ใกล้ปีใหม่แล้ว หาที่เที่ยวกันแล้วหรือยัง?…ว่าแต่เที่ยวที่ไหนได้มูด้วยแบบปังๆ รับปีมะเส็ง
ทริปนี้พาไป ‘เกาะไหหลำ’ แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ไปลามาไหว้ “เจ้าแม่ทับทิม” และ “เจ้าแม่พระโพธิสัตว์กวนอิมอวโลกิเตศวร” เพื่อเป็นสิริมงคลระหว่างทางไปศึกษาดูงาน
เจ้าแม่ทับทิมแห่งเกาะไหหลำ
‘เกาะไหหลำ’ หรือ ‘ไห่หนาน’ เป็นมณฑลที่มีขนาดเล็กที่สุดใน 23 มณฑลของจีน ด้วยพื้นที่ขนาด 35,191 ตร.ก.ม. มีลักษณะเป็นเกาะหลายเกาะอยู่ในทะเลจีนใต้ เห็นเล็กๆ แบบนี้แต่ไหหลำเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุด มีเมืองหลวงชื่อว่า ‘ไหโข่ว’
เกาะไหหลำ
‘ไหโข่ว’ นี่เองที่ ‘เจ้าแม่ทับทิม’ ประทับอยู่ในถนนโบราณฉีโหลว เป็นองค์เทพประจำเมืองของคนจีนไหหลำ เรียกว่า ‘ตุยบ้วยเต้งเหนียง’
คำว่า เต้งเหนียง แปลว่า พระแม่เจ้าผู้ศักดิ์สิทธิ์ คำว่า ตุยบ้วย แปลว่า ปลายน้ำ ท้ายน้ำ มีความสัมพันธ์กับที่มาของท่าน หรือคนไหหลำเรียกอีกอย่างว่า ‘โผ่โต่ว’ ออกเสียงจีนกลางว่า ‘ผอจู่’ แปลว่า ‘ย่าผู้เป็นบรรพบุรุษ’
ตามตำนานเล่ากันว่า มีชาวประมงคนหนึ่งออกหาปลาในทะเล ทีแรกไม่ได้ปลาเลย ได้แต่ไม้ท่อนหนึ่งติดยอขึ้นมา จึงโยนทิ้งลงทะเล แล้วลงยกยอใหม่ ไม้ท่อนนั้นกลับติดขึ้นมาอีก เขาเห็นเป็นอัศจรรย์จึงอธิษฐานว่าถ้าได้ปลาดี จะเอาขอนไม้นี้ไปแกะสลักเป็นเทวรูปเซ่นไหว้ ชาวจีนได้ปลามากดั่งที่อธิษฐานไว้
‘ตุยบ้วยเต้งเหนียง’ จึงเป็นเทพยุดาแห่งสายน้ำของชาวจีนโพ้นทะเลใต้ ได้รับการยกย่องเป็นเทพยุดาแห่งความเมตตากรุณา ช่วยคุ้มครองมวลมนุษย์ให้พ้นจากสรรพภัยและความทุกข์ยากทั้งมวล
ระหว่างเดินเท้าเข้าไปสักการะเจ้าแม่ทับทิม บนถนนฉีโหลว เป็นถนนคนเดินสายเล็กๆ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวเดินชมสถาปัตยกรรมโบราณฉีโหลวขนาดใหญ่และสภาพดีที่สุดในจีน ตัวอาคารที่มีเอกลักษณ์ตั้งเรียงรายขนาบสองข้างทาง โดยทางการจีนประกาศให้ถนนเส้นนี้อยู่ในรายชื่อถนนสายประวัติศาสตร์ชุดแรกของประเทศในปี 2009
ถนนโบราณฉีโหลว
ในประเทศไทยก็มีศาลเจ้าแม่ทับทิม ตั้งอยู่เชิงสะพานซังฮี้ กทม. ตามความเป็นมาว่ากันว่ามีชาวจีนไหหลำอพยพหนีภัยสงครามเข้ามาตั้งบ้านเรือนอยู่ในสยามประเทศ แล้วร่วมกันสร้างศาลเจ้าแม่ทับทิมขึ้น ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นศาลไม้เล็กๆ อยู่ริมน้ำเจ้าพระยาราวช่วงปี 2394 เสมือนเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจที่ท่านได้ปกป้องคุ้มครองให้เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมายังสยามประเทศได้อย่างปลอดภัย
บรรดาพ่อค้าวาณิชที่ขอพรเจ้าแม่ทับทิม เชิงสะพานซังฮี้ จนประสบผลสำเร็จในธุรกิจการค้า จึงได้ร่วมกันสร้างศาลใหม่แบบเก๋งจีนสวยงาม ถึงทุกวันนี้ ผู้มีจิตศรัทธาสามารถกราบขอพรได้ตามความเชื่อของแต่ละคน ไม่ว่าจะเป็นการค้า การลงทุน สุขภาพ ขอโชคลาภ ขอให้มีบุตรหรือความรักก็ตามใจปรารถนา
หาดทรายเมืองซานย่า
เมืองตากอากาศซานย่า
กลับมาที่เจ้าแม่ทับทิมจากเมืองไหโข่ว หลังสักการะเสร็จ คณะเราเดินทางต่อเพื่อไปดูงานที่เมือง ‘ซานย่า’ เมืองแห่งชายหาดทอดยาว เป็นเมืองตากอากาศเทียบเคียงได้กับจังหวัดภูเก็ต ดึงดูดนักท่องเที่ยวคลาคล่ำจนเรียกได้ว่าเป็น ‘ไข่มุกแห่งทะเลจีนใต้’ และ ‘ฮาวายแห่งเอเชียตะวันออก’
ด้วยรถไฟความเร็วสูง 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ระยะทางราว 308 ก.ม. ร่นระยะเวลาเดินทางลงได้ 1 ชั่วโมงครึ่ง หรือครึ่งหนึ่งของการเดินทางด้วยรถยนต์
รถไฟขบวนนี้เป็นรถไฟที่วิ่งรอบเกาะไหหลำเชื่อมฝั่งตะวันตกกับฝั่งตะวันออกระยะทางทั้งสิ้น 653 ก.ม. ใช้เวลาประมาณ 5 ช.ม. ค่าโดยสารที่นั่งชั้น 1 ประมาณ 1,000 บาท ที่นั่งชั้น 2 ประมาณ 700 บาท
หน้าสถานีรถไฟไหโข่ว
เป็นรถไฟความเร็วสูงแบบวงแหวนแห่งแรกของโลกที่เปิดดำเนินการเต็มรูปแบบในปี 2558
ชมวิวสองข้างทางรถไฟ จึงได้เห็นวิถีชีวิตชาวจีนไหหลำ ว่าด้วยลักษณะพื้นที่เป็นเกาะ ภูมิอากาศร้อนชื้นฝนตกเป็นส่วนใหญ่ เหมาะแก่การเพาะปลูกพืชผลทางการเกษตร ตลอดทางจากสถานีไหโข่วสู่สถานีซานย่า เราจึงได้เห็นพื้นที่เกษตรกรรมเขียวชอุ่มคล้ายเมืองไทยมาก ทั้งสวนมะม่วง ลำไย แก้วมังกร ทุเรียน กาแฟ และอื่นๆ
สวนแก้วมังกร
นั่งรถไฟมาถึงเขตท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมหนานชาน ซึ่งเป็นเขตมณฑลทางพุทธศาสนาขนาดใหญ่ และเป็นจุดชมวิวทางวัฒนธรรมที่มีชื่อเสียง อยู่ห่างจากเมืองซานย่า 40 ก.ม.
เห็น ‘เจ้าแม่กวนอิม’ แห่งเกาะไหหลำ สีขาวบริสุทธิ์สง่างาม ตั้งตระหง่านเหนือทะเลจีนใต้ บนฐานดอกบัวสีทองบริเวณศูนย์กลางของวัดหนานซาน นับเป็นเจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยความสูง 108 เซนติเมตร เป็นประติมากรรมที่สูงเป็นอันดับ 12 ของโลก สูงกว่าอนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพของสหรัฐ 15 เมตร ทำให้อนุสาวรีย์อื่นๆ ดูเล็กไปถนัดตา
เป็นบุญที่ได้ชื่นชมความงามของพระพักตร์ทั้ง 3 ปางในองค์เดียวกัน พระพักตร์หนึ่งหันเข้าหาฝั่งแผ่นดินเกาะไหหลำ คือ ปางประคองพระสูตร พระหัตถ์ซ้ายประคองพระสูตรและทรงแสดงพระวิตรรกมุทรา (แสดงธรรม) ด้วยพระหัตถ์ขวา
เจ้าแม่กวนอิม
เจ้าแม่กวนอิมระยะไกลเสมือนลอยอยู่บนฟ้า
อีกสองพระพักตร์หันออกไปยังทะเลจีนใต้ แบ่งเป็นปางถือสายประคำ และปางถือดอกบัว เป็นนัยยะแห่ง “ความเมตตา ปัญญาและสันติภาพ” เป็นสัญลักษณ์สำคัญของการท่องเที่ยวแห่งเกาะไหหลำ และเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวระดับ 5A
การกราบไหว้เจ้าแม่กวนอิมแต่ละนิ้วเท้า
ป้ายอธิษฐาน
ทริปนี้ขออัญเชิญบทสวดสรรเสริญพระคุณ เจ้าแม่กวนอิม…มาฝากแฟนๆ ทุกคนกันนะ
นำโมไต๋ซื้อ ไต๋ปุย กิวโคว่ กิวหลั่ง กวงไต๋เล่งก้ำ กวงสี่อิมผู่สัก (กราบ)
นำโมไต๋ซื้อไต๋ปุย กิวโคว่ กิวหลั่ง กวงไต๋เล่งก้ำ กวงสี่อิมผู่สัก (กราบ)
นำโมไต๋ซื้อ ไต๋ปุย กิวโคว่ กิวหลั่ง กวงไต๋เล่งก้ำ กวงสี่อิมผู่สัก (กราบ)
นำโมฮุก นำโมหวบ นำโมเจ็ง นำโมกิวโคว่ กิวหลั่ง กวงสี่อิมผู่สัก ทั่งจี้โต
โอม เกียล้อฮวดโต เกียล้อฮวดโต เกียออฮวดโต ล้อเกียฮวดโต ล้อเกียฮวดโต
ซาผ่อออ เทียงล้อซิ้ง ตี่ล้อซิ้ง นั้งลี่หลั่ง หลั่งลี่ซิ้ง เจ็กเฉียก ใจเอียงห่วยอุ่ยติ๊ง
นำโมม่อออปวกเยี่ยปอล้อบิ๊ก
รถไฟความเร็วสูง
แม้ไหหลำจะเป็นเกาะเล็กๆ ทางตอนใต้สุดของจีน แต่มีความยิ่งใหญ่ทั้งท่าเรือ สนามบิน รถไฟความเร็วสูง ทางการจีนจึงกำหนดให้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ (SEZs) เป็นเขตปลอดภาษี สู่เมืองแห่งการค้าการลงทุน หนึ่งในแผนปฏิรูปเศรษฐกิจของจีน อีกทั้งยังจะเป็นมณฑลนำร่องเลิกใช้รถยนต์เชื้อเพลิงฟอสซิลภายในอีก 6 ปีนับจากนี้
ตั้งเป้าหมายเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวและการบริโภคระดับนานาชาติ และเป็นเขตการค้าเสรีในปี 2025 มีการเกษตรอุตสาหกรรมครบวงจร ตั้งเป้าหมายให้ไหหลำเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมเกษตรยุคใหม่ด้วย
มั่นใจได้เลยว่า ไหหลำจะเป็นเมืองที่ไทยและประเทศทั่วโลก ต้องจับตามองไม่ให้คลาดสายตาอย่างแน่นอน
พรพิมล แย้มประชา
