วันที่ 14 พ.ค. เดลี่เมล์ รายงานว่า ตำรวจอินเดียจับกุมนายเค.วี. โมยทีนกุฎี นักธุรกิจวัย 60 ปี หลังก่อเหตุล่วงละเมิดทางเพศเด็กหญิงวัยเพียง 10 ขวบ และแม่ของเด็กที่นั่งข้างลูกสาว ภายในโรงภาพยนตร์ในเขตเอดัปปัล รัฐเกรละ ทางตอนใต้ของประเทศ
อย่างไรก็ตาม นายโมยทีนกุฎีเพิ่งถูกจับกุมเมื่อวันที่ 12 พ.ค. ทั้งที่เหตุเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 18 เม.ย. และตำรวจได้รับหลักฐานเป็นคลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดจากมูลนิธิการกุศล “ไชลด์ไลน์” (Childline) เมื่อวันที่ 26 เม.ย. แต่ก็ไม่ได้ดำเนินการจับกุม จนสื่อโทรทัศน์นำคลิปดังกล่าวเผยแพร่ให้สังคมรับรู้
นายโมยทีนกุฎีให้การรับสารภาพข้อกล่าวหา ถูกแจ้งข้อหาว่าใช้กำลังข่มขืนใจและล่วงละเมิดทางเพศสตรี จากการตรวจสอบประวัติพบว่าเป็นเจ้าของร้านขายเพชรในเมืองถริชชูร์ รัฐเกรละ
ขณะที่ตำรวจเรียกตัวแม่ของเด็กหญิงมาสอบปากคำและจะพิจารณาความผิดในข้อหารู้เห็นเป็นใจต่อการล่วงละเมิดทางเพศเด็กหญิงด้วย ส่วนรองสารวัตรตำรวจเขตเอดัปปัลถูกสั่งระงับการปฏิบัติหน้าที่เนื่องจากทำงานล้มเหลว
ด้าน “ไชลด์ไลน์” กล่าวว่า ได้ติดต่อไปยังตำรวจทุกวัน หลังได้รับภาพจากกล้องวงจรปิดมา ซึ่งตรวจสอบทั้งหมดแล้ว พบว่านายโมยทีนกุฎีล่วงละเมิดทางเพศสองแม่ลูกพร้อมกัน ตั้งแต่ภาพยนตร์เริ่มฉายจนกระทั่งจบ
“ระหว่างที่ภาพยนตร์พักฉายชั่วคราว (intermission) นายโมยทีนกุฎีก็ออกไปจากโรงภาพยนตร์และกลับเข้าลวนลามสองแม่ลูกอีก หลังจากที่ไชลด์ไลน์แจ้งตำรวจแล้วก็ไปหาตำรวจเพื่อติดตามคดีทุกวัน”
ไชลด์ไลน์กล่าวด้วยว่า ได้ภาพจากกล้องวงจรปิดมาเจ้าของโรงภาพยนตร์และส่งให้ตำรวจ กระทั่งวันเสาร์ ตอนแรกคิดว่าควรให้เวลาตำรวจติดตามคนร้ายหน่อย แต่สุดท้ายก็ยังไม่ดำเนินการใดๆ ขณะที่แหล่งข่าวไม่เปิดเผยชื่อบอกว่า เนื่องจากนายโมยทีนกุฎีเป็นนักธุรกิจร่ำรวยจึงมีอิทธิพล อาจทำให้ตำรวจไม่จับกุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย