยผู้ปรับปรุงพันธุ์ระบุ
ภายหลังจากได้รับการรับรองพันธุ์แล้ว ศวพ.พิจิตรได้นำกิ่งพันธุ์มะนาว กวก.พิจิตร 2 ออกแจกจ่ายให้กับเกษตรกร และประชาชนทั่วไป เพื่อนำไปปลูกขยายพันธุ์ต่อเพราะจะช่วยให้เกษตรกรผู้ปลูกมะนาวมีรายได้เพิ่มขึ้น หรือจะนำไปปลูกสำหรับบริโภคในครัวเรือน ก็ประหยัดค่าใช้จ่าย เพราะปลูกง่ายเหมือนพันธุ์พิจิตร 1
ผู้สนใจกิ่งพันธุ์มะนาวพันธุ์พิจิตร 2 สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรพิจิตร โทรศัพท์ 0-5699-0035