กรมป่าไม้ เผย แอพฯ ‘อี-ทรี’ ทำ เกษตรกรไทย ตื่นตัว หันปลูกไม้เศรษฐกิจเฉียดแสนต้น ยอดดาวน์โหลดทะลุหมื่น สนองความต้องการของตลาดที่ปรับตัวสูงขึ้น ช่วยสร้างอาชีพและรายได้ที่ยั่งยืน

เกษตรกรไทย / เมื่อวันที่ 15 พ.ย. นายพงศ์บุณย์ ปองทอง รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) รักษาราชการแทนอธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวถึงแอพพลิเคชั่น e-Tree (อี-ทรี) ของกรมป่าไม้ ที่ได้เปิดตัวไปเมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา และได้พัฒนาระบบให้ทำงานได้สมบูรณ์มากขึ้น ว่า จากข้อมูลมีผู้เข้ามาดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น อี-ทรี กว่า 10,000 คน และมีผู้ลงทะเบียนใช้งาน 400-500 ราย โดยมีต้นไม้ที่ลงทะเบียนไว้ในระบบทั้งสิ้น 74,000 ต้น ซึ่งคาดการณ์ว่าปลายปี 2561 จะมีผู้เข้ามาลงทะเบียนต้นไม้เพิ่มขึ้นอีกเป็น 100,000 ต้น

นายพงศ์บุณย์ กล่าวต่อว่า แอพพลิเคชั่น อี-ทรี ของกรมป่าไม้ ได้รับเสียงตอบรับที่ดีมากจากผู้ใช้งาน ยกตัวอย่าง ประชาชนในพื้นที่จ.ระยองที่เข้ามาลงทะเบียนใช้งาน ให้เสียงตอบรับผ่านเจ้าหน้าที่โดยตรงว่า รู้สึกดีใจที่หน่วยงานภาครัฐได้ให้ความสำคัญ พร้อมทั้งส่งเสริมการปลูกไม้เศรษฐกิจ ซึ่งตนเองปลูกต้นไม้มาเป็นเวลา 30 กว่าปี

นายพงศ์บุณย์ กล่าวอีกว่า แต่เนื่องจากเป็นผู้ถือครองเอกสารสิทธิใบแจ้งครอบครองที่ดิน (ส.ค.1) ทำให้ไม่สามารถนำไปขึ้นทะเบียนสวนป่าตามที่กรมป่าไม้เปิดลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ได้ จึงเกิดความรู้สึกท้อใจ เพราะต้นไม้ที่ปลูกไว้หากไม่มีการรับรองที่จะนำไปใช้อ้างอิงความถูกต้องตามกฎหมายของแหล่งที่มาของไม้ ความกังวลที่เกิดขึ้นจากการปลูกต้นไม้มากถึง 200 ไร่ หรือประมาณ 5,000 ต้น จะส่งผลต่อการใช้ไม้ที่ตนเองได้ปลูกขึ้น

“ซึ่งแอพพลิเคชั่น อี-ทรี ได้เข้ามาช่วยให้เขาลงทะเบียนแหล่งปลูกต้นไม้ได้ รวมถึงการขอใช้ประโยชน์จากต้นไม้ ทั้งการขอตัด การเคลื่อนย้าย การซื้อขาย การค้ำประกัน และการส่งออกไม้ที่จะต้องมีใบรับรองแหล่งที่มาของไม้ ดังนั้น หากต้องการใช้ประโยชน์จากไม้ที่ปลูกและได้ทำการลงทะเบียนไว้แล้ว ก็สามารถแจ้งผ่านแอพพลิเคชั่น โดยทางเจ้าหน้าที่จะลงพื้นที่ตรวจสอบและระบบจะทำการพิมพ์เอกสารบัญชีไม้นั้นได้ทันที” รองปลัด ทส. กล่าว

รองปลัด ทส. กล่าวว่า ขณะนี้ประชาชนกำลังตื่นตัว และสนใจหันมาปลูกต้นไม้มากขึ้น โดยเฉพาะไม้เศรษฐกิจที่มีมูลค่ามาก ประกอบกับรัฐบาลกำลังพิจารณายกเลิกมาตรา 7 ตามพ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 โดยไม้หวงห้ามทุกชนิดในที่ดินกรรมสิทธิ์ของประชาชนที่ครอบครองสามารถนำไปใช้เพื่อค้าขายและใช้สอยได้อย่างถูกกฎหมาย เช่น ไม้สัก ไม้ยางนา ไม้พะยูง ฯลฯ ยกเว้นการส่งออกที่ต้องมีเอกสารรับรองแหล่งที่มา ด้วยเหตุนี้ การลงทะเบียนผ่านระบบ อี-ทรี จะช่วยแก้ไขในเรื่องดังกล่าว

นายพงศ์บุณย์ กล่าวอีกว่า รวมทั้งยังสามารถป้องกันการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ที่ต้องการเรียกรับผลประโยชน์ นอกจากนี้ กรมป่าไม้กำลังทดสอบการเชื่อมต่อระบบ อี-ทรี เข้ากับระบบการออกหนังสือรับรองทางอิเล็กทรอนิกส์ แล้วจึงไปเชื่อมต่อกับระบบ NSW กลางเพื่อให้เป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมด หรือเรียกว่า ระบบไร้เอกสาร (Paperless) ซึ่งเป็นช่องทางติดต่อสื่อสารผ่านภาคธุรกิจในการนำเข้าและส่งออก

“เมื่อไม้มีขนาดใหญ่และผู้ปลูกพร้อมส่งออกจะสามารถเชื่อมต่อกับระบบดังกล่าวและแจ้งแหล่งปลายทางถึงรายละเอียดที่มาของไม้อย่างถูกกฎหมาย เป็นการช่วยลดขั้นตอน ลดเวลาและค่าใช้จ่าย ที่จากเดิมต้องใช้ระยะเวลาดำเนินการหลายวัน รวมถึงช่วยลดขั้นตอนการทำงานของเจ้าหน้าที่อีกทางหนึ่ง” รองปลัด ทส. กล่าว

ด้าน นายบรรจง วงศ์ศรีสุนทร ผอ.สำนักรับรองการป่าไม้ กล่าวถึงขั้นตอนการลงทะเบียนใช้งานแอพพลิเคชั่น อี-ทรี ว่า สามารถใช้บริการผ่าน 2 ช่องทาง คือ เว็ปไซต์ www.nsw.forest.go.th หรือดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น ผ่านโทรศัพท์สมาร์ทโฟนได้ทั้งระบบแอนดรอยด์และระบบไอโอเอส โดยมีขั้นตอนไม่ยุ่งยาก คือ 1.กรอกรายละเอียดข้อมูลตามบัตรประจำตัวประชาชน 2.เข้าระบบลงทะเบียนต้นไม้ผ่านชื่อและรหัสที่ตั้งไว้ พร้อมทั้งกรอกข้อมูลตามรายละเอียดที่ปรากฏ เช่น ความสูง เส้นรอบวงและการปลูกต้นไม้เพิ่ม พร้อมปักหมุดขอบเขตของแปลงปลูกและตำแหน่งของต้นไม้

นายบรรจง กล่าวต่อว่า โดยสามารถปักหมุดผ่านแผนที่กูเกิล (Google Maps) หรือลงพื้นที่เพื่อตรวจจับตำแหน่งตามจีพีเอส (GPS) เพื่อช่วยเพิ่มความแม่นยำของตำแหน่งได้ หลังจากนั้นระบบจะทำการคำนวณและแสดงผลเป็นปริมาตรของเนื้อไม้ที่เพิ่มขึ้นในแต่ละปี ทั้งนี้ หากต้องการใช้ประโยชน์จากต้นไม้ที่ปลูกก็สามารถแจ้งผ่านระบบได้ทันที ทางกรมป่าไม้จะจัดส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปในพื้นที่เพื่อตรวจสอบและดำเนินการต่อไป

นายบรรจง กล่าวอีกว่า ซึ่งนอกจากประชาชนจะได้รับความสะดวกแล้ว ยังช่วยทำให้ภาครัฐรับทราบว่าในประเทศไทยมีการปลูกต้นไม้ไว้ในพื้นที่ใดบ้าง และสามารถนำข้อมูลไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในการวางแผนงานด้านต่างๆ โดยเฉพาะการขับเคลื่อนนโยบายส่งเสริมการปลูกป่าเศรษฐกิจอีกด้วย

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน