แอปเปิ้ล ผู้พัฒนาสินค้าไอทีชื่อก้องโลกจากสหรัฐอเมริกา เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในงาน Apple Event ประจำปี 2567 ภายใต้สโลแกน “It’s Glowtime”
นำเสนอสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ iPhone 16 series นาฬิกาข้อมืออัจฉริยะ Apple Watch Series 10, Apple Watch Ultra 2 รวมถึงหูฟัง AirPods 4, AirPods Pro 2 และ AirPods Max
เริ่มที่ iPhone 16 Pro และ iPhone 16 Pro Max มีจุดเด่นด้วยจอภาพขนาดใหญ่ขึ้น ตัวควบคุมกล้องแบบใหม่หมด ช่วยให้เข้าถึงระบบกล้องอันล้ำสมัยได้รวดเร็ว
ขุมพลังใหม่ด้วยชิพ A18 Pro กล้อง Fusion 48 ล้านพิกเซล (MP) เซ็นเซอร์แบบ Quad-pixel ที่เร็วยิ่งขึ้น สามารถถ่ายวิดีโอ Dolby Vision ระดับ 4K ที่ 120 เฟรมต่อวินาที (fps) ทำให้รุ่น Pro มีคู่ความละเอียด และอัตราเฟรมสูงสุดเท่าที่เคยมีมาบน iPhone
กล้องอัลตราไวด์ 48 MP ใหม่ เพื่อการถ่ายภาพที่มีความละเอียดสูงขึ้นอย่างภาพมาโคร รวมถึงกล้องเทเลโฟโต้ ซูมแท้ 5 เท่าบนรุ่น Pro ทั้งสองรุ่น และไมโครโฟนคุณภาพระดับสตูดิโอ สำหรับการบันทึกเสียงที่สมจริงยิ่งขึ้น
ด้านดีไซน์ใช้วัสดุโลหะไทเทเนียมที่ทนทานแข็งแรงแต่น้ำหนักเบา จอภาพขนาดใหญ่ที่ขอบจอบางสุดเท่าที่เคยมีมาในผลิตภัณฑ์ Apple
แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานขึ้นแบบก้าวกระโดด โดย iPhone 16 Pro Max มีแบตฯ ใช้งานได้นานสุดเท่าที่เคยมีมาบน iPhone
ผลิตภัณฑ์ตระกูล Pro ใหม่โดดเด่นด้วยขอบจอบางสุดในบรรดาผลิตภัณฑ์ Apple
จอภาพที่ใหญ่ขึ้นคือ 6.3 นิ้ว สำหรับ iPhone 16 Pro และ 6.9 นิ้ว สำหรับ iPhone 16 Pro Max ถือเป็นจอภาพใหญ่สุดเท่าที่เคยมีมาบน iPhone
จอภาพ Super Retina XDR ที่สวยสดงดงาม เทคโนโลยีการแสดงผลแบบติดตลอด และ ProMotion มีความทนทานระดับชั้นแนวหน้าของอุตสาหกรรมด้วยดีไซน์ไทเทเนียมที่แข็งแรง น้ำหนักเบา
Ceramic Shield เจเนอเรชั่นล่าสุดที่มีการผสมสูตรอันล้ำสมัย จึงแข็งแกร่งกว่ากระจกไหนๆ บนสมาร์ตโฟนถึง 2 เท่า สถาปัตยกรรมเชิงกลใหม่ช่วยให้การกระจายความร้อนดีขึ้น และประหยัดพลังงานมากขึ้น สูงสุดร้อยละ 20 เพื่อประสิทธิภาพต่อเนื่องที่ดียิ่งขึ้น รวมเข้ากับดีไซน์ใหม่ และการจัดการพลังงานที่ล้ำสมัยของ iOS 18
ตัวควบคุมกล้อง (Camera Control) ผลลัพธ์จากการผสมผสานฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์เข้าด้วยกันอย่างลงตัว ทำให้ระบบกล้องระดับโปรมีความอเนกประสงค์มากขึ้น ด้วยวิธีใหม่สุดล้ำในการเปิดกล้อง ถ่ายภาพ และเริ่มการบันทึกวิดีโอได้รวดเร็ว ตัวสวิตช์มีการขยับขึ้นลงของปุ่มเพื่อให้ประสบการณ์แบบการคลิก
เซ็นเซอร์แรงกดความแม่นยำสูง ทำให้สามารถเลือกกดเบาและหนัก รวมถึงโต้ตอบด้วยการสัมผัส ขณะที่ส่วนแสดงภาพตัวอย่างแบบใหม่ช่วยผู้ใช้จัดเฟรมภาพและปรับตัวเลือกในการควบคุมอื่นๆ อย่างการซูม ค่าแสง หรือมิติความชัดลึก เพื่อจัดองค์ประกอบภาพ หรือวิดีโอให้ออกมาสวยงามน่าทึ่ง โดยการเลื่อนนิ้วไปบนตัวควบคุมกล้อง
ภายในปีนี้ตัวควบคุมกล้องจะได้รับการอัพเดตให้สามารถทำงานเป็นชัตเตอร์แบบสองจังหวะเพื่อล็อกโฟกัสและค่าแสงที่ตัวแบบโดยอัตโนมัติเมื่อกดเบา ช่วยให้ผู้ใช้จัดเฟรมภาพใหม่ได้โดยที่ตัวแบบไม่หลุดโฟกัส
นอกจากนี้ นักพัฒนายังสามารถนำตัวควบคุมกล้องมาอยู่ในแอปฯ ของตนเองได้ด้วย เช่น Kino ให้ผู้ใช้ปรับไวต์บาลานซ์และตั้งจุดโฟกัสได้ รวมถึงการตั้งจุดโฟกัสที่ความลึกหลายๆ ระยะในฉากนั้น
ส่วน iPhone 16 และ iPhone 16 Plus ใช้ชิพ A18 ที่สร้างมาโดยเฉพาะและความสามารถใหม่ๆ ของกล้องที่น่าทึ่ง ซึ่งจะช่วยยกระดับขีดความสามารถของ iPhone อีกขั้น พร้อมตัวควบคุมกล้องที่ทำให้มีวิธีใหม่ๆ ในการโต้ตอบกับระบบกล้องสุดล้ำเช่นกัน
ระบบกล้องที่ทรงพลัง ได้แก่ กล้อง Fusion 48 MP พร้อมเทเลโฟโต้ซูมแท้ 2 เท่า กล้องอัลตราไวด์ใหม่ ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพมาโครได้เช่นเดียวกับคุณสมบัติรูปแบบภาพถ่าย หรือ Photographic Styles ช่วยให้ผู้ใช้ปรับแต่งภาพถ่ายให้เป็นตัวเอง
มีการบันทึกภาพถ่ายและวิดีโอเชิงมิติพื้นที่ ทำให้ผู้ใช้ย้อนดูความทรงจำในแบบที่มีมิติความชัดลึกบน Apple Vision Pro ได้ด้วย โดยชิพ A18 ใหม่มีประสิทธิภาพและประหยัดพลังงานดีขึ้นครั้งใหญ่ ช่วยให้ผู้ใช้เล่นเกมระดับ AAA ที่ประมวลผลหนักๆ และช่วยให้แบตฯ ใช้งานได้นานขึ้นมาก
iPhone ทั้งสองรุ่นสร้างมาเพื่อ Apple Intelligence แพลตฟอร์มปัญญาประดิษฐ์ที่พัฒนาโดย Apple ทั้งสามารถดึงขุมพลังของ Apple Silicon และโมเดลเจเนอเรทีฟที่สร้างขึ้นโดย Apple มาใช้เพื่อทำความเข้าใจ และสร้างภาษากับรูปภาพ ทำสิ่งต่างๆ ระหว่างแอปฯ รวมถึงดึงบริบทเฉพาะตัวของผู้ใช้ออกมาเพื่อช่วยให้งานทั่วไปในชีวิตประจำวันกลายเป็นเรื่องง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น
Apple Intelligence ยังช่วยรักษาความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยข้อมูลของผู้ใช้ด้วย Private Cloud Compute ซึ่งวิธีการสุดล้ำนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับและขยายขีดความสามารถด้านการคำนวณ โดยรองรับได้ทั้งการประมวลผลบนอุปกรณ์และโมเดลขนาดใหญ่ขึ้นบนเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งทำงานบนเซิร์ฟเวอร์ Apple Silicon โดยเฉพาะ
เรียกว่าเป็นความก้าวหน้าเหนือชั้นด้านความเป็นส่วนตัวในปัญญาประดิษฐ์
นอกจากนี้ Apple Intelligence ปลดล็อกวิธีการใหม่ๆ ให้ผู้ใช้ปรับปรุงการเขียนของตัวเองด้วยเครื่องมือการเขียนที่ครอบคลุมทั่วทั้งระบบ ให้ผู้ใช้สามารถปรับการเขียน พิสูจน์อักษร และสรุปเนื้อหาข้อความได้
การสื่อสารและการแสดงออกถึงความเป็นตัวเองก็กลายเป็นเรื่องสนุกยิ่งขึ้น ด้วยความสามารถในการสร้าง Genmoji ที่ไม่ซ้ำใคร และ Image Playground ให้ผู้ใช้สร้างรูปภาพสนุกๆ ได้อย่างรวดเร็ว
Apple Intelligence ยังช่วยสรุปการแจ้งเตือน รวมถึงแสดงข้อความสำคัญต่อเวลาด้วยคุณสมบัติข้อความที่มีความสำคัญในแอปฯ เมล ผู้ใช้สามารถบันทึก ถอดข้อความ และสรุปเนื้อหาจากเสียงได้ในแอปฯ โน้ต และโทรศัพท์
โดยเมื่อเริ่มบันทึกเสียงในแอปฯ โทรศัพท์ขณะที่ผู้ใช้คุยโทรศัพท์ ผู้อยู่ในสายจะได้รับการแจ้งเตือนโดยอัตโนมัติ และเมื่อวางสาย Apple Intelligence จะสรุปเนื้อหาเพื่อช่วยทบทวนประเด็นสำคัญ
Siri มีความเป็นธรรมชาติ ยืดหยุ่น ผสานรวมเป็นหนึ่งเดียวกับประสบการณ์ทั้งระบบมากขึ้นด้วยดีไซน์แบบใหม่เอี่ยม
ด้วยความสามารถในการเข้าใจภาษาที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น Siri จึงตามทันถึงแม้ผู้ใช้จะพูดตะกุกตะกัก และสามารถรักษาบริบทของคำขอก่อนหน้าแล้วนำไปปรับใช้กับคำขอถัดไปได้
ผู้ใช้สามารถพิมพ์โต้ตอบกับ Siri ได้ทุกเมื่อ ทั้งยังสลับไปมาระหว่างเสียงและข้อความได้ลื่นไหล เพิ่มความรวดเร็วให้กับสิ่งที่ทำเป็นประจำทุกวัน
Siri ยังมีความรอบรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์มากขึ้น สามารถตอบหลายพันคำถามเกี่ยวกับคุณสมบัติของ iPhone และผลิตภัณฑ์ Apple อื่นๆ
ยิ่งไปกว่านั้น Siri ยังสามารถดึงบริบทเฉพาะตัวของผู้ใช้ออกมา เพื่อนำเสนอสิ่งดีๆ ที่ชาญฉลาดเหมาะสมกับผู้ใช้ ส่วนการรับรู้สิ่งที่อยู่บนหน้าจอก็ช่วยให้ Siri เข้าใจ และทำหลายสิ่งหลายอย่างกับคอนเทนต์ของผู้ใช้ได้
ทั้งยังสามารถทำสิ่งใหม่ๆ ได้หลายร้อยอย่างทั้งในและระหว่างแอปฯ ของ Apple และแอปฯ ของบริษัทอื่น และในขณะที่ผู้ใช้กำลังใช้คุณสมบัติของ iOS 18 อย่าง Siri และเครื่องมือการเขียน ผู้ใช้จะสามารถเข้าถึง ChatGPT จาก OpenAI ได้ง่ายขึ้นด้วย
iPhone 16 Pro และ iPhone 16 Pro Max มาใน 4 สีสวยงาม ได้แก่ ไทเทเนียมดำ ไทเทเนียมธรรมชาติ ไทเทเนียมขาว และไทเทเนียมทะเลทราย
ส่วน iPhone 16 และ iPhone 16 Plus มาใน 5 สีสันใหม่สุดโดดเด่น ได้แก่ สีดำ สีขาว สีชมพู สีเขียวอมฟ้า และสีน้ำเงินอัลตรามารีน
ผู้สนใจสามารถสั่งซื้อล่วงหน้าได้แล้วผ่านเว็บไซต์ทางการของแอปเปิ้ล ประเทศไทย ก่อนวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการวันที่ 20 ก.ย.นี้เป็นต้นไป ส่วนผลิตภัณฑ์อื่นจะมากล่าวถึงต่อในฉบับหน้า
ทีมข่าวสดไอที
ภาพ – แอปเปิ้ล/รอยเตอร์