ไหนๆ ก็จัดหนักตัวจะแตกตลอดเทศกาลแล้ว บุฟเฟต์สั่งลาสงกรานต์อีกสักมื้อจะเป็นไร
เล็งมาหลายวันแล้วร้านนี้ SUKI KING มาพร้อมห้างใหม่ “ลิตเติ้ล วอล์ก รัตนาธิเบศร์” จ.นนทบุรี ตั้งแต่ต้นปี เปิดแข่งท้าทายเจ้าดังที่คิวยาวฝั่งตรงข้ามถนน
ไม่เจ๋งจริง คงไม่กล้าขอส่วนแบ่งลูกค้ากันซึ่งๆ หน้าแบบนี้แน่
เดินเข้าร้านบ่ายสามกว่าๆ วันธรรมดา มีโต๊ะนั่งไม่ต้องรอคิว แต่อีกนิดก็จะเต็มแล้ว ซึ่งร้านก็ใหญ่อยู่
ได้ยินพนักงานบอกว่า ถ้าเป็นวันศุกร์ตั้งแต่สี่โมงเย็น รวมถึงเสาร์อาทิตย์คิวทะลักนะคะ
ราคาทำเอาอึ้ง คือรวมบุฟเฟต์ เครื่องดื่ม และแวตแล้ว เท่ากันเป๊ะ 276 (ศึกเดือดกว่าหม้อสุกี้ชาบูอีก)
ขณะที่หน้าตาอาหารก็แทบไม่ต่าง เมนูสุกี้คิงอาจดูพื้นๆ ไม่เยอะเท่า แต่คัดตัวเด็ดๆ ยอดนิยม เน้นความสดเป็นตัวชูโรง
ไม่ว่า เนื้อวัวที่นุ่มไม่เหนียว เนื้อหมูสดฉ่ำ แมงกะพรุนกรุบ ตับเด้ง ซีฟู้ดแน่น ฯลฯ
ซุปมี 5 รส น้ำใส น้ำดำ ต้มยำน้ำข้น ต้มยำน้ำใส และหม่าล่าที่ต้องเพิ่ม 49 บาท โดยเลือกได้ 2 น้ำ ซึ่งร้านนี้หม้อสวยไฮโซ
น้ำจิ้มมี 2 แบบ น้ำจิ้มสุกี้แบบที่คุ้นชิน กับน้ำจิ้มสุกี้โบราณที่ใส่เต้าหู้ยี้ พร้อมกระเทียม พริก มะนาว แต่ใช้มะนาวขวดเจือจางใสมาก ไม่หอม
สำหรับรสชาติไม่ว่าซุปหรือน้ำจิ้ม ไม่ได้เข้มข้นจัดจ้าน แต่ไม่ถึงกับจืดชืด เอาเป็นว่าจัดอ่อนๆ กลมกล่อม น้ำซุปเดือดก้นหม้อไม่เค็มปี๋ กินเสร็จคอไม่แห้ง
ชอบบาร์ของทอดของกินเล่น เด็ดตรงเสิร์ฟหนังแซลมอนทอด พร้อมผงโรยรสต่างๆ
และยังมีข้าวญี่ปุ่น ข้าวผัดกระเทียม พร้อมบูลโกกิทั้งเนื้อและหมูไว้โปะข้าว แนะนำบูลโกกิหมูอร่อยกว่า เพราะเนื้อเหนียวไปนิด
พวกเมนูยำเขาก็มียำสาหร่าย ยำปูอัด ยำแมงกะพรุน อร่อยเลย แถมของหวานตบท้ายซึ่งรวมอยู่ในบุฟเฟต์ด้วย
บาร์น้ำก็ถือว่าแจ่ม ทั้งสลัชชี่ สเลอร์ปี้ ฟินกับความเกล็ดน้ำแข็งปั่น
อาหารมีสีสันกลิ่นอายเกาหลี เพราะเป็นเจ้าของเดียวกับร้านปิ้งย่างชื่อดัง “ซูกิชิ” ดังนั้น เขาไม่ได้มาเล่นๆ ประสบการณ์แน่นเอาเรื่องอยู่
ร้านเปิดทุกวัน จันทร์ถึงศุกร์ 11.00-02.00 น. แต่เสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เปิดเร็วขึ้นเป็น 10 โมงตรง
นั่งยาว 2 ชั่วโมง อิ่มจุกคุ้มราคา
มาดามคูซีน