หลงมนต์เมืองมอญ ตะลอนทัวร์สังขละบุรี

คอลัมน์ ข่าวสดหลากหลาย

โดยวรนุช มูลมานัส

หลงมนต์เมืองมอญ ตะลอนทัวร์สังขละบุรี – มีโอกาสเดินทางลงพื้นที่ศึกษา ดูงานเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษด่านเจดีย์สามองค์และด่านพุน้ำร้อนกับกรมการค้าต่างประเทศ (คต.) นำทีมโดย นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีคต. และเข้าพักที่โรงแรมริมแม่น้ำซองกาเรีย อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี

หลงมนต์เมืองมอญ

สะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย

หลังจากดูงานเสร็จได้ไปเปิดหูเปิดตาไปเยี่ยมชมสถานที่ไฮไลต์สำคัญที่นักท่องเที่ยวจากทุกสารทิศต้องมา เช็กอิน ไม่อย่างนั้นถือว่ายังไปไม่ถึงสังขละบุรี นั่นคือการไปเยือน “สะพานอุตตมานุสรณ์” หรือที่คนทั่วไปนิยมเรียกกันว่า “สะพานมอญ”

หลงมนต์เมืองมอญ

สะพานมอญข้ามแม่น้ำซองกาเรีย

สะพานแห่งนี้เป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย มีความยาว 445 เมตร และเป็นสะพานไม้ที่ยาวเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากสะพานไม้อูเบ็ง ในประเทศเมียนมา เป็นสะพานที่ข้ามแม่น้ำซองกาเรีย ที่ ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี สร้างขึ้นโดยการดำริของหลวงพ่ออุตตมะ เจ้าอาวาสวัดวังก์วิเวการาม ในปีพ.ศ.2528 จนถึงพ.ศ.2530 โดยใช้แรงงานชาวมอญ เพื่อใช้สัญจรไปมาของชาวมอญและชาวไทยที่อาศัยอยู่บริเวณนี้

หลงมนต์เมืองมอญ

นักท่องเที่ยวตักบาตรยามเช้า

ในวันนั้นเราตื่นแต่เช้าตรู่ไปยังสะพานแห่งนี้ เพื่อไปตักบาตรกับพระมอญกว่าร้อยรูปและที่พิเศษกว่าการตักบาตรที่ไหนๆ คือการได้แต่งองค์ทรงเครื่องแบบชาวมอญ สร้างสีสันให้กับการท่องเที่ยวครั้งนี้ยิ่งนัก

หากใครไปที่นี่ถ้าสนใจจะแต่งตัวแบบชาวมอญก็สอบถาม เจ้าหน้าที่โรงแรมที่พักได้เลย รับรองว่าจัดสรรมาให้ได้ บางที่ก็มีให้เช่า หรือบางที่บริการฟรีพร้อมข้าวของที่จะใช้ตักบาตร รวมทั้ง ยังมีบริการพาทัวร์ไปยังสถานที่ไฮไลต์ในเมืองสังขละบุรีอีกด้วย

หลงมนต์เมืองมอญ

อุดหนุนดอกไม้สวยๆ หน่อยค่ะกับสาวไทยในชุดมอญ

เสร็จจากกิจกรรมการตักบาตรเราก็เดินเล่นสำรวจอาคารบ้านเรือนรอบๆ สะพานที่เต็มไปด้วยร้านค้าขายของที่ระลึก เสื้อผ้า อาหาร ของฝาก ซึ่งส่วนใหญ่ราคาไม่แพง

หลงมนต์เมืองมอญ

ถ่ายรูปกับชาวมอญเป็นที่ระลึก

สะพานมอญที่เราเห็นในวันนี้เป็นสะพานที่ถูกซ่อมแซมขึ้นมาใหม่ เนื่องจากวันที่ 28 ก.ค.2556 สะพานแห่งนี้ถูกกระแสน้ำพัดจนขาดเป็นสองท่อน เป็นผลจากการที่ฝนตกติดต่อกันมาหลายวัน ทำให้เกิดน้ำป่าไหลเชี่ยวกรากจากทุ่งใหญ่นเรศวรพัดตอไม้ลงสู่แม่น้ำซองกาเรีย ปะทะกับเสาสะพานทำให้เกิดขาดกลาง

จากนั้นมีการซ่อมแซมโดยบริษัทผู้รับเหมา แต่มีปัญหา ไม่สามารถนำไม้ที่ต้องขนส่งมาจากภาคอีสานมาซ่อมแซมได้ เนื่องจากเกรงว่าจะผิดกฎหมาย แต่ด้วยความร่วมมือจากทหารช่างจากกองพลทหารราบที่ 9 (พล.ร.9) ค่ายสุรสีห์ ร่วมกับชาวบ้าน อ.สังขละบุรี ใช้เวลาเพียงแค่ 39 วันการซ่อมแซมก็แล้วเสร็จ และมีพิธีเปิดใช้อีกครั้งอย่างเป็นทางการในวันที่ 18 ต.ค.2557 ซึ่งเป็นวันครบรอบชาตกาล 104 ปีของหลวงพ่ออุตตมะ

หลงมนต์เมืองมอญ

วัดหลวงพ่ออุตตมะเดิมที่จมใต้น้ำ

ข้อมูลจากวิกิพีเดียระบุว่า หลวงพ่ออุตตมะ เป็นพระภิกษุที่ได้รับความเคารพเลื่อมใสในหมู่คนไทยเชื้อสายมอญและชาวพุทธทั่วไป เดิมชื่อเอหม่อง เกิดพ.ศ.2453 ที่หมู่บ้านโมกกะเนียง ต.เกลาสะ อ.เย จ.เมาะลำเลิง ประเทศเมียนมา

ท่านเข้ามาในประเทศไทยครั้งแรกทาง จ.เชียงใหม่ เมื่อพ.ศ.2486 โดยเดินธุดงค์มาจำพรรษาอยู่ที่วัดสวนดอก ก่อนจะออกธุดงค์ไปแม่ฮ่องสอน ตาก เชียงราย น่าน กาญจนบุรี เนื่องจากเหตุการณ์บ้านเมืองในประเทศเมียนมาขณะนั้นท่านจึงเดินทางเข้าสู่ประเทศไทยอีก ครั้ง ทางหมู่บ้านอีต่อง ต.ปิล็อก อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี

ขณะจำพรรษาอยู่ที่วัดเกาะ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี มีคนมาแจ้งข่าวว่าที่สังขละบุรีมีชาวมอญจากบ้านเดิมของท่านอพยพเข้าเมืองไทยและต้องการนิมนต์ท่านไปเยี่ยม ท่านได้พบกับชาวมอญที่อพยพมาจากโมกกะเนียง เจ้าคะเล และ มะละแหม่ง และพาชาวมอญเหล่านี้ไปอาศัยอยู่ที่บ้านวังกะล่าง ถือเป็นจุดกำเนิดของชุมชนชาวมอญในสังขละบุรี

หลงมนต์เมืองมอญ

นั่งเรือชมวัดใต้น้ำ

ในปีพ.ศ.2499 หลวงพ่ออุตตมะร่วมกับชาวกะเหรี่ยงและชาวมอญพร้อมใจกันสร้างศาลาวัดขึ้น มีฐานะเป็นสำนักสงฆ์ แต่ชาวบ้านโดยทั่วไปเรียกว่าวัดหลวงพ่ออุตตมะ ตั้งอยู่บนเนินสูงในบริเวณที่เรียกว่าสามประสบ เพราะมีแม่น้ำ 3 สายไหลมาบรรจบกัน คือ แม่น้ำซองกาเรีย แม่น้ำบีคลี่ แม่น้ำรันตี

ในปีพ.ศ.2505 ได้รับอนุญาตจากกรมการศาสนาให้ใช้ชื่อว่า “วัดวังก์วิเวการาม” ในวัดมีการก่อสร้างเจดีย์จำลองแบบจากวัดมหาโพธิ เมืองพุทธคยา ประเทศอินเดีย เริ่มก่อสร้างพ.ศ.2518 แล้วเสร็จ เมื่อพ.ศ.2529

หลงมนต์เมืองมอญ

วัดใต้น้ำสังขละบุรี

ต่อมาการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยได้ก่อสร้างเขื่อนวชิราลงกรณ เพื่อกักเก็บน้ำในปีพ.ศ.2527 น้ำในเขื่อนจะท่วมตัวอำเภอเก่า รวมทั้งหมู่บ้านชาวมอญ ทางวัดจึงได้ย้ายมาอยู่บนเนินเขาในที่ปัจจุบัน โดยทางราชการได้ช่วยเหลือในการอพยพผู้คนซึ่งมีอยู่ราว 1,000 หลังคาเรือน บนพื้นที่ 1,000 ไร่เศษ

ส่วนบริเวณวัด หลวงพ่ออุตตมะเดิมปัจจุบันจมอยู่ ใต้น้ำและมีชื่อเสียงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันซีนไทยแลนด์ เป็นที่รู้จักในชื่อว่า วัดใต้น้ำสังขละบุรี ซึ่งในทริปนี้เราก็ได้ล่องเรือไปชมด้วย

หลงมนต์เมืองมอญ

พระอาทิตย์ตกดินริมแม่น้ำซองกาเรีย

หลงมนต์เมืองมอญ

สังขละบุรียามค่ำคืน

มาสังขละบุรีขอบชายแดนไทย-พม่า ดินแดนแห่งโรงงานผลิตรองเท้า เสื้อผ้า กระจายอยู่มากมาย เราจึงไม่พลาดที่จะไปช็อปปิ้ง สินค้าส่วนใหญ่จะผลิตเพื่อการส่งออก มีเอาต์เล็ตไว้เพื่อจำหน่ายสินค้าคู่กันไป ที่เราจะแนะนำในทริปนี้คือเอาต์เล็ตของบริษัท บาซินี่ เอ็นเตอร์ไพรซ์ จำกัด ผู้ผลิตรองเท้า Bloc B, HUSH PUPPIES, Salamanda ตั้งอยู่บริเวณชายแดน อ.สังขละบุรี ซึ่งราคาถูกกว่าเป็นหลัก พันบาทต่อคู่

หลงมนต์เมืองมอญ

บรรยากาศในโรงงานผลิตรองเท้า บรรดาคนงานขะมักเขม้นผลิตรองเท้า

หลงมนต์เมืองมอญ

รองเท้าสวยงาม

ยิ่งได้เห็นบรรยากาศการทำงานในโรงงานแห่งนี้แล้วรู้สึกได้ว่ามีการผสมผสานของวัฒนธรรมได้อย่างลงตัวทั้งของไทย เมียนมา และมอญ เพราะคนงานที่นี่ยิ้มแย้มแจ่มใส แต่งองค์ทรงเครื่องแบบพื้นเมือง ประแป้งทานาคา โดยเฉพาะผู้หญิงจะประดับผมเผ้าด้วยดอกไม้สีสันสดใส ทำให้รู้สึกได้ว่าคนงานที่นี่ทำงานด้วยความสุข หรืออย่างน้อยก็มองหาความสุขจากงานที่ทำได้

จากการได้คุยกับ คุณสัมพันธ์ เกียรติสมมารถ ประธานกรรมการบริษัท บาซินี่ เอ็นเตอร์ไพรซ์ จำกัด ได้ข้อมูลว่าที่โรงงานมีแรงงานจากเมียนมา/มอญถึง 600-700 คน เป็นแรงงานต่างด้าวเช้าไปเย็นกลับ อยู่กันแบบพี่น้องมายาวนาน แรงงาน เหล่านี้ แม้จะไม่มีความรู้สูง แต่มีความขยันตั้งใจในการทำงานมาก ในช่วงที่เกิดความไม่สงบที่นี่ก็เปิดให้เป็นที่หลบภัยของ ทั้งชาวไทยและ เมียนมา ผ่านทุกข์ผ่านสุขมาด้วยกัน หลายครั้ง ทำให้รู้สึกผูกพันกันโดยปริยาย บางคนทำงานกันมาเกิน 10 ปี

หลงมนต์เมืองมอญ

สัมพันธ์ เกียรติสมมารถ

พร้อมฝากถึงภาครัฐว่าให้สานต่องานด้านความมั่นคง สร้างความสามัคคีปรองดองให้เกิดขึ้นอย่างยั่งยืนและยาวนานตลอดไป

เพื่อประโยชน์สุขโดยรวมของผู้คนทั้งสองฝั่งประเทศ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน