สาวร่ำไห้! ฉีดฟิลเลอร์เสริมอึ๋ม เน่าติดเชื้อ-ไหลกองหน้าท้อง ช็อกดาราดังรีวิวเพียบ

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 20 ส.ค. ที่กองปราบปราม น.ส.นวรัตน์ คงบำรุง อายุ 27 ปี พร้อมด้วย น.ส.ศรันยา หวังสุขเจริญ ทนายความส่วนตัว เดินทางเข้าแจ้งความกับ บริษัทเสริมความงามแห่งหนึ่ง หลังจากตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์เสริมหน้าอก จนเกิดอาการติดเชื้อ ทำให้ต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาลนานนับเดือน โดยบริษัทให้เงินค่าเสียหายเพียง 150,000 บาทเพื่อไม่ให้มีการฟ้องร้อง และไม่มีการรับผิดชอบ

น.ส.นวรัตน์ กล่าวว่า ตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ที่หน้าอก เมื่อปี 2555 ในราคา 120,000 บาท โดยสาเหตุที่ตนตัดสินใจทำกับคลินิกนี้ เนื่องจากเป็นคลินิกที่มีชื่อเสียง และดูจากรีวิว พบว่ามี มีดาราดังหลายคนรีวิวเป็นจำนวนมาก จนมั่นใจว่าจะปลอดภัย ต่อมาเมื่อปี 2557 รู้สึกมีอาการไข้ขึ้น ใต้ราวนมบวม หน้าท้องบวมขึ้นเรื่อยๆ จึงไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลบีแคร์ เพื่อให้แพทย์ตรวจดูอาการ พบว่าฟิลเลอร์ไหลไปรวมที่บริเวณหน้าท้อง

น.ส.นวรัตน์ กล่าวว่า จึงเข้าปรึกษากับคลินิกที่ทำ แต่ทางคลินิกบอกว่าเป็นปกติ ตนต้องการดูดออก ทางคลินิกจึงดูดออกให้ ในราคา 60,000 บาท เมื่อแพทย์บอกว่าดูดออกหมดแล้ว แนะนำให้เสริมซิลิโคนที่หน้าอกต่อจะมีส่วนลดให้ จึงตัดสินใจทำ ในราคา 130,000 บาท ตั้งแต่ที่ทำมา พบว่าขนาดของหน้าอกผิดรูป เบี้ยวตลอด

น.ส.นวรัตน์ กล่าวต่อว่า ต่อมา เมื่อปี 2559 ตนตั้งท้อง และปี 2560 ผ่าคลอดลูก แพทย์ตกใจ พบว่าผ่าออกมาหน้าท้องมีแต่ฟิลเลอร์ หน้าท้องผิดปกติ ข้างในกลวงโบ๋ เป็นโพรง ต่อมาเดือนตุลาคม หน้าอกบวมขึ้น จึงได้ไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาล ปรากฎว่า หน้าท้องที่บวมที่มีรอยเย็บจากการผ่าตัดคลอดลูกนั้น แผลปริมีหนองทะลักออกมาจำนวนมาก จึงต้องนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลกว่า 1 เดือน จากการศึกษาทำให้ตนทราบว่าฟิลเลอร์ที่ฉีดนั้น เหมาะสำหรับฉีดเพิ่งขนาดเล็กๆเท่านั้น เช่น ฉีดฟิลเลอร์ ใต้ตา ซึ่งไม่สามารถฉีดที่หน้าอกได้

“ในระหว่างที่รักษา ตัวแทนจากคลินิก เดินทางมาเยี่ยม และได้ให้เซ็นสัญญาให้เงินค่าเสียหาย 150,000 บาท พร้อมบอกว่า หากจะเรียกร้องมากกว่านี้ ให้ไปเรียกร้องในชั้นศาล ทำให้ตัดสินใจเซ็น เนื่องจากขณะนั้นจะต้องใช้ค่ารักษาพยาบาลเกือบครั้งล้าน ทางครอบครัวกับสามี จะต้องไปยืมเงินมาเพื่อรักษาให้หาย” น.ส.นวรัตน์ กล่าว

“ตอนนี้อาการของดีขึ้นแล้ว แต่ว่าทุกอย่างไม่เหมือนเดิม หน้าอกผิดรูป ไม่เหมือนเดิม การเลี้ยงดูลูก เลี้ยงไม่ได้ ไม่สามารถอุ้มลูกได้ เนื่องจากแขนยกไม่ได้ เพราะมีการดูดสายระบายเลือดตลอดเวลา หน้าท้องเป็นแผลฉกรรจ์ ถูกเปิดแผลไว้ตลอด ตั้งแต่ 19 ธ.ค. เพิ่งจะมาเย็บปิดแผล ต้นเดือนที่แล้ว และทางแพทย์ก็บอกว่าไม่สามารถดูดฟิลเลอร์ในร่างกายออกมาทั้งหมด เนื่องจาก ฟิลเลอร์กระจายไปทั่วร่างกาย จึงมีโอกาสอักเสบตลอดเวลา จากนี้จะเอาเรื่องคลินิกให้ถึงที่สุด” น.ส.นวรัตน์ กล่าวทั้งน้ำตา

ด้านนายทศวรรษ ลุนจักร สามี กล่าวทั้งน้ำตา ว่าหลังจากที่ภรรยาป่วย จะต้องเข้ารักษาที่โรงพยาบาลนานนับเดือน ภรรยาไม่มีโอกาสได้เลี้ยงลูก หรือ ให้นมลูก เนื่องจากก่อนหน้านี้เคยให้นมลูกติดต่อกันประมาณหนึ่งเดือน หลังจากนั้นเมื่อทราบว่ามีฟิลเลอร์อยู่ในร่างกายก็ไม่สามารถให้นมได้ เพราะเมื่อลูกทานนมแม่เข้าไป ทำให้ลูกมีอาการปอดติดเชื้อเรื้อรังและไม่สามารถหายได้ ในระหว่างการรักษา ทั้งคู่ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด ตนเห็นสภาพภรรยาและลูก ก็รู้สึกสงสารใจที่ต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ จะดำเนินการเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด เท่าที่จะสามารถทำได้

ด้านน.ส.ศรันยา กล่าวว่า จะมาแจ้งข้อหากับ คลินิกศัลยกรรม ในข้อหาประมาททำให้บาดเจ็บสาหัส แต่มองว่าเป็นไปด้วยความเจตนา เนื่องจากเพื่อต้องการให้มาใช้บริการที่คลินิก อย่างไรก็ตาม จะต้องดูตามข้อมูลที่เป็นจริงอีกครั้ง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน