น่าสลดใจ สาวปั่นจักรยานกลับบ้าน เจอโรคจิตลักพาตัว ทรมานโหด-ฆ่าอำพราง
เมื่อวันที่ 3 มิ.ย. เว็บไซต์ข่าว เดอะซัน รายงาน ประสบการณ์ น่าสลดใจ ของนางสาวเซียร่าห์ โจกิห์น อายุ 20 ปี นักศึกษา ที่เธอถูกลักพาตัวและฆ่าโดยชายโรคจิตที่ลักพาตัวได้ผู้หญิงหลายคน มันเริ่มต้นเมื่อปีพ.ศ. 2559 เธอกำลังขี่จักรยานกลับบ้านไปตามถนนลูกรัง ที่เมทาโมร่า รัฐโอไฮโอ ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยแฟนหนุ่มของเธอ ทราบชื่อว่า นายจอช โคลาซินสกี้ ขี่จักรยานไปด้วยก่อนทั้งคู่จะแยกย้ายกลับบ้าน แต่นางสาวเซียร่าห์กลับไปไม่ถึงบ้าน
ต่อมา แม่ของนางสาวเซียร่าห์ กังวลที่ลูกตนเองไม่ถึงบ้านเสียที จึงตัดสินใจโทรแจ้งตำรวจ จากนั้นตำรวจร่วมด้วยสมาชิกชุมชนกว่า 100 คน ช่วยกันตามหานางสาวเซียร่าห์ในพื้นที่ละแวกใกล้บ้าน เบื้องต้นพบเจอจักรยานของเธอถูกทิ้งไว้ในไร่ข้าวโพด ซึ่งไม่พบเบาะแสของเธอ แต่กลับมีสิ่งของที่แปลกปลอมตกอยู่บริเวณนั้น คือ แว่นกันแดดสำหรับผู้ชาย ไขควง และกล่องฟิวส์ นอกจากนี้มีผู้ขับรถผ่านแล้วเจอหมวกกันน็อกตกอบู่บริเวณไร่ข้าวโพด จึงส่งให้ตำรวจตรวจสอบต่อไป
จากการตรวจสอบ พบเลือดของนางสาวเซียร่าห์บนหมวกกันน็อกใบดังกล่าว และดีเอ็นเอของชายซึ่งอาศัยอยู่ในพื้นที่แถวๆนั้น ซึ่งทราบว่าเขาคือ นายเจมส์ วอร์เล่ย์ อายุ 57 ปี ผู้เคยกระทำผิดลักพาตัวผู้หญิง เมื่อ 20 ปีก่อน นายเจมส์ขับรถชนหญิงคนหนึ่งที่กำลังขี้จักรยาน ด้วยรถบรรทุก เมื่อเธอล้มลง เขาตีหัวเธอแล้วลากขึ้นรถไป แต่มีรถคันอื่นขับผ่านมาพอดี แล้วเข้าทำการช่วยเหลือ ทำให้นายเจมส์ถูกจับกุมตัวก่อนที่จะก่อเหตุร้ายแรงจนน่าสลดใจไปกว่านี้
ต่อมา ตำรวจบุกตรวจบ้านของนายเจมส์ และพบห้องใต้ดินที่ซ่อนอยู่ใต้กองซังข้าวโพด ในห้องนั้นมีตู้แช่แข็งที่มีรอยเลือด กางเกงในผู้หญิง กุญแจมือ เชือก และเทป อีกทั้งมีฟูกนอนและผ้าเช็ดตัวกระดาษที่มีดีเอ็นเอของนางสาวเซียร่าห์ติดอยู่ด้วย โดยนายเจมส์มีรอยขีดขวนตามแขนและขา สัปดาห์ก่อนนางสาวเซียร่าห์หายตัวไป เขาค้นหาภาพยนตร์โปี ด้วยคำค้นหาว่า ‘ลักพาตัว’ ‘หมดทางหนี’ ‘มัดตัว’ และ ‘ข่มขืน’
หลังจากนั้น 3 วัน ทางหน่วยค้นหาพบร่างนางสาวเซียร่าห์ถูกฝังในหลุมศพที่เพิ่งขุดไม่นาน ที่ไร่ข้าวโพด จากการชันสูตรพบว่า ข้อมือของเธอถูกใส่กุญแจมือ และมัดด้วยเชือก ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตคือ ขาดอากาศหายใจจากการถูกนำถุงพลาสติกครอบศีรษะ จากนั้น นายเจมส์ถูกจับและนำไปดำเนินคดี ซึ่งเขาได้รับโทษในข้อหาฆาตกรรมและลักพาตัว รวมไปถึงการย่ำยีศพ อย่างไรก็ตามนายเจมส์ยืนยันว่าเขาบริสุทธิ์และถูกใส่ร้าย เหมือนว่าเขาทำตัวน่าสลดใจเรียกคะแนนสงสาร
นอกจากนี้นายเจมส์ยังหันมาหาครอบครัวของนางสาวเซียร่าห์ แล้วพูดขึ้นว่า “การเสียชีวิตของเธอสร้างความเศร้าโศกให้กับทุกคน” และเขายังบอกว่านางสาวเซียร่าห์เป็น “เด็กหญิงสุดสวย” ทำให้หลายคนเดินออกจากห้องพิจารณาคดีไป ซึ่งนายเจมส์ถูกศาลตัดสินประหารชีวิตในที่สุด
