เที่ยวแถบเทือกเขาแอลป์ ชมเมืองเก่า-สุดหรูในฝรั่งเศส

เที่ยวแถบเทือกเขาแอลป์ ชมเมืองเก่า-สุดหรูในฝรั่งเศส“อิกซ์เลส์แบงส์”(Aix-les-BainsX) ชื่อฟังดูไม่คุ้นหูเท่าไหร่ เพราะเป็นเมืองเก่าขนาดเล็กแค่ 8 พันไร่ที่ซ่อนตัวอยู่ในเทือกเขาแอลป์ ในจังหวัดซาวัว แคว้นโอแวร์ญ-โรนาลป์ ของประเทศฝรั่งเศส ที่คนไทยไม่ค่อยได้ไปเยือน

ที่นี่ค่อนข้างเงียบสงบ มีคนอาศัยอยู่แค่ 3 หมื่น แต่ก็แฝงไปด้วยเสน่ห์ที่น่าหลงใหล เพราะเป็นเมืองสปาน้ำพุร้อนแห่งเทือกเขาแอลป์ชื่อก้องของฝรั่งเศส ยืนยันได้จากซากปรักหักพังของห้องอาบน้ำโรมันในอดีตที่ขุดค้นพบ

ปัจจุบันกลายเป็นเมืองตากอากาศสุดหรูของฝรั่งเศส เพราะนอกจากจะงดงามด้วยวิวของเทือกเขาแอลป์ที่โอบล้อมแล้ว ยังตั้งอยู่ริมทะเลสาบ Bourget ทะเลสาบธรรมชาติที่ลึกและใหญ่ที่สุดของฝรั่งเศสดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลกให้เข้ามาเยือนแบบไม่ขาดสาย ด้วยกิจกรรมท่องเที่ยวที่ครบในทุกฤดู

เที่ยวแถบเทือกเขาแอลป์ ชมเมืองเก่า-สุดหรูในฝรั่งเศส

เมืองอิกซ์เลส์แบงส์

เที่ยวแถบเทือกเขาแอลป์ ชมเมืองเก่า-สุดหรูในฝรั่งเศส

น้ำก๊อกดื่มได้

หน้าร้อนก็แช่น้ำแร่คลายเครียด บำบัดโรคไขข้อและโรคเลือดได้มากกว่า 140 รายการ จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของเมืองสปา

ส่วนสายสปอร์ตก็เพลิดเพลินไปเล่นกีฬาทางน้ำในทะเลสาบ มีทั้งล่องเรือยอชต์ พายเรือ ว่ายน้ำ และขี่จักรยานกินลมชมทะเลสาบ

เที่ยวแถบเทือกเขาแอลป์ ชมเมืองเก่า-สุดหรูในฝรั่งเศส

เรือยอชต์จอดรอสายสปอร์ต

เที่ยวแถบเทือกเขาแอลป์ ชมเมืองเก่า-สุดหรูในฝรั่งเศส

ฟ้าใสที่เกรอน็อบ

หน้าหนาวก็มีสกีและรีสอร์ตหรูบนเทือกเขาแอลป์ให้ขึ้นไปสัมผัส ลงมาพื้นราบด้านล่างมีแกรนด์เซอร์เคิลกาสิโนไว้ให้ได้เสี่ยงโชคกันอีกด้วย

แต่มาเที่ยวที่นี่ต้องกระเป๋าหนักหน่อย เพราะเป็นเมืองตากอากาศที่มีความเฉพาะทำให้ค่าครองชีพแพงหูฉี่

มาเหยียบเมืองน้ำแร่แล้ว เขาบอกต้องลองกินน้ำก๊อกในห้องพักเพราะเป็นน้ำดื่มธรรมชาติที่ทรงคุณค่ากว่าน้ำแร่ขวด Aix-les-BainsX ราคาแพงที่วางขายเกลื่อนเมือง เลยถือแก้วเดินเข้าห้องน้ำไขก๊อกยกซดไปครึ่งแก้ว รสชาติก็เหมือนน้ำแร่หรูๆ นี่แหละ

ไกด์เม้าธ์ให้ฟังว่าคนไทยที่มาเที่ยวแถบเทือกเขาแอลป์มักทำให้พวกฝรั่งประหลาดใจ เพราะชอบไปควานหาซื้อน้ำแร่ขวดมากินทั้งที่เขามีก๊อกน้ำแร่ธรรมชาติให้กินฟรีทั้งหุบเขา

วันนี้เราแวะกินกลางวันที่ Brasserie de L’ Aquarium ร้านอาหารริมทะเลสาบ จานแรกที่เสิร์ฟเรียกน้ำย่อยคือ เอสคาโก้ (Escaego) หรือ หอยทากอบเนยผักชีฝรั่ง เมนูประจำชาติของฝรั่งเศส กินครั้งแรกมือพองเลย เพราะทะลึ่งไปจับตัวหอยที่เขาเพิ่งอบมาร้อนๆ แต่พอได้เข้าปากก็ลืมเจ็บเพราะมันทั้งหนึบทั้งหอมเนย กินเพลินจนหมดถาด มารู้อีกทีมันคือยาโป๊ชั้นดีของฝรั่งเศสทำเอาสตันต์ไปหนึ่งวิ เลยรีบจ้วง เมนครอส ริซอตโตกุ้ง (Risotto) ข้าวผัดอิตาเลียนที่หุงด้วยน้ำซอสและครีมชีส ต่อแบบไม่ยั้งจนหมดจาน หวังให้ช่วยเจือจางสรรพคุณหอยทาก

เที่ยวแถบเทือกเขาแอลป์ ชมเมืองเก่า-สุดหรูในฝรั่งเศส

เมนูเอสคาโก้

เที่ยวแถบเทือกเขาแอลป์ ชมเมืองเก่า-สุดหรูในฝรั่งเศส

ริซอตโตกุ้ง

อิ่มท้องแล้วเรานั่งรถยนต์ต่อไปที่ เกรอน็อบ (Grenoble) ที่มีเทือกเขาแอลป์เป็นฉากหลัง ถ้ามาหน้าหนาวจะเห็นหิมะขาวโพลนเป็นแบ๊กกราวด์ แต่ถ้ามาหน้าร้อนจะได้สัมผัสบรรยากาศฟ้าใส มองเห็นแนวเทือกเขาและเมืองเก่าหลากสีที่เรียงลดหลั่นกันสวยงามชัดเจนยิ่งนัก

เที่ยวแถบเทือกเขาแอลป์ ชมเมืองเก่า-สุดหรูในฝรั่งเศส

แอปเปิ้ลเชื่อม

เที่ยวแถบเทือกเขาแอลป์ ชมเมืองเก่า-สุดหรูในฝรั่งเศส

สลัดฟัวกราส์

ไฮไลต์ของการเที่ยวเมืองนี้คือนั่งกระเช้าลอยฟ้า (Grenoble-Bastille Cable CarX) ชมธรรมชาติบนเทือกเขาแอลป์และวิวแม่น้ำอีแซร์ แต่บังเอิญวันที่เราไปเกรอน็อบถูกโจมตีด้วยคลื่นความร้อนจนอุณหภูมิพุ่งขึ้นไปสูงถึง 40 องศาเซลเซียส ทำเอาถอดใจไม่นั่งกระเช้า เพราะขืนไปนั่งเบียดกันในแคปซูลแคบๆ ที่เลื่อนไปให้แดดเผานานๆ ละก็ คงจะสลบเป็นลมแดดกันยกแก๊ง เลยเปลี่ยนใจไปขับรถชมเมืองแทนซึ่งก็งดงามไม่แพ้กัน

เที่ยวแถบเทือกเขาแอลป์ ชมเมืองเก่า-สุดหรูในฝรั่งเศส

ชมเมืองเกรอน็อบ

เที่ยวแถบเทือกเขาแอลป์ ชมเมืองเก่า-สุดหรูในฝรั่งเศส

นั่งกระเช้าลอยฟ้า

จากนั้นนั่งรถออกจากเกรอน็อบต่อไปอีก 114 ก.ม. ใช้เวลาราว 1 ชั่วโมง ก็มาถึงลียง เมืองหลวงแห่งศิลปะการทำอาหารของฝรั่งเศส เมืองนี้ค่อนข้างพลุกพล่านมีประชากรราว 1.25 ล้านคน ใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากปารีส

ลงจากรถปุ๊บก็รู้สึกร้อนวูบแสบไปทั้งตัวจากคลื่นความร้อนที่แผ่เข้าผิวหนังแบบไม่ทันตั้งตัว คราวนี้อุณหภูมิพุ่งทะลุไป 43 องศาเซลเซียส ไกด์ต้องควักบีรอคคามาแจกให้ผสมน้ำขวดดื่มระหว่างเดินเที่ยวสำรวจเมือง เพราะกลัวจะเพลียจนเป็นฮีตสโตรก ระหว่างที่เดินเล่นจะสังเกตเห็นว่าชาวเมืองลียง ต่างพากันออกมาเล่นน้ำพุในสวนสาธารณะของเมืองเพื่อคลายร้อนกันทุกมุมเมืองเลยทีเดียว รู้สึกคิดถึงเมืองไทยขึ้นมาเลย

เที่ยวแถบเทือกเขาแอลป์ ชมเมืองเก่า-สุดหรูในฝรั่งเศส

ชาวลียงเล่นน้ำพุดับร้อน

แม้อากาศจะร้อนแต่เราก็สู้เมื่อเดินมาถึงถนนเรพูบบลิก (Rue de la republique X) เพราะเป็นย่านถนนช็อปปิ้งยาวเหยียดใจกลางเมือง มีทั้งแบรนด์ไฮเอนด์ ไปจนถึงแบรนด์เฉพาะกลุ่มอย่างกระเป๋าผ้าใบคลุมรถบรรทุกใช้แล้ว ที่ทำให้แก๊งเราต้องเดินตามหากันจ้าละหวั่น เพราะซื้อที่นี่ถูกกว่าเมืองไทยอื้อเลย

ช็อปเสร็จภาคบ่ายขอชิลชิลไปกับบรรยากาศเมืองเก่า ศูนย์กลางการค้ายุคโรมันเรืองอำนาจ ด้วยการนั่งรถขึ้นไปชมโบสถ์นอตเทรอดาม เดอ โฟวิแยร์ (Basilique Notre-Dame de Fourvire) ที่ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขาโฟวิแยร์ สัญลักษณ์ความรุ่งโรจน์ของลียง

มหาวิหารแห่งนี้อายุกว่า 160 ปี ชาว ลียงให้ความเคารพนับถือมากที่สุดด้วยศรัทธาแห่งพระแม่มารีอา วิหารมีลักษณะคล้ายกับป้อมปราการโรมันงดงามด้วยสถาปัตยกรรมผสมผสาน ระหว่างโรมันและไบแซนไทน์ จนได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปีค.ศ.1998 ภายในวิหารตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสกและการเพนต์ลวดลายที่งดงาม ด้านบนสุดมีรูปปั้นพระแม่มารีสีทองยืนเด่นปกป้องคุ้มครองชาวลียงให้อยู่เย็นเป็นสุข

เที่ยวแถบเทือกเขาแอลป์ ชมเมืองเก่า-สุดหรูในฝรั่งเศส

โบสถ์นอตเทรอดาม เดอ โฟวิแยร์

เที่ยวแถบเทือกเขาแอลป์ ชมเมืองเก่า-สุดหรูในฝรั่งเศส

ภายในวิหารนอตเทรอดาม เดอ โฟวิแยร์

เที่ยวแถบเทือกเขาแอลป์ ชมเมืองเก่า-สุดหรูในฝรั่งเศส

แกรนด์เซอร์เคิลกาสิโน

สถานีสุดท้ายของเราคือการไปลงเรือแอร์เย็นฉ่ำ ล่องแม่น้ำโซน พร้อมกินข้าวกลางวันคลุกเคล้าวิวเมืองเก่าวิเยอลียง (vieux Lyon) แสนสวยงามที่ทอดยาวริมน้ำ 2 ข้างทาง ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก โดยยูเนสโก ในฐานะพื้นที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และตัวอย่างชุมชนสมัยเรอเนซองส์ที่ยังคงความสมบูรณ์มากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

เที่ยวแถบเทือกเขาแอลป์ ชมเมืองเก่า-สุดหรูในฝรั่งเศส

เมืองเก่าวิเยอลียง

เหตุที่อาคารบ้านเรือนในคริสต์ศตวรรษที่ 14-16 ที่นี่ดูสวยเลิศอลัง เพราะเมื่อครั้งอดีตเป็นที่พักของเหล่าพ่อค้าวาณิชจากดินแดนข้างเคียงที่เข้ามาค้าขายที่ลียง วิวก็สวย สลัดฟัวกราส์ (ตับห่าน) กินกับขนมปังทาเนยก็อร่อยถูกปาก

ตบท้ายด้วยเมนูของหวานที่ดูแปลกตา แอปเปิ้ลเชื่อมกินกับวิปครีมรสชาติอร่อยหอมหวานส่งท้ายปลายทริปได้สมบูรณ์แบบจริงๆ

มยุรี นวมมี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน