“ข้าวซอย” อาหารพื้นเมืองขึ้นชื่อลือเลื่องในย่านฟ้าฮ่าม อำเภอเมืองเชียงใหม่ แหล่งเช็กอินกินข้าวซอยนานาสารพัดร้านและหลากหลายรูปแบบ แต่ไม่มีที่ไหนเหมือนกินข้าวซอยที่บ้านสันทรายต้นกอก เพราะจะต้องลงเรือล่องแม่น้ำปิงเท่านั้นถึงจะได้ชิมข้าวซอยรสมือแม่บ้านตำรับท้องถิ่นแท้ๆ
ข้าวซอยไก่มื้อพิเศษ
ศูนย์การเรียนรู้สลีปิงจัยแก้วกว้างอยู่ที่บ้านสันทรายต้นกอก ในเขตตำบลฟ้าฮ่าม เชียงใหม่ นอกจากเป็นแหล่งรวมภูมิปัญญาล้านนาหลากหลายแขนง ยังจัดบริการล่องเรือ “กิ๋นข้าวซอย กอยน้ำปิง” เป็นที่ติดอกติดใจนักท่องเที่ยวและผู้มาเยือนมานานปี
เครื่องเคียงครบครัน
ผู้คนปักหมุดมาท่องเที่ยวทางเรือ อยากสัมผัสวิถีชีวิตชุมชนสองฟากฝั่งแม่น้ำปิง รับรู้รับฟังเรื่องราวประวัติศาสตร์ชุมชน ความเปลี่ยนแปลงเป็นไปของแม่น้ำสายหลักของเชียงใหม่ ทั้งในอดีต ในปัจจุบัน และต่อไปในอนาคต
บรรยากาศกินข้าวซอยบนเรือ
ท่าเรือสลีปิงจัยแก้วกว้างในสมัยก่อนถือว่าอยู่ชานเมืองเชียงใหม่ ในสมัยก่อนบริเวณนี้เป็นแหล่งพักไม้ซุงก่อนล่องลงทางใต้ ทุกวันนี้เมืองเชียงใหม่ขยายตัวมากขึ้น แต่การล่องเรือในแม่น้ำปิงทำให้เห็นมุมมองที่แตกต่างออกไป การท่องเที่ยวแบบเข้าใจและเข้าถึงชุมชนจึงยังคงได้รับความนิยมในปัจจุบัน
“เรือสลีปิงครุยส์” ตกแต่งแบบย้อนยุค บริการวันละ 3 รอบ รอบเช้า 9 โมง รอบเที่ยง และรอบเย็นลงเรือตอนห้าโมงเย็น สัมผัสสายลมสายน้ำเย็นสบาย มีอาหารขันโตกและข้าวซอยบุฟเฟต์แล้วแต่จะจองกันมา
ข้าวซอยแม่จอยสลีปิงจัยแก้วกว้าง
กิ๋นข้าวซอย กอยน้ำปิง ภาษาคนเมืองเชียงใหม่หมายความว่ากินข้าวซอยไปพร้อมๆ กับชมแม่น้ำปิงไปด้วย แถมบนเรือยังมีน้องๆ คนรุ่นใหม่ ลูกๆ หลานๆ กลุ่มสลีปิงจัยแก้วกว้าง บรรเลงเพลงล้านนาขับกล่อมเพลิดเพลิน
อานนท์ ไชยรัตน์ พ่อครูแห่งศูนย์การเรียนรู้สลีปิงจัยแก้วกว้าง ผู้ริเริ่มการเรียนรู้เชียงใหม่ผ่านชลวิถี กล่าวว่า “แนวคิดล่องเรือเกิดขึ้นเพราะเราอยากให้ลูกๆ หลานๆ คนเชียงใหม่ได้มาสัมผัสแม่น้ำ อีกมุมหนึ่งก็อยากให้มารับรู้เรื่องความเปลี่ยนแปลงของระบบนิเวศแม่น้ำปิงเพื่อไปสู่กระบวนการอนุรักษ์ ถ้าไม่ช่วยกันดูแลจะเกิดการทำลายการใช้ประโยชน์ที่มากเกินไป”
พ่อครูอานนท์ นายท้ายให้ความรู้
สำหรับธุรกิจท่องเที่ยวพ่อครูอานนท์กล่าวว่า “เดี๋ยวนี้ธุรกิจร้านอาหาร ร้านกาแฟ คาเฟ่ ล้วนแต่เอาด้านติดน้ำเป็นหน้าร้านเพราะบรรยากาศดี คนก็พากันมากินบรรยากาศ จะเห็นว่านี่คือคนเราโหยหาวิถี คิดถึงธรรมชาติ มันอิ่มและมีความสุข”
ทิวทัศน์สองฝั่งแม่น้ำปิงแตกต่างกันไปในแต่ละฤดูกาล หากมาตรงกับฤดูหนาวจะได้สัมผัสไอหมอกเรี่ยผิวน้ำในยามเช้า ท้องฟ้าในฤดูหนาวสีสดใส ยามเย็นชมพระอาทิตย์ตกจากมุมมองแม่น้ำยิ่งสวยงามประทับใจ หากล่องเรือในฤดูร้อนจะสัมผัสลมเย็นๆ จากแม่น้ำ คลายร้อน สบายใจสบายตัวตลอดเส้นทาง
เก็บภาพสองฟากฝั่งยามเย็น
แม่น้ำปิงเป็นแม่น้ำสายสำคัญไหลผ่านเมืองเชียงใหม่ ในอดีตลำน้ำสายนี้นำพาความเปลี่ยนแปลงมากมาย สองฟากฝั่งมีทั้งคนพื้นถิ่น คนตะวันตกที่มาเผยแผ่ศาสนา คนนานาชาติพันธุ์ลงหลักปักฐาน มีพยานเป็นชื่อชุมชน อาคาร สถาปัตยกรรม เรื่องเล่าต่างๆ การล่องเรือ ฟังเพลง รับประทานอาหารพื้นถิ่น ทำให้ได้สนทนา พูดคุย รับรู้เรื่องราว หรือแม้กระทั่งนั่งเงียบๆ ชมทิวทัศน์สองฟากฝั่งแม่น้ำที่เต็มไปด้วยเรื่องราวทั้งอดีตและปัจจุบัน
ติดตามทุ่งแสงตะวันไปกิ๋นข้าวซอย กอยน้ำปิง สัมผัสเชียงใหม่ทางชลวิถี วันเสาร์ที่ 5 กรกฎาคมนี้ เช้าๆ ที่ช่อง 3 HD 05.05 น. และในเวลา 07.30 น. ทุกแพลตฟอร์มออนไลน์ PayaiTV และ Facebook ทุ่งแสงตะวัน
วสวัณณ์ รองเดช
