วัดแทบแตก นับพันรอรับแจกเหรียญ หลวงปู่เฮง เกจิดังอีสานใต้ เทพเจ้าแห่งโชคลาภ แจกข้าวสาร 3,000 กก. ธนบัตรขวัญถุง 2แสนบาท แห่ส่องเลขหางประทัด
วันที่ 29 มี.ค.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา ที่วัดพัฒนาธรรมาราม หรือ วัดบ้านด่านช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ เอ พุทธศิลป์ ผู้จัดสร้างเหรียญวัตถุมงคลรุ่น “เจริญพร 8 รอบ หลวงพ่อเฮง ปภาโส”
เอ พุทธศิลป์ พร้อมทีมงาน ได้ร่วมกันประกอบพิธีพราหมณ์บวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ก่อนประกอบพิธีพุทธาภิเษกเหรียญวัตถุมงคลรุ่น “เจริญพร 8 รอบ โดยหลวงปู่เฮง ปภาโส” ในช่วงบ่าย
ทั้งนี้ ช่วงทำพิธีพราหมณ์ ได้มีการจุดประทัดจำนวนหลายนัด ก่อนจะปรากฏเลขหางประทัดคือเลข 317 กับ 56 ทำให้นักเสี่ยงโชคต่างไม่พลาดที่นำเลขเด็ดดังกล่าวไปเสี่ยงโชคในงวดวันที่ 1 เม.ย.2567 ที่จะถึงนี้กันตามระเบียบ
จากนั้นในช่วงบ่ายเวลา 13.00 น. หลวงปู่เฮง ปภาโส เจ้าอาวาสวัดพัฒนาธรรมาราม เกจิดังอีสานใต้ เป็นประธานในพิธีพุทธาภิเษก เหรียญวัตถุมงคลรุ่น “เจริญพร 8 รอบ หลวงพ่อเฮง ปภาโส”
โดยมีหลวงปู่เฮง ปภาโส เป็นประธานนั่งปรกอธิษฐานจิตร่วมกับพระเกจิคณาจารย์ อีก 15 รูป อย่างเข้มขลังค์ ท่ามกลางประชาชนพุทธศาสนิกชนในพื้นที่ชายแดน ทั้งชาวไทยและกัมพูชา และจากต่างจังหวัดที่มาร่วมพิธีจำนวนมาก
สำหรับเหรียญวัตถุมงคลรุ่น “เจริญพร 8 รอบ หลวงพ่อเฮง ปภาโส” เนื้อเหรียญมีหลากหลายแบบให้เช่าบูชา จัดสร้างโดย เอ พุทธสิลป์ เพื่อสมทบทุนสร้างมลฑลรูปเหมือนหลวงปู่เฮง ปภาโส องค์ใหญ่ที่สุดในโลก และบูรณะปฏิสังขรณ์ภายในวัด
โดยวัตถุมงคลรุ่นดังกล่าว ที่จัดสร้างโดย เอ พุทธศิลป์ ยังได้รับการการันตีพระแท้ตลอดชีพ จากพีเอสจีเอ ออเธนทิเคชั่น บริษัทรับตรวจสอบ ออกบัตรรับรอง การันตีความแท้อย่างเป็นทางการ ในเครือสถาบันรับรองและตรวจสอบวัตถุมงคลประเทศไทย ACI Certified Institute อีกด้วย
มีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการยกระดับการสะสมของประเทศไทย ให้เป็นที่ยอมรับของคนไทย และชาวต่างประเทศทั่วโลก โดย ป๋อง สุพรรณ เซียนพระชื่อดังของประเทศไทยอีกด้วย ทั้งนี้ หากประชาชนสนใจ หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อสอบถามได้ที่เพจเฟซบุ๊ก ที่ใช้ชื่อว่า “ประชาสัมพันธ์ข่าวสารงานบุญ-เอ พุทธศิลป์ ถุงเงิน”
หลังจากเสร็จสิ้นพิธีพุทธาภิเษก เอ พุทธศิลป์ ยังได้ถวายปัจจัยกับหลวงปู่เฮง ปภาโส จำนวน 3,283,500 บาท พร้อมแจกข้าวสาร 3,000 กิโลกรัมให้กับประชาชนที่มาร่วมงานคนละ 2 กิโลกรัม รวมทั้งยังมอบธนบัตรขวัญถุงให้อีกคนละ 100 บาท จำนวนเงินทั้งหมด 200,000 บาท ไม่พอยังแจกเหรียญวัตถุมงคลรุ่นดังกล่าวอีก 2,500 เหรียญ
โดยมีประชาชนทั้งชาวไทยและกัมพูชานับพันคนต่างกรูเข้าไปรอรับเหรียญด้วยความศรัทธาหลวงปู่เฮงเป็นอย่างยิ่ง ท่ามกลางแดดที่ร้อนจัด ขณะที่เซียนพระได้รอรับซื้อเช่าเหรียญที่แจกให้ประชาชนอยู่ที่ในวัด เพื่อนำไปปล่อยให้เช่าต่อในราคาที่สูงขึ้น
ขณะที่ชาวบ้านบางคนก็เก็บเอาไว้เพื่อบูชา และคราวใดที่มีการปลุกเสกเหรียญพระเครื่องต่าง ๆ ก็จะมีประชาชนมารอรับแจกจำนวนมากทุกครั้งด้วยความศรัทธา และเป็นที่ต้องการของเซียนพระเป็นอย่างมาก
สำหรับหลวงปู่เฮง ปภาโส เจ้าอาวาสวัดพัฒนาธรรมาราม สิริอายุ 96 ปี ซึ่งเป็นผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็น เทพเจ้าแห่งโชคลาภของแดนดินถิ่นอีสานใต้ วัดตั้งอยู่ที่ บ้านด่านช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์
หลวงปู่เฮง เกิดเมื่อเดือนสิงหาคม 2470 ปีเถาะ พ่อแม่เป็นชาวกัมพูชา แต่ได้อพยพมาอยู่ประเทศไทยในสมัยที่ฝรั่งเศสปกครอง โดยย้ายมาอยู่หมู่บ้านปราสาท ต.ตาอ็อง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ประกอบอาชีพทำนาทำสวน มีพี่น้องด้วยกัน 13 คน เป็นบุตรคนที่ 7 ที่หมู่บ้านปราสาท
ในวัยเด็กอายุ 13-14 ปี พระอาจารย์เฉิด ธัมมกโร ลูกพี่ลูกน้องของหลวงปู่เฮง เดินทางธุดงค์มาจากประเทศกัมพูชา เข้ามาเยี่ยมญาติ พี่น้องที่ประเทศไทย บอกจะเดินธุดงค์ไปเรื่อย ๆ ก่อนที่จะไปได้ขอกับแม่ของท่าน โดยขอให้น้องไปด้วย และจะได้สอนให้ได้หัดเรียนเขียนอ่านหนังสือทำให้ได้ศึกษาอักษรขอมศาสตร์วิชาแขนงต่าง ๆ ตั้งแต่บัดนั้น ศึกษากับพระอาจารย์เฉิด พระพี่ชายและออกธุดงค์ไปด้วยเสมอ
จนอายุ 15 ปี ได้กลับมาบ้านและบวชเรียนเป็นเณร เรียนภาษาไทย ขอม และภาษาบาลี เพิ่มเติม สอบได้นักธรรมโท ครั้นอายุ 21 ปี ไปเป็นทหารที่กรมทหารม้า จ.ลพบุรี เลี้ยงม้าขี่ม้าอยู่ 3 ปี หลังปลดประจำการก็ท่องเที่ยวไปเรื่อย ช่วงชีวิตหนึ่งของท่านท่องเที่ยวไปทั่ว และไปอยู่ประเทศกัมพูชา
จนกระทั่ง พ.ศ.2495 ได้ย้ายไปอยู่ จ.จันทบุรี มีโอกาสพบกับหลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส จึงตัดสินใจบวช หลวงพ่อคงได้ถ่ายทอดวิทยาคม อักขระเลขยันต์ ภาษาขอม เขียนผงลบผง สักยันต์ และคาถาต่าง ๆ มากมาย
โดยเฉพาะคาถาคงกระพันชาตรี ย่นระยะทาง มุ่งศึกษาจนมีความชำนาญ กระทั่งหลวงพ่อคงไว้ใจให้เขียนยันต์ อักขระแทน และเข้าร่วมปลุกเสกด้วย พ.ศ.2532 หลวงพ่อคงมรณภาพ จึงได้รับการแต่งตั้งเป็น เจ้าอาวาสวัดวังสรรพรสแทน แต่อยู่ได้เพียง 6 พรรษา ก็ขอลาออกและธุดงค์ไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งกลับมาบ้านเกิดอยู่จำพรรษาที่วัดบ้านด่านช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ จนถึงปัจจุบัน
เป็นพระเกจิอาจารย์ที่ชาวอีสานใต้และชาวกัมพูชาแถบชายแดน ให้ความเลื่อมใสศรัทธา ด้วยเป็นพระที่เปี่ยมด้วยเมตตาธรรมยามได้รับกิจนิมนต์ไปงานบุญต่างๆ ไม่เคยปฏิเสธ แม้ว่าอายุจะย่างเข้าสู่วัยชราและมีปัญหาด้านสุขภาพตามวัย
อีกทั้งเมื่อท่านรับกิจนิมนต์แล้วท่านจะต้องเดินทางไปถึงสถานที่งานก่อนเป็นประจำ ส่วนกิจนิมนต์ในพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลตามวัดต่าง ๆ ท่านต้องเดินทางเข้าร่วมพิธีเสมอ แม้จะไกลหรือจะเหน็ดเหนื่อยเพียงใด ก็มีความสุขที่ได้ปฏิบัติเช่นนั้น ศิษย์ผู้คอยดูแลปรนนิบัติก็ไม่สามารถ ทัดทานได้
ด้านวัตถุมงคลที่อธิษฐานจิตปลุกเสกนั้น ล้วนแล้วแต่มีประสบการณ์เล่าขาน ทำให้บรรดานักสะสมนิยมพระเครื่องวัตถุมงคลต่างเสาะแสวงหามาบูชาครอบครองติดตัวเกียรติคุณบารมี รวมทั้งพุทธาคมและพลังจิตของท่าน ทำให้ได้รับการยกย่องว่าเป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังของจังหวัดสุรินทร์และแดนดินถิ่นใต้อีกด้วย