แม่ละเมียด สาวไทยขายเค้กในเนเธอร์แลนด์ จากแม่บ้านฟูลไทม์ไร้รายได้สู่แม่ค้าเบเกอรีเงินล้าน ฝึกทำเค้กตอนลูกหลับ ปัจจุบันออเดอร์เยอะเว่อร์

“ช่วงที่ลูกเล็กนะคะ ตอนลูกหลับ ก็ฝึกทําเค้กเองจากยูทูบ ฝึกทํามาเรื่อยๆ เค้กก็พัง ไม่ได้สําเร็จ ไม่ได้สวยงาม พังก็ไม่เป็นไร ก็เรียนรู้ไปก็ฝึกแบบนี้เรื่อยมา”

นภดารา ชะวาเขียว (ลูกปลา) เจ้าของร้านเบเกอรี “แม่ละเมียด” ในเนเธอร์แลนด์ ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ Thai Story รีวิวชีวิตต่างแดน

อดีตแอร์โฮสเตสผันตัวสู่แม่บ้านไร้รายได้

ก่อนที่จะย้ายมาอยู่ที่เนเธอร์แลนด์ ก็ตอนอยู่ที่เมืองไทยพอเรียนจบปุ๊บก็ไปสมัครงานที่สายการบินแห่งหนึ่งนะคะเป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินแล้วก็ทําอยู่ได้ประมาณ 3 ปีค่ะ แล้วก็เจอกับสามีจากนั้นแต่งงานค่ะแล้วก็ย้ายมาอยู่กับสามีที่เนเธอร์แลนด์ค่ะ

สามีเป็นคนไทยนะคะ เค้าอยู่ที่เนเธอร์แลนด์อยู่แล้ว ช่วงที่เราทํางานเป็นแอร์ฯ เราก็มีไฟลต์บินจากกรุงเทพฯ มาอัมสเตอร์ดัมค่ะ แล้วพอดีว่าสามีเค้าเป็นเพื่อนกับรุ่นพี่ของลูกปลาเลยได้มารู้จักกัน

จุดเริ่มต้นมาอยู่เนเธอร์แลนด์

พอแต่งงานแล้วก็ย้ายมาอยู่ที่เนเธอร์แลนด์ในเมืองหลวงเลย อัมสเตอร์ดัมนะคะ แล้วก็สามีทําร้านอาหารไทยของตัวเอง อยู่ในเมืองอัมสเตอร์ดัม ช่วงที่ย้ายมาแรกๆ ก็ไม่ได้ทําธุรกิจอะไรเป็นของตัวเองเลยนะคะ คือมาอยู่ด้วยกันกับสามีแล้วก็ช่วยงานค่ะ ช่วยงานในร้านอาหาร แล้วช่วงนั้นคือท้องด้วย ท้องลูกคนแรกเลย ก็ช่วยงานช่วยเสิร์ฟช่วยทํางานอยู่ในร้านนะคะ จนแบบจนจนคลอด พอคลอดลูกปุ๊บเราก็อยู่บ้านแบบเต็มตัว งานที่ร้านก็ไม่ได้มาช่วยนะคะ ก็เลี้ยงลูกอย่างเดียวเลยเป็นคุณแม่ฟูลไทม์แบบเต็มตัวเลยนะคะ

ทำไมถึงมาทำเค้กขาย


จุดเริ่มต้นในการมาขายเค้ก ก็คือต้องเล่าก่อนว่าสมัยที่อยู่เมืองไทย เป็นคนที่ชอบกินเค้กชอบกินแบบพวกเบเกอรี ช่วงที่อยู่เมืองไทย เราก็มีความคิดว่า เราอยากจะไปเรียนทําเค้กเพราะว่ามีความฝันอยากจะมีร้านเค้กร้านกาแฟของตัวเอง แต่ว่าช่วงที่ทํางานเป็นแอร์ฯ ค่ะ ก็บินเยอะแล้วก็ไม่ได้มีเวลาว่างที่จะไปเรียนสักทีนึง ช่วงนั้นก็คือไม่ได้เรียน จนกระทั่งแบบย้ายมาอยู่ที่เนเธอร์แลนด์แล้ว พอย้ายมาปุ๊บเราก็ท้องมีลูกพอคลอดลูกเราก็อยู่บ้านใช่ไหม อยู่บ้านทีนี้ทีนี้ก็อยู่บ้านนะคะเลี้ยงลูกเป็นแม่ฟูลไทม์เลยก็มีลูกสองคนนะคะ ห่างกันประมาณสองปีน้องก็ไล่ๆกัน








Advertisement

ช่วงที่ลูกเล็กนะคะ ตอนลูกหลับก็ฝึกทําเค้กเองจากยูทูบ ฝึกทํามาเรื่อยๆ ก็พัง ไม่ได้สําเร็จ ไม่ได้สวยงาม พังก็ไม่เป็นไร ก็เรียนรู้ไปก็ฝึกแบบนี้ มาเรื่อยๆ

บางทีตีเค้กตีไข่อยู่ แล้วแบบลูกร้องเราก็ต้องหยุดตี แล้วก็ไปดูลูก ก็ทําแบบนั้นมาเรื่อยๆ จนกระทั่งลูก2 คน ไปโรงเรียนแบบเต็มเวลา เราก็จะมีเวลามากขึ้นแล้วก็ เลยแบบว่าเอาวะ มาทําแบบจริงจังเลย ก็มีเวลาฝึกแบบจริงจัง แบบฝึกแล้วก็พังแล้วก็ฝึกแล้วก็พังมาเรื่อยๆ

เราก็ปรับปรุง เรียนรู้ แล้วก็หาแบบคือทดลองทุกวิถีทางทําให้มันออกมาแล้วสําเร็จ แล้วก็ปรับสูตรปรับปรุงรสชาติให้ได้แบบที่เราต้องการ ที่นี้พอเราเนี่ยปรับปรุงสูตรรสชาติอะไรได้แบบที่เราต้องการแล้วเราก็อยากจะทําขาย เมนูแรกก็จะเป็นเค้กมะพร้าวอ่อนนะคะ

อันนี้ซิกเนเจอร์เลยแล้วก็จะมีตอนนั้นจะมีชาไทยหน้านิ่มแล้วก็ช็อคโกแลตหน้านิ่ม และอันนี้เป็นความชอบส่วนตัวก็คือ เป็นเค้กวันเกิดค่ะ เค้กวันเกิดที่ตกแต่งเป็นแบบ 3 มิติ เป็นตีมต่างๆ

ด้วยความที่มันจะมีการปั้นตุ๊กตาน้ําตาลสําหรับแต่งเค้ก อันนี้คือชอบมากๆ ก็เลยรู้สึกว่าเอออันนี้อยากไปเรียนเพิ่ม ตอนนั้นอ่ะมีโอกาสได้กลับเมืองไทยนะคะ ก็เลยไปเรียนเฉพาะปั้นตุ๊กตา ไปเรียนปั้นตุ๊กตาจากที่เมืองไทยมานะคะ แล้วกลับมาก็ได้เอามาต่อยอดพร้อมๆ ไปกับการขายเค้กมะพร้าวชาไทย และช็อกโกแลตหน้านิ่มด้วย ตอนนั้นก็คือเราเริ่มต้นมาด้วยเมนูที่ไม่เยอะ หลักๆมีแค่ 3 ตัวนี้ แต่เป็นเมนูที่เรามั่นใจว่าคือเด็ด

ช่วงแรก ทำแจกฝึกฝีมือ

ตอนแรกๆที่เริ่มจะทําขาย ก็คือพยายามโพสต์ขายลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัวของตัวเอง เราจะเป็นคนที่แบบเราจะไม่รอให้มีออเดอร์ก่อนเราจะทําเราจะทําแจกทํากินเองบ้างทําแจกบ้างทําให้คนใกล้ตัวแบบจะเป็นวันเกิดลูก วันเกิดสามี วันเกิดของเพื่อนลูกอะไร เออเราก็แบบไปเสนอกับผู้ปกครองค่ะ ว่าเอาเค้กมั้ยเดี๋ยวเราแบบเราทําให้

เพื่อที่เราต้องการที่จะฝึกวิชาฝึกมือด้วย เออเราก็เลยทําๆ ตอนนั้นไม่ได้คิดเลยว่า แบบเฮ้ยฉันทําแล้วฉันจะได้อะไร อย่างน้อยคือเราอ่ะได้ฝึก แล้วเราได้พัฒนาฝีมือของเราได้เรียนรู้ในงานของเราเข้าใจในงานของเรามากขึ้นนะคะ มันก็ทําให้ผลงานของเรา ฝีมือเรามันก็ได้พัฒนาขึ้นด้วยนะคะ แล้วก็โพสต์ขายในเฟซบุ๊กส่วนตัว เอาจริงๆมันก็ไม่มีออเดอร์เยอะมันก็จะมีก็ขายได้บ้างแบบกรุบกริบเล็กน้อยไม่เยอะเพราะว่าคนก็ไม่ค่อยรู้จักนะคะ

เค้กมะพร้าวอ่อนขายดีอันดับ1 ในเนเธอร์แลนด์

เค้กตัวที่ขายดีที่สุดของแม่ละเมียดเลยก็คือเค้กมะพร้าวอ่อนนะคะ เป็นแบบซิกเนเจอร์เลย เพราะเรารู้สึกว่า เราชอบกินยังไงเราก็อยากจะให้ลูกค้าได้กินของดีๆแบบที่เรากิน แล้วถ้าเป็นเค้กมะพร้าว มันจะต้องอัดแน่นไปด้วยเนื้อมะพร้าวให้มันเยอะๆ กินเข้าไปแล้วคนกินต้องไม่รู้สึกว่าคุณหลอกดาวจะต้องมีเนื้อมะพร้าวแน่นๆ

อันนี้คือคอนเซปต์ตั้งแต่แรกเริ่มที่ตั้งใจทําเค้กมะพร้าวขึ้นมามุ่งมั่นตั้งใจมากว่าเค้กมะพร้าวฉันจะต้องแบบเนื้อมะพร้าวแบบแน่นๆล้นๆเราจะแบบไม่งกนะคะ แล้วเนื้อเค้กจะเป็นเนื้อชิฟฟ่อน มีความนุ่มเบาละลายในปากกินแล้วแบบละมุน

เราอยู่ต่างประเทศ เราไม่สามารถหาแบบสดได้อยู่แล้ว เราก็จะใช้เป็นแบบแช่แข็ง แต่ว่าเลือกค่ะว่า แบบเนื้อดีที่สุดอ่อนที่สุดนิ่มที่สุดเท่าที่เราจะหาได้ซึ่งมันก็มันก็มีนะคะ แล้วก็มียี่ห้อที่เราแบบใช้ประจํา อาจจะราคาสูงนิดนึงแต่ว่าเราอยากให้ลูกค้าได้กินของดีแล้วก็เราก็สู้ค่ะ

รวมไปถึงเค้กรสชาติอื่นๆด้วย ลูกปลาตั้งปณิธานว่า เค้กของแม่ละเมียด คนกิน จะต้องกินเข้าไปแล้วจะต้องไม่ต้องเดาว่ามันคือรสอะไร กินเข้าไปแล้วต้องรู้เลยนะคะ เน้นแบบความเข้มข้น แล้วก็ความพิถีพิถันความใส่ใจในรายละเอียดต่างๆของเรา

ส่วนเค้กวันเกิด ที่เป็นเค้กพวกแบบสเปเชียลที่เป็นเค้กตามสั่งละกันเค้กตามสั่งตั้งปณิธานเอาไว้ในใจว่าเค้กของเราเนี่ยมันจะต้องไม่เป็นแค่เค้กแต่มันจะต้องเป็นเป็นของขวัญเป็นความทรงจําดีๆในวันพิเศษให้กับลูกค้าลูกค้าสั่งไปแล้วเขาจะต้องรู้สึกว่านี่มันไม่ใช่แค่เค้กนะแต่มันคือแบบมันคือความทรงจําดีๆในวันพิเศษของเขาที่เอาไปมอบให้กับคนพิเศษ นอกจากเค้กเราจะเป็นของขวัญมันต้องสวยแล้ว กินแล้วต้องอร่อยด้วย

ลูกค้าคนไทย 99%

ตอนแรกลูกปลายังไม่ชัดเจนในกลุ่มเป้าหมายที่เราจะขาย คือตอนแรกก็คิดว่าก็ขายหมดทุกคนนั่นแหละขายใครก็ได้ ซึ่งตอนนี้เรามาเรียนรู้แล้วว่าเราขายใครก็ได้อ่ะไม่ได้ เพราะว่าตอนช่วงที่โพสต์ขายในเฟซบุ๊กแรกๆ พยายามมากที่จะแบบว่าที่จะโพสต์เป็นทั้งภาษาไทย ภาษาดัตช์ ภาษาอังกฤษมั่วไปหมดเลย จนพอเราทําไปเรื่อยๆ เราก็เริ่มรู้ว่าโอเค กลุ่มเป้าหมายของเราจริงๆอะคือคนไทย เราพยายามที่จะทําแบบสื่อสารกับคนดัตช์แล้วแต่เนื่องจากว่า ภาษาดัตช์ของเรา ไม่ได้แข็งแรงมากพอที่เราจะสื่อสารทุกอย่างออกไปได้แบบร้อยเปอร์เซ็นต์

นอกจากนี้ วัฒนธรรมการกินที่ไม่เหมือนกัน ระหว่างคนไทยกับคนดัตช์ บางที คนดัตช์เค้าอาจจะมีความคิดว่า เค้าไปซื้อเค้กในซูเปอร์มาร์เก็ต มันแค่ราคาแบบเออไม่ถึง 10 ยูโร แล้วทําไมเค้าถึงต้องมาซื้อเค้กเราในราคาที่แบบโอ้โหสูงเนอะ

สมัยนั้นเราเริ่มขายเค้กมะพร้าวก้อนละ 35 ยูโร (1,359 บาท )นะคะ แต่ด้วยความที่ของเราเป็นโฮมเมด เราทําเองทุกขั้นตอน เราไม่สามารถไปขายเค้กในราคาก้อนละ 5 ยูโร หรือ 6 ยูโร แบบในซูเปอร์มาร์เก็ตได้ซึ่งตรงนี้มันอาจจะเป็นความแตกต่าง

เราก็ไม่ได้ว่าอะไรเขา เราเข้าใจ แต่สำหรับคนไทย เราจะคุ้นเคยกับเค้กแบบไทยๆ ที่เราโตมาที่เรากินมาอะไร ซึ่งมันหาในซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไปไม่ได้ นี่คือความเข้าใจที่แตกต่างกัน เพราะฉะนั้นพอทํามาเรื่อยๆ แล้ว เราก็เลยเขาเริ่มเข้าใจว่า โอเค ฉะนั้นเราเนี่ยต้องแบบเราสื่อสารไปเลยตรงๆกับด้วยภาษาไทยของเรานี่แหละร้อยเปอร์เซ็นต์ เราสามารถสื่อสารได้ตรงใจเราร้อยเปอร์เซ็นต์ไปถึงกลุ่มลูกค้าของเราซึ่งก็คือคนไทยค่ะ

ดังนั้นกลุ่มลูกค้าเป็นคนไทย 99% แล้วประมาณ1% จะเป็นคนดัชต์ ที่เค้ามาแบบว่าได้กินเค้กของเราแล้วเค้าชอบจริงๆ บางคนก็มาสั่งเป็นแบบเค้กวันเกิดเป็นน้ําตาลปั้นเป็นตีมให้ลูก

แล้วก็มีพี่คนไทย เค้าก็ได้ตั้งกลุ่มเป็นกลุ่มในเฟซบุ๊ก ชื่อว่า กลุ่มสายกินของอร่อยในเนเธอร์แลนด์ ตอนแรกยอมรับว่า ตัวเองไม่อยากไปเข้ากลุ่มเพราะว่าเหมือนเเบบเป็นคนโลกส่วนตัวสูง ไม่อยากวุ่นวายกับใคร แต่ว่าพอเราแบบนั่งคิดทบทวนอ่ะการที่แบบอ้าวเราอยากจะให้คนลองกินเค้กของเรา เราอยากจะขายเค้กได้ ถ้าเราจะมาโลกส่วนตัวสูง ฉันจะอยู่ในมุมมืด มันคือไม่ได้มันจะไม่มีคนรู้จักเรา เพราะฉะนั้นเราก็เลยโอเคเราก็เลยตัดสินใจไปเข้าร่วมกับในกลุ่มนี้ และมีการส่งแบบเดลิเวอรีด้วย

ฟีดแบคดีเว่อร์ ออเดอร์ทะลัก

พอมีออเดอร์หลังบ้านเยอะ ออเดอร์แบบสเปเชียลจากลูกค้าที่มาสั่งเองเยอะๆ ก็เลยไม่ได้ทําเป็นเดลิเวอรี่แล้ว เพราะว่าทําคนเดียวแล้วมันมันทําไม่ทัน แค่ออเดอร์ที่ลูกค้าสั่งกันมาเองโดยที่เราไม่ต้องไปประกาศ ก็เยอะมากมากแล้วนะคะเยอะมากๆ สําหรับการที่เราทําคนเดียวนะ ล่าสุดที่เปิดเดลิเวอรี่คือเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว เป็นช่วงคริสต์มาส คือเปิดปุ๊บเนี่ยมันเยอะมาก เยอะจนแบบจําได้ว่า อบเค้กไปประมาณ 30 กว่าก้อน เปิด 2 วัน รู้สึกจะเป็นวันที่ 24- 25 ธันวาคม นะคะ

มันเยอะมาก ต่อให้เราจะวางแผนดียังไง มันก็คือไม่ได้นอนอยู่ดี เสร็จตอนเช้า สามีก็เอาแพ็คขึ้นรถไปแล้วก็ไปส่งนะคะ ก็คือไม่ได้นอนเลย งั้นเดลิเวอรี่เนี่ยเราพักก่อน เพราะว่าแค่ออร์เดอร์ของลูกค้าที่มาสั่งกับเรา แล้วมานัดรับ หรือว่าสั่งแล้วให้เราไปส่งตามวันที่นัดกัน ก็เยอะมากแล้ว

และตอนนี้มีสอนทําเค้กด้วย มีคลาสออนไลน์ด้วย ก็ต้องดูแลนักเรียนในคลาสออนไลน์ด้วย ทำเพจด้วย เลยไม่ได้ทำออเดอร์แบบเดลิเวอรีแล้ว

ขายราคาเท่าไหร่

ถ้าเป็นเค้กมะพร้าว ชาไทย ช็อกโกแลตหน้านิ่ม เค้กส้มหน้านิ่ม จะขายก้อนนึง จะเป็นขนาด 2 ปอนด์ ราคา €50 (1,941 บาท) ถ้าเป็นเค้กวันเกิดมีการตกแต่งสวยงามมีการแต่งให้เป็นตีมต่างๆปั้นตุ๊กตาน้ําตาล ราคา แล้วแต่แบบแล้วแต่ความยากง่ายของแบบแล้วแต่จํานวนตุ๊กตาปั้นที่ลูกค้าอยากได้นะคะก็จะมีราคาตั้งแต่ 100 ยูโร (3,883 บาท) ขึ้นไป หรือบางทีถ้าเกิดเอาแบบอลังการมาก เคยขายไปจนถึง 200 กว่ายูโร (7,767 บาท+)

หรือถ้าเป็นประเภทเค้กแต่งงาน มากสุดนะที่เคยขายก็คือ เป็นเค้กแต่งงานขนาดสําหรับแขกประมาณ 60-70 คนนะคะ แล้วก็แต่งดอกไม้เป็นเค้กแต่งงาน 3 ชั้น ขายอยู่ที่ราคา€675 (26,216 บาท) ขายต่อหนึ่งก้อนก็คือ 3 ชั้นเลยนะคะ เเล้วก็ตกแต่ง

สําหรับรายได้นะคะที่ได้จากการขายเค้กก็คือจะตกอยู่เดือนละแสนกว่าๆ นะคะ แล้วแต่ว่าเดือนนี้ออเดอร์เยอะ หรือออเดอร์ด้วย หลักๆก็จะอยู่ราวๆนี้นะคะ

ที่มาชื่อ “แม่ละเมียด”

ชื่อแม่ละเมียดนะคะได้มาจาก ชื่อร้านอาหารใหม่ของสามี ที่ชื่อว่า “ร้านละเมียด” ในเมืองเดน บอสช์ ซึ่งห่างจากอัมสเตอร์ดัม ถ้าขับรถก็ประมาณ 1 ชั่วโมง

สามีก็บอกว่าก็ชื่อ “ละเมียดเค้ก” สิ เรามีร้านอาหารแล้วชื่อร้านละเมียด นี่เป็นแบบละเมียดเค้ก เป็นของหวานเข้ากัน แล้วทีนี้พอเราเอาผลงานเค้กวันเกิดเป็นเค้กวันเกิดการ์ตูนน่ารักๆ ไปโพสต์ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวก็มีพี่คนไทยคนนึง เค้าก็มา คอมเมนท์ว่าแบบประมาณว่าอุ๊ยแบบเค้กน่ารักมากเลยอยากจะมาเดี๋ยวจะมาเป็นลูกค้า “แม่ละเมียด”

เราก็เลยคิดว่าเอ้ย น่ารักดีนะ ไหนๆ เค้าก็ให้ชื่อนี้เรามาแล้ว เราก็เลยแบบโอเคงั้นฉันเป็นแม่ละเมียดแล้วพอมาทําเพจสอนทําเค้ก ก็เลยตั้งชื่อเพจว่าแม่ละเมียดเลยค่ะ

ฝ่าวิกฤต ร้านอาหารไฟไหม้

ปกติครอบครัวเรา จะมีรายได้ ทางเดียวจากร้านอาหาร คือทุกอย่างมันแบบประจวบเหมาะโชคดีมากก็คือตอนที่ลูกปลามาเริ่มขายเค้ก มันเป็นช่วงโควิดมาพอดี พอเราทุกคนรู้เราทําร้านอาหารเราก็จะได้รับผลกระทบไปเต็มๆอยู่ ในส่วนที่เราเป็นภรรยาเราจะช่วยซัพพอร์ตได้อะก็ช่วงนั้นก็รู้สึกว่าเฮ้ยในเมื่อเราเริ่มขายเค้กแล้วเราก็ลุยแบบจริงจัง รายได้ตรงนั้นน่ะจากการขายเค้กอ่ะมันก็มาช่วยแบ่งเบาภาระของ สามีได้ เราก็เหมือนเราได้ซัพพอร์ตกัน

แล้วทีนี้พอหลังจากโควิดมาประมาณสักปีนึงอ่ะค่ะก็เกิดเหตุการณ์ ไม่คาดฝันขึ้นมาอีกนะคะก็คือไฟไหม้ร้านอาหาร ไฟไหม้เนี่ยไหม้ในส่วนชั้นสองของร้านอาหาร แต่ว่าตัวร้านอาหารเนี่ยจะอยู่ชั้นหนึ่งชั้นล่างนะคะ ความเสียหายมันก็ค่อนข้างเยอะ แล้วก็ตอนที่รถดับเพลิงอะค่ะนักดับเพลิงเค้ามาฉีดน้ําเพื่อดับไฟ คือมันก็คือลงไปถึงชั้นล่างด้วย ฉะนั้น ก็ได้รับความเสียหายทั้งร้าน

ช่วงนั้นไม่สามารถที่จะเปิดให้บริการได้อยู่ระยะเวลาหนึ่งเลย เราก็เครียดแหละ แต่ว่าโดยเฉพาะตัวสามีรู้เลยว่า เค้าเครียดมาก ในฐานะที่แบบเป็นผู้นําครอบครัว เราในฐานะภรรยาเราก็ให้กําลังใจนะคะซัพพอร์ตแล้วก็ทําในจุดที่เราคิดว่าเราจะช่วยผ่อนเบาภาระของเขาได้ช่วยซัพพอร์ตเขา ก็คือการขายเค้กเลย แล้วมันช่วยได้เยอะมากๆ

อีกอย่างนึงก็คือมันก็เป็นความภูมิใจของเรา เพราะว่าจากที่เรา เคยทํางานใช่มั้ยมีรายได้เป็นของตัวเอง วันนึงมีลูกเราต้องออกมาเลี้ยงลูกแล้วก็ ไม่ได้ทํางานแล้ว ไม่มีรายได้เป็นของตัวเอง ต้องพึ่งพิงนะคะ รายได้จากสามีซึ่ง มันโอเคแหละ แต่ตัวเราเองเนี่ยเราก็แค่รู้สึกว่าเออเวลาเราจะแบบอยากจะได้อะไรหรือจะจับจ่ายใช้สอยอะไรที่เป็นของตัวเองอะ การที่เราแบบมีรายได้เป็นของตัวเองอะมันมันรู้สึกแบบเออมันภูมิใจ

สอนมือใหม่ทำเค้กออนไลน์คิดว่าถ้าเรามีช่องทางในการที่เราจะเผยแพร่ความรู้ของเรา ในสิ่งที่จากประสบการณ์ของตัวเองในสิ่งที่เราได้เคยทํามาเคยผิดพลาดมา เทคนิคต่างๆที่เราเคยใช้ทํามาแล้วมันได้ผล แบบเอามาแชร์ให้ความรู้กับคนที่สนใจ คนที่วันเนี้ยเป็นมือใหม่เหมือนกันแล้วก็พังเหมือนกันทําพังเหมือนกันแล้วไม่รู้จะหันหน้าไปหาใคร

หรือใครอยากเรียนอยากลงเรียนทำเค้กกับแม่ละเมียด สามารถทักข้อความมาทางเพจเฟซบุ๊กแม่ละเมียดได้เลยนะคะ

เฟซบุ๊ก : แม่ละเมียด

Tiktok : แม่ละเมียด สอนมือใหม่ทําเค้ก

Youtube : แม่ละเมียด


*สามารถติดตามเรื่องราวชีวิตคนไทยในต่างแดนได้ทาง รายการ Thai Story รีวิวชีวิตต่างแดน ใช่แพลตฟอร์มของข่าวสด นะคะ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน