จากกรณีที่ น.ส.กัญญารัตน์ ไพเพชรดี ได้ขับรถยนต์ส่วนมาจากผับเพื่อชีวิตแห่งหนึ่งใน จ.พิษณุโลก ก่อนจะพุ่งชนรถจักรยานยนต์ที่จอดติดไฟแดง 4 แยก บขส.เก่าถนนมิตรภาพ โดยไม่มีการเบรก จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 02.30 น. วันที่ 1 ก.พ. ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตามหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้มีการตรวจแอลกอฮอล์กับ น.ส.กัญญารัตน์ โดยอ้างว่า ได้ประสานให้โรงพยาบาลเอกชนในจังหวัดช่วยตรวจ ทว่าแพทย์ปฏิเสธ เนื่องจากไม่มีเครื่องมือ และผู้เชี่ยวชาญทางนิติวิทยาศาสตร์ กอปรกับเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ของกองบังคับการตำรวจจราจรเกิดเสียหมดทุกเครื่อง จึงต้องรอถึง 12 ชั่วโมง จึงหาเครื่องใหม่ได้ ซึ่งผลคือไม่พบแอลกอฮอล์แต่อย่างใด

ความคืบหน้าล่าสุดแฟนเพจเฟซบุ๊ก “บิ๊กเกรียน” ที่ได้ตามติดประเด็นดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง เปิดเผยว่า ทางฝั่งญาติผู้เสียชีวิต 2 ราย คือ น.ส.ฐิติรัตน์ มุกดาอ่อน และ น.ส.กนกวรรณ มีแก้ว ยืนกรานจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง ทว่าจนถึงบัดนี้ใกล้ครบกำหนดทำบุญ 100 วัน (15 พ.ค.) ให้กับผู้เสียชีวิตแล้ว แต่คดียังไม่คืบหน้าไปไหน จนตั้งข้อสงสัยว่าอาจมีความไม่ชอบมาพากลของพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี

จีรภา มุกดาอ่อน พี่สาวของ น.ส.ฐิติรัตน์ เผยว่า “หลังเกิดเหตุมีการเจรจาชดใช้ค่าเสียหายกันหลายครั้ง แต่ทางตนไม่อาจรับได้ เนื่องจากตัวแทนบริษัทประกันภัยจะชดเชยค่าเสียหายเพียง 3 แสนบาท ส่วนน.ส.กัญญารัตน์ ที่เมาแล้วขับก็ไม่มีท่าทีอะไร จึงตกลงพร้อมใจกับในครอบครัวให้ ร.ต.อ.ธาวิน หนองหลวง ร้อยเวรเจ้าของคดี สรุปสำนวนการสอบสวนส่งอัยการเพื่อเข้าสู่กระบวนการ แต่จนบัดนี้ยังไม่มีความคืบหน้า”

“เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ตนทวงถามความคืบหน้าไปยัง ร.ต.อ.ธาวิน ได้รับคำตอบว่ารอผลพิสูจน์รอยเฉี่ยวชนจากกองวิทยาการภาค 6 อยู่ ในฐานะเสียหายจึงอยากทราบความชัดเจน และไม่ประสงค์จะเจรจาอะไรอีก และต้องการให้คดีนี้เป็นเคสตัวอย่างคดีเมาแล้วขับต่อไป”

 

 

 

 

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน