‘อึ’ ได้ยินคำนี้แล้วหลายๆคนคงร้อง “อี๋! พูดอะไรอ่ะสกปรก ฉันเพิ่งกินข้าวมานะแก OMG!” แต่จริงๆแล้วก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องใกล้ตัวที่แสนจะธรรมด๊าธรรมดา ที่บางครั้งเราอาจไม่เคยใส่ใจมันเลยด้วยซ้ำ
แต่คุณรู้หรือไม่ว่า..จริงๆแล้ว ‘อึ’ ของเรานี่แหละ สามารถบอกถึงความแข็งแรงของสุขภาพได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว ซึ่งเว็บไซต์สไตล์เครซดอทคอม ได้รายงานถึงเรื่องราวของ ‘อึ’ ที่สามารถชี้ให้เห็นถึงปัญหาสุขภาพ โดยแบ่งการสังเกตตาม สี และรูปร่างของอึ ได้ดังนี้
แบ่งตามสีของ ‘อึ’
– สีน้ำตาลกลางๆ ไปถึง น้ำตาลอ่อน : ยินดีด้วยค่ะ เพราะนี่คือสีของ ‘อึ’ ที่เพอร์เฟคมาก! เพราะแสดงให้เห็นว่าคุณมีสุขภาพดีเยี่ยม
– สีดำ หรือ มีเลือดผสม : อึสีนี้อาจเป็นสัญญาณเตือนถึงการมีเลือดออกในระบบทางเดินอาหารของคุณ หรืออาจมี ‘อึ’ สีดำอาจเกิดจากผลข้างเคียงของอาหารเสริมบางชนิดได้เช่นกัน ซึ่งควรรีบไปปรึกษาแพทย์โดยด่วน
– สีเขียว : อาจเกิดจากเม็ดสีจากน้ำดีที่เข้ามาผสมอยู่ใน ‘อึ’ ขณะที่คุณมีอาการท้องร่วง ,การบริโภคผักหรืออาหารสีเขียว หรือเกิดจากการที่ร่างกายย่อยอาหารเร็วไปทำให้ขับถ่ายก่อนที่ ‘อึ’ จะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลปกติ
– สีเหลือง : เกิดจากอาการถุงน้ำดีติดเชื้อ หรืออาจเป็นกลุ่มอาการซินโดรม ควรรีบไปปรึกษาแพทย์
– สีขาว หรือ เทา : อาจเกิดจากการขาดน้ำดี ที่อาจเป็นปัญหาร้ายแรงต่อสุขภาพได้ เช่นโรคตับแข็ง,โรคตับอ่อนตับอักเสบ หรือการทำงานผิดปกติของท่อน้ำดี ซึ่งควรรีบพบแพทย์โดยด่วนสุดๆ
Image/Shutterstock
แบ่งตามรูปร่างของ ‘อึ’
– เหลวมาก : อาจเป็นผลจากการรับประทานที่มีกากใยสูงเกินไป หรือแม้กระทั่งเกิดการติดเชื้อ
– ผอมแห้งเป็นดินสอ : ถ้า ‘อึ’ ของคุณผอมเกินไปโปรดอย่าชะล่าใจ เพราะมันเกิดจากการที่ลำไส้ใหญ่ทำให้‘อึ’หดตัวลง ซึ่งอาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคติ่งเนื้อเมือกลำไส้ใหญ่ หรือมะเร็ง
– อึลอยตัวและมีกลิ่นเหม็นมาก : เกิดจากการที่ร่างกายของคุณดูดซับไขมันได้ไม่ดี หรืออาจเกิดจากการใช้ยาลดน้ำหนักและไขมันสังเคราะห์จากพืช
– รูปร่างเหมือนไส้กรอก แต่แข็งและแห้ง : เกิดจากการดื่มน้ำน้อย, ท้องผูก หรือเป็นผลจากการใช้ยาบางชนิด ทำให้ ‘อึ’ ค้างอยู่ในลำไส้ของคุณนานเกินไป
– อึไม่ออก : เกิดจากอาการท้องผูก ซึ่งคุณควรดื่มน้ำ และกินอาหารที่มีกากใยอาหารเยอะๆ
Image/Stylecraze
เห็นมั้ยล่ะคะว่า ‘อึ’ เป็นเรื่องทีสำคัญกว่าที่เราคิด เพราะมันหมายถึงการที่ร่างกายของคุณกำลังส่งสัญญาณเตือนบางอย่าง ที่คุณอาจไม่เคยรู้ว่า “เฮ้ย แกฉันไม่ไหวแล้วนะ” อยู่ภายใน บางครั้งมันก็ถึงเวลาแล้วล่ะที่คุณจะต้องฟังเสียงเรียกร้องจากร่างกายตัวเองเสียบ้าง เพื่อจะได้ป้องกันปัญหาสุขภาพที่จะตามมาได้อย่างทันท่วงที
