ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดเชียงใหม่วันนี้(3 พ.ค.61) ว่า ขณะนี้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์และความคิดเห็นเป็นจำนวนมากจากการที่ผู้ใช้เฟซบุ๊คชื่อ “ไปรยา ขันธนา” โพสต์ภาพรถยนต์ที่กระจกหน้ารถได้รับความเสียหายจากการถูกทุบและมีก้อนหินขนาดใหญ่คาอยู่ พร้อมบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับความขัดแย้งของตัวเองกับผู้ให้เช่าที่เปิดกิจการย่านสันติธรรม ในตัวเมืองเชียงใหม่ ซึ่งตัวเองเคยเช่าที่เปิดร้าน แต่ต่อมาได้ย้ายออกก่อนจะหมดสัญญาเมื่อประมาณ 2 เดือนที่แล้ว โดยที่ตัวเองไม่ได้เป็นฝ่ายผิดสัญญาและมีการขอเงินค่าประกันคืน แต่ยังไม่ได้รับ ซึ่งเชื่ออาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้รถยนต์ถูกทุบในครั้งนี้ เพราะต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถสืบสวนจนทราบตัวผู้ที่ก่อเหตุและพบว่ามีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับเจ้าของที่รายดังกล่าว โดยที่เจ้าของที่รายดังกล่าวยินยอมที่จะชดใช้ค่าเสียหายในส่วนของรถยนต์ให้ด้วย แต่จะจ่ายน้อยกว่าที่มีการเรียกร้องและขอผ่อนจ่าย

ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่าผู้ใช้เฟซบุ๊คดังกล่าวคือ นางสาว เอ (นามสมมติ) อายุ 37 ปี เจ้าของธุรกิจร้านกาแฟแห่งหนึ่ง ย่านสันติธรรม ในตัวเมืองเชียงใหม่ เปิดเผยว่า เหตุการณ์รถยนต์ที่ถูกทุบกระจกนั้นเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 05.55 น.วันที่ 29 เม.ย.61 บริเวณที่จอดรถใกล้บ้านพักในย่านสันติธรรม โดยมีหลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิด และแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจจนสามารถสืบสวนทราบตัวผู้ก่อเหตุที่พบว่าเป็นลูกน้องของเจ้าของที่ที่ตัวเองเคยเช่าที่เปิดร้าน แต่ย้ายออกมาเปิดร้านที่แห่งใหม่เมื่อกว่า 2 เดือนที่แล้ว เนื่องจากมีปัญหากันโดยที่ตัวเองไม่ได้เป็นฝ่ายผิดสัญญาและร้องขอเงินค่าประกันคืน แต่ยังไม่สามารถเจรจาตกลงกันได้ ซึ่งทางเจ้าของที่รายนี้ยอมรับว่าผู้ที่ก่อเหตุเป็นลูกน้องของตัวเองจริงแต่ไม่ได้สั่งการให้ไปก่อเหตุ เพียงแต่เล่าเรื่องปัญหาให้ฟังและลูกน้องน่าจะไปก่อเหตุเอง อย่างไรก็ตามเจ้าของที่พร้อมจะชดใช้ค่าเสียหายให้ แต่จะจ่ายน้อยกว่าที่มีการเรียกร้องไปและจะขอผ่อนจ่ายด้วย ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะนัดเจรจาไกล่เกลี่ย

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น นางสาว เอ (นามสมมติ) ระบุว่า จนถึงเวลานี้ยังคงหวาดผวาเพราะไม่คาดคิดว่าจากปัญหาความขัดแย้งกันในเรื่องของการเช่าที่เพื่อเปิดร้านขายของและการขอเงินค่าประกันคืน จะกลายเป็นสาเหตุทำให้ต้องมีการก่อเหตุในลักษณะที่รุนแรงเช่นนี้ ซึ่งในครั้งนี้ถือว่าตัวเองโชคดีที่เหตุเกิดกับรถยนต์ที่เป็นสิ่งของ ไม่ใช่ร่างกายหรือชีวิตของตัวเองและคนในครอบครัว โดยเหตุผลที่นำเรื่องราวไปเผยแพร่ในโซเชียลมีเดียนั้น เนื่องจากเชื่อว่ายังมีคนที่โดนกระทำคล้ายกับตัวเองอีก และต้องการจะเตือนภัย เตือนสติ และเป็นอุทาหรณ์ให้กับผู้คน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุลักษณะเดียวกันกับตัวเอง โดยเฉพาะคนทำมาหากินที่กำลังมองหาพื้นที่เช่าเพื่อเปิดร้านค้าขายหรือทำกิจการใดๆ ควรจะมีการค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับเจ้าของที่ให้เช่าด้วยว่าเป็นคนเช่นไร นอกเหนือจากพิจารณาทำเลที่ตั้งอย่างเดียว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน