หลายคนเคยสงสัยว่าทำไมต้องพาเด็กเล็ก เด็กอนุบาล ออกสัมผัสเรียนรู้โลกกว้าง ให้อยู่บ้าน ดูทีวี อ่านหนังสือ เล่นเกมสนุกๆ กับครอบครัว กับเพื่อนๆ ที่โรงเรียนก็น่าจะเพียงพอแล้ว
วันนี้จึงมาชวนคิด ชวนคุย ชวนอ่าน ว่าด้วยเรื่องการจูงเด็กเล็กออกท่องโลกว่าจะทำให้เด็กเรียนรู้อะไรบ้าง โดยเฉพาะการออกสัญจรสายแข็ง คือ พาเด็กอนุบาลสัญจรสู่ “พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ” ประสบการณ์การผจญภัยของเด็กและครู โรงเรียนวัดมณีโชติ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี

อนุบาลเที่ยวพิพิธภัณฑ์
โรงเรียนนี้มีกิจกรรมพาเด็กเรียนรู้หลายเนื้อหาและหลายรูปแบบ ก่อนหน้านี้มีกิจกรรมเรียนรู้เมืองเก่าคูบัว โบราณสถานยุคทวารวดีของราชบุรี ทัศนศึกษาพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติราชบุรี อาคารสถาปัตยกรรมที่สวยงามและมีข้าวของเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับบ้านเกิดของเด็กๆ ฯลฯ
การพาเด็กเล็กเด็กโตออกเดินทางย่อมต้องเตรียมความพร้อมทุกด้าน ทั้งความปลอดภัยของยานพาหนะ การจัดระบบการดูแลระหว่างการเดินทาง ป้องกันการพลัดหลง หยูกยาปฐมพยาบาลเบื้องต้นกรณีสะดุด หกล้ม ไม่สบาย ฯลฯ
ครูเปิ้ล วรพร คำไทรแก้ว คุณครูผู้ดูแลเด็กๆ นักเรียนชั้นอนุบาลเล่าว่า “เราเตรียมตัวเด็กๆ ก่อนไปทัศนศึกษา มีข้อตกลงร่วมกัน อย่างแรกเลยคือต้องเชื่อฟังครู จะไปไหนมาไหนก็ต้องไปด้วยกัน ครูจะเป็นคนดูแลอยู่ตลอดเวลา แล้วก็จะมีพี่ๆ คอยดูแลรุ่นน้องอีกทีค่ะ”

ครูเปิ้ล
คุณครูมากันหลายคน ประกบเด็กประจำชั้นของตนเอง กรณีเด็กอนุบาล วางหน้าที่มอบหมายให้รุ่นพี่ดูแลรุ่นน้องเป็นคนคนไปเลย แม้แต่ตอนกินข้าว กินน้ำ ไปห้องน้ำ เป็นต้น ดูไปแล้วการเดินทางของอนุบาลสัญจรนับว่าต้องการการวางแผนและความเสียสละของผู้เกี่ยวข้องไม่น้อย

รูปปั้นผู้หญิงห้าคนเล่นดนตรี
สิ่งสำคัญที่สุดคือการเตรียมความพร้อมก่อนการเรียนรู้ให้สมวัยเด็กจิ๋ว ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร กรุงเทพมหานคร คุณครูและเจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์แบ่งเด็กเป็นกลุ่มๆ ตามวัย เพื่อให้มีการบรรยายที่เหมาะสมกับแต่ละกลุ่ม เด็กเล็กดูช้างจำลองขนาดใหญ่ ดูข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ช่วยกันตอบคำถามพี่ๆ เจ้าหน้าที่อย่างกระตือรือร้น แวะชมสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับราชบุรีบ้านเกิด โฟกัสที่รูปปั้นผู้หญิงห้าคนที่กำลังเล่นดนตรี เป็นประติมากรรมปูนปั้นอายุพันกว่าปี ภาษาวัยรุ่นก็พูดได้ว่าคล้ายเกิร์ลกรุ๊ปหรือวงดนตรีหญิง มีคนเล่นเครื่องตี เครื่องสาย ประกอบจังหวะ รวมทั้งมีนักร้องด้วย

หนูน้อยตื่นตาตื่นใจ
การพาเด็กอนุบาลไปทัศนศึกษายังสถานที่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และศิลปวัฒนธรรม เช่น พิพิธภัณฑ์ เป็นกิจกรรมที่มีคุณค่าในการพัฒนาเด็กในหลายด้าน เด็กๆ เรียนรู้จากประสบการณ์จริง การได้เห็นสิ่งที่ไม่เคยเห็นมาก่อนจะกระตุ้นให้เด็กๆ มีทักษะการสังเกตที่ดี

ชั่วโมงบันทึกประสบการณ์
ทีมงานทุ่งแสงตะวัน โดยพี่นก นิรมล เมธีสุวกุล และคณะครู ประสานงานเจ้าหน้าที่ไว้แล้ว จัดแจงแจกจ่ายดินสอ ยางลบและสีไม้ ให้เด็กๆ บันทึกประสบการณ์ผ่านภาพวาด ใช้สีไม้ ไม่ใช่สีน้ำหรือสีโปสเตอร์ จะได้ป้องกันการหกเลอะเทอะในสถานที่สำคัญอย่างพิพิธภัณฑ์ เด็กอนุบาลแต่ละคนมีความถนัดและการทำงานแตกต่างกัน เด็กหลายคนทำงานเสร็จอย่างรวดเร็ว แต่บางคนวาดเฉพาะลายเส้นโครงร่าง โดยขออนุญาตนำกลับไปลงสีที่โรงเรียน

เรียนรู้ ต่อยอดที่โรงเรียน
เด็กอนุบาลเรียนรู้อวัยวะส่วนต่างๆ ของคน ท่าทางการเล่นดนตรี แล้ววาดลงบนกระดาษ ได้ทบทวนทดสอบการนับเลข นับจำนวนนักดนตรี สังเกตเครื่องดนตรี ฯลฯ ได้เห็นเด็กๆ ปรึกษาหารือ ถกเถียงกันระหว่างการวาดภาพ กิจกรรมการวาดภาพในพิพิธภัณฑ์กระตุ้นให้เด็กๆ คิดสร้างสรรค์และพัฒนาทักษะทางศิลปะ
การทำกิจกรรมร่วมกันในทัศนศึกษายังช่วยเสริมสร้างสัมพันธภาพระหว่างเด็กๆ และส่งเสริมการทำงานเป็นทีม การร่วมกันเรียนรู้และสำรวจจะทำให้พวกเขาสามารถแบ่งปันความรู้สึกและความคิดเห็นของกันและกัน

รูปปั้นนักดนตรีผ่านสายตาเด็กๆ
การพาเด็กอนุบาลไปทัศนศึกษาหาความรู้ไม่เพียงแต่จะเป็นกิจกรรมที่ตื่นเต้นตื่นตา แต่ยังเสริมสร้างทักษะและความรู้ในด้านต่างๆ ที่สำคัญต่อการพัฒนาทางการศึกษาและการเติบโตในอนาคตของเด็กๆ
การสนับสนุนให้เด็กออกไปสำรวจโลกภายนอกเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าและมีคุณค่าต่อชีวิตพวกเขาในระยะยาว หากผู้ปกครองและผู้เกี่ยวข้องเห็นความสำคัญของการทัศนศึกษา จะร่วมกันสร้างโอกาสในการเรียนรู้และการพัฒนาที่มีคุณภาพให้เด็กๆ ได้อย่างยั่งยืนในอนาคต
พบประสบการณ์เรียนรู้โลกกว้างของหนูน้อยวัยอนุบาลในทุ่งแสงตะวัน ตอน อนุบาลสัญจร เช้าวันเสาร์ 30 พฤศจิกายน เวลา 05.05 น. ช่อง 3 กด 33 และทางเฟซบุ๊กทุ่งแสงตะวันเวลา 07.30 น.
อาทร ริมทาง